svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ฟังเสียงตร.บ้าง!! ความเครียดไม่เป็นผลดี.. ผู้ต้องหาอาจไม่ให้ความร่วมมือ

05 มิถุนายน 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

จากกรณีข่าวคดีฆาตกรรมหั่นศพ ที่เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจปฎิบัติต่อผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพแบบผ่อนปรน สุขสบาย เหมือนกินดีอยู่ดี ล่าสุดเฟซบุ๊กของผู้ใช้นามว่า "Panja Pholto" ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนในคดีต่างๆ ได้ออกมาอธิบายถึงเหตุของการปฎิบัติต่อผู้ต้องหาของตำรวจว่า กระบวนการยุติธรรมไม่ควรขับเคลื่อนด้วยอารมณ์ เพราะจะไม่เป็นผลดีในทางคดี

"การที่เราไปแสดงความรังเกียจ เดียดฉัน สร้างความกดดันมากๆ กับผู้ต้องหาซึ่งยังไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเต็มตัว จนทำให้ผู้ต้องหามีความเครียดนี่ไม่เป็นผลดีในทางคดีเลย สิ่งที่จะเกิดขึ้น คือ ผู้ต้องหาไม่ให้ความร่วมมือครับ และก็อาจจะไม่ไห้ข้อมูลอะไรเลย"

ฟังเสียงตร.บ้าง!! ความเครียดไม่เป็นผลดี.. ผู้ต้องหาอาจไม่ให้ความร่วมมือ


ทั้งนี้ เฟซบุ๊ก Panja Pholto ได้โพสต์ โดยระบุว่า...
"ถ้าได้มาทำงานกับตำรวจจริงๆ จะรู้ว่า การรักษาบรรยากาศในคดีฆาตกรรม เพื่อให้ผู้ต้องหาผ่อนคลายนี่มันเป็นเรื่องสำคัญมากเลยนะครับจากประสบการณ์การทำงานที่ผมทำคดีฆาตกรรมมาประมาณ 3 คดี ในช่วงการรับราชการ 2 ปี
การที่เราไปแสดงความรังเกียจ เดียดฉัน สร้างความกดดันมากๆ กับผู้ต้องหาซึ่งยังไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเต็มตัว จนทำให้ผู้ต้องหามีความเครียดนี่ไม่เป็นผลดีในทางคดีเลย สิ่งที่จะเกิดขึ้น คือ ผู้ต้องหาไม่ให้ความร่วมมือครับ และก็อาจจะไม่ไห้ข้อมูลอะไรเลยมันไม่ได้เหมือนในหนังที่ เอาโคมไฟส่องหน้า น้ำสาด ตะคอก ตอกมือ เค้นความจริง นะครับเรื่องจริง คือ เราพยายามทำทุกอย่างให้มันดูปกติมากที่สุด ให้เขาเป็นตัวเขาแบบปกติมากที่สุด ต้องเข้าใจนะครับว่าตำรวจเนี่ยไม่ใช่คนในครอบครัว หรือคนรู้จักกับผู้ต้องหามาก่อน และต้องมาสร้างความไว้วางใจกัน นี่มันยากนะครับ จะยิ้มแย้มแฮปปี้เกินไป อันนี้ก็ไม่ดีครับดู Fake เกิน บรรยากาศเป็นกันเองสบายๆ ก็กำลังดี แต่ถ้าแบบตึงเครียดนี่ไม่ต้องพูดถึงครับ เอาไปไกลๆ เลยก่อนเข้าสอบปากคำผู้ต้องหาในคดีสะเทือนขวัญ อย่างคดีฆ่า นี่ผมต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องน้ำเสียง กับสีหน้า ในระดับหนึ่งเลย แม้แต่การเลือกใช้คำพูด ยังต้องวิเคราะห์เลยครับว่าดูสุ่มเสี่ยงจะทำให้เกิดความเครียดกับผู้ต้องหา หรือเปล่า อันนี้ผมพูดถึงผู้ต้องหาที่เป็นผู้ชายนะครับ ส่วนคดีที่ผู้ต้องหาที่เป็นผู้หญิงนี่ยิ่งแล้วกันใหญ่เลยครับเรื่องให้ผู้ต้องหาสูบบุหรี่นี่อยู่ในตำราวิชาตำรวจทั่วไปครับ หลายๆ ประเทศก็มี ถ้าผ่านการอบรมตำรวจมา ประโยคนี้น่าจะผ่านหูครับ" ใจเย็นๆ ไว้นะครับ ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง สูบบุหรี่หน่อยไหม "( ยิ่งถ้าจะให้ดี หากผู้ต้องหาสูบบุหรี่ตามคำชวนแล้ว เจ้าหน้าที่ควรจะสูบเป็นเพื่อนด้วย )พอเขาเริ่มใจเย็น ความเครียดลดลง ความไว้วางใจเกิดขึ้นกับเรา สิ่งที่ตามมาคือ อะไรรู้ไหมครับ" เรื่องจริง มันเริ่มมาจากเหตุการณ์แบบนี้ครับพี่ "" มีดที่ฟัน ที่หาไม่เจอเพราะ ผมโยนไว้ที่นั่นครับ ที่มันไม่มีเลือด เพราะผมเอาจุ่มน้ำตรงนั้นครับ "" หมวดครับ จริงๆ แล้ว เรื่องนี่ มีคนนี้ คนนั้น รู้เรื่องด้วย "ต้องแยกแยะนะครับ ว่า การลงโทษคนตามกระบวนการยุติธรรม ในคดีฆาตกรรม อำนาจในการลงโทษอยู่ในดุลยพินิจศาลตัดสินครับ ไม่ใช่ตำรวจเป็นคนตัดสิน ไม่ใช่ตำรวจเป็นผู้ลงโทษ ตำรวจมีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐาน สอบคำให้การ ตามที่ผู้ต้องหาให้การ ส่งอัยการ ฟ้องศาลพิจารณาคดี ฉะนั้น ควรจะทำทุกอย่างให้มันนุ่มนวล แล้วได้ใจความครบถ้วนครับ เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาคดี และไม่มีข้อกังขาเรื่อง การบังคับขู่เข็ญ หรือ การซ้อมให้รับสารภาพที่เม้นด่ากันรัวๆ ว่าทำไมตำรวจให้มันทำอย่างนั้นอย่างนี้ ทำไมปล่อยให้แต่งหน้า ทำไมให้สูบบุหรี่ บอกเลยครับว่านอกจาก ไม่ได้ประโยชน์อะไรนอกจากความสะใจแล้ว ยังส่งผลเสียต่อคดีอีกครับเคยเห็นภาพ ร้อยตำรวจโท นั่งโอ๋ ผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรม ที่เป็นชายอายุ 20 กว่า กำลังร้องห่มร้องไห้เป็นเด็ก 7 ขวบ ไหมครับผมนี่แหละครับ แค่ไม่มีนักข่าวมาถ่ายภาพเอาไปลงให้คนด่าแค่นั้นเอง......ไม่มีกระบวนการยุติธรรมใดในโลกขับเคลื่อนด้วยอารมณ์นะครับ....."ขอบคุณเฟซบุ๊ก Panja Pholto

logoline