svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

เจ้าของร้านอาหารดังถูกแฮกเฟซบุ๊ก

08 มิถุนายน 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เชียงใหม่ - เจ้าของร้านอาหารดังถูกแฮ๊คเฟซบุ๊คยืมลูกค้าสูญเงินกว่าเกือบ 4 หมื่นบาท ผู้เสียหาย 3 รายทยอยเข้าแจ้งความแต่ละพื้นที่แล้ว

เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 8 มิ.ย.ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียหายเจ้าของร้านอาหารชื่อดังในพื้นที่อำเภอสันทราย ถูกแฮ๊คเฟซบุ๊คติดต่อข้อความไปยืมเงินลูกค้ามีผู้เสียหายสามรายสูญเงินเกือบ 4 หมื่นบาท ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวเจ้าของบัญชีเพื่อดำเนินคดีต่อไป หลังรับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบที่ สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่
พบนายปิยะวุฒิ ศรีใส อายุ 36 ปี เจ้าของร้านซุ้มแซ่บเฮือนอีสาน อยู่บ้านเลขที่ 336 หมู่ 9 ต.สันทรายหลวง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เจ้าของเฟซบุ๊คที่ถูกแฮ๊คได้นำนางสาวมะลิวรรณ คันธรส อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 279 หมู่ 4 ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ผู้เสียหายที่ถูกหลอกโอนเงิน เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ดวงฤทธิ์ วรรณฤทธิ์ ร้อยเวร สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่ หลังถูกคนร้ายแฮ๊คเฟซบุ๊คเจ้าของร้านติดต่อขอยืมเงินจำนวน 3 หมื่นบาท เพื่อติดตามมาดำเนินคดีตามกฏหมาย
นายปิยะวุฒิ ศรีใส อายุ 36 ปี เจ้าของร้านซุ้มแซ่บเฮือนอีสาน เจ้าของเฟซบุ๊คที่ถูกคนร้ายแฮ๊ค เปิดเผยว่า ตนเป็นเจ้าของเฟซบุ๊คที่ถูกแฮ๊คโดยคนร้ายได้เปลี่ยนพาสเวิร์ดและถูกปิดไปแล้ว ตนไม่ได้เสียหายด้านทรัพย์สิน แต่เสียหายด้านชื่อเสียงเพราะถูกคนร้ายเอาไปหลอกเพื่อนในเฟซบุ๊คซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าร้านและสนิทกันให้โอนเงินจึงมาแจ้งความลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
"อยากเตือนภัยบัญชีธนาคารนี้เป็นภัยต่อสังคม ให้กรณีีนี้เป็นกรณีตัวอย่าง การเล่นเฟซบุ๊คหรือใครขอให้โอนเงินก็ให้ระวังไว้ก่อน ในกรณีนี้เห็นคนโดนหลอกมาประมาณหนึ่งปีแล้ว ก็ไม่คิดว่าจะโดนเข้ากับตัวเอง โดยน้องที่ไว้เนื้อเชื่อใจกันตกเป็นเหยื่อ และติดตามคนร้ายมาลงโทษให้ได้ โดยคนร้ายเข้าไปสืบข้อมูลในเฟซบุ๊คเพื่อสร้างความสนิทสนมกับเหยื่อ เรื่องมาแดงตอนที่มาขอยืมเงินแฟนผมขณะผมทำกับข้าวที่ร้านเพราะอยู่ด้วยกัน"นายปิยะวุฒิ กล่าว
ด้านนางสาวมะลิวรรณ คันธรส อายุ 35 ปี ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนเป็นหนึ่งในผู้เสียหายจำนวน 3 คน โดยสนิทกับนายปิยะวุฒิ เพราะบ้านอยู่ใกล้กันไปกินอาหารร้าน จนนับถือเป็นพี่เป็นน้อง เมื่อวานมีข้อความมาทางเฟซบุ๊ค แจ้งว่า "รบกวนโอนเงินให้หน่อยค่างวดรถ แล้วจะโอนเงินคืนให้ประมาณทุ่ม" ด้วยความสนิทสนม จึงโอนไปให้รอบแรก 1.1 หมื่นบาท เมื่อโอนไปป ก็ส่งขอความขอยืมอีก 1.9 หมื่นบาท บาท รวมเป็น 3 หมื่นบาท โดยอ้างว่าจะคืนให้ 3.3 หมื่นบาท ส่วนต่างให้เป็นดอกเบี้ย และของขวัญวันเกิดย้อนหลัง จึงโอนให้ไปเป็นรอบที่ 2 แต่แปลกใจว่าเมื่อโอนไปให้ กลับส่งข้อความขอยืมอีก 2 หมื่นบาท และให้โอนอีกบัญชี จึึงเอะใจโทรศัพท์ไปหาเจ้าตัวจนทราบว่ามีคนถูกหลอกหลายราย
โดยมีผู้เสียหายอีก 2 รายโดนลักษณะเดียวกัน 7,000 บาท และ 1,500 บาท จากการไปตรวจสอบบัญชีทราบว่าเจ้าของบัญชีอยู่ในพื้นที่ จ.ชลบุรี โดยมียอดเงินหมุนเวียนในบัญชีจำนวนมาก แต่ก็ถอนออกไปจนเหลือเงินคงค้างแค่ 20 บาทเท่านั้น

logoline