ชาวบ้านรุมประณาม มือดีทิ้งรูปปั้นพระเกจิข้างถนน

เวลา 12.30 น. (11 มิ.ย.2560) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบรูปปั้นพระเกจิดังเท่าองค์จริง ทิ้งริมถนนสาย 44 (สายเซ้าเทิร์นซีบอร์ด) บ้านบางปริง ม.7 ต.ขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ภายหลังรับแจ้งทางร.ต.ท.กัมปนาท คงวุ่น ร้อยเวรป้องกันและปราบปราม นำกำลังไปตรวจสอบร่วมกับชาวบ้าน
ณ ที่นั้นพบรูปปั้นพระสงฆ์เท่าองค์จริงหน้าตักกว้าง 30 นิ้ว สูง 38 นิ้ว ที่ฐานระบุชื่อ "หลวงตาจิตร" พระเกจิดังรูปหนึ่งในภาคใต้ สภาพมีร่องรอยถูกไฟไหม้ แต่ตัวองค์พระยังสมบูรณ์ บริเวณใกล้เคียงกันพบพระพุทธรูปอีกหลายองค์ที่ทำจากปูนปั้นและทองเหลือง รวมทั้งบาตรพระ องค์ฤาษี ไม้เท้า ถูกทิ้งริมถนนปะปนกับขยะมีร่องรอยถูกไฟไหม้มีลักษณะเหมือนถูกนำมาจากแหล่งเข้าทรงทางไสยศาสตร์
จากการสอบถามนายจงกล เกิดกรูด อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103/2 ม.1 ต.กรูด อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ชาวบ้านรายหนึ่งมีอาชีพขับรถพ่วง 22 ล้อบรรทุกดิน หิน ทราย ผู้ที่พบ ทราบว่าตนเองขับรถผ่านเส้นทางสายนี้ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุเห็นเหมือนมีคนนั่งอยู่ริมถนนและด้วยความที่ตนเองเป็นอาสากู้ภัยด้วย จึงเพ่งมองเห็นว่าเป็นพระพุทธรูป จึงโทรศัพท์แจ้งผู้สื่อข่าวก่อนที่จะแจ้งตำรวจให้รับทราบและคิดว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างมาก
ขณะที่นายนพดล แดงมา อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 355 ม.7 ต.ขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ชาวบ้านอีกราย กล่าวเช่นกันว่าเป็นการกระทำไม่เหมาะสม ตอนที่พระเกจิดังท่านนี้ดัง ๆ ทุกคนกราบไหว้บูชา แต่เมื่อไม่ถูกใจ หรือไม่พอใจนำมาทิ้งขว้าง เป็นการกระทำที่ใช้ไม่ได้ เป็นชาวพุทธหรือป่าว
ต่อมาทาง พ.ต.อ.สมบัติ ฉ่ำแสง ผกก.สภ.ขุนทะเล ได้สั่งการให้ตำรวจนำพระพุทธรูปดังกล่าวและของกลางทั้งหมดไปไว้ที่ สภ.ขุนทะเล เพื่อตรวจสอบว่ามีการขโมยพระแล้วนำมาทิ้งหรือไม่ พร้อมทั้งตรวจสอบที่มาว่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ไฟไหม้สำนักเข้าทรงแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เมืองเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาหรือไม่ เพราะที่เกิดเหตุพบใบแจ้งหนี้ค่าโทรศัพท์มือถือติดมากับขยะที่ปะปนกับพระพุทธรูปมาด้วย