เวลา21.30 น.วันเดียวกัน หลังถูกสอบนานหลายชั่วโมงนายสุรศักดิ์เริ่มมีอาการกังวล แล้วขอให้เจ้าหน้าที่เรียกนางน้อย กลิ่นกมล อายุ 76 ปี ผู้เป็นแม่มาพบ แล้วจึงให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นลูกคนที่ 2ในจำนวน 4 คน ปัจจุบันืำงานอยู่ที่โรงอิฐใกล้หมู่บ้าน และเป็นคนลงมือฆ่าพ่อตัวเอง สาเหตุเนื้องมาจากเมื่อประมาณสองเดือนเศษที่ผ่านมา ตนได้ไปซื้อรถ จยย.มาใหม่ และพ่อดื่มสุราจนเมา มีปากเสียงกันกับตน ผู้เป็นพ่อใช้ค้อนทุบที่รถตนเองจนเสียหายหลายจุด ทำให้เกิดความแค้นสั่งสมเรื่อยมา และมักมีปากเสียงกันอยู่เสมอ ตนเคยบอกน้องสาวและแม่ว่าสักวันจะทำร้ายพ่อให้ได้แต่ไม่ให้ถึงตายเพราะความแค้น
วันเกิดเหตุตนดื่มสุราที่บ้านกับน้องเขยไปจำนวน 1 แก้ว แล้วออกไปที่ทุ่งนาประมาณ 20.20 น. ผู้เป็นพ่อเห็นตนมาค่ำมืด จึงส่องไฟใส่หน้า ถามว่ามาทำไม ตนไม่พอใจอยู่แล้ว และเห็นจอบวางอยู่ข้างกระท่อม จึงคว้าจอบ กระหน่ำตีเข้าร่างกายและศีรษะหลายครั้ง จนพ่อกระเด็นตกบ่อน้ำ แต่คิดว่าคงไม่ตาย ก่อนหนีกลับบ้านนอน เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น. ตื่นเช้ามาดูพบว่าเสียชีวิตแล้ว ตนคิดอะไรไม่ออกจึงทำเฉย กระทั่งเจ้าหน้าที่สอบสวนเครียด จำนนต่อหลักฐานต่างๆจึงยอมมอบตัวและรับสารภาพเกี่ยวกับการสังหารผู้เป็นพ่อทั้งหมด
ต่อมาเวลา 08.00 น.วันที่ 3 มิ.ย.60 พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ศรีผ่องงาม ผกก.สภ.จังหาร พ.ต.ท.อานนท์ โยธะการี รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ญาณวัฒน์ คุ้มบัวลา รอง ผกก สอบสวน ร.ต.อ.พีรยุทธ รัตนศรี รอง สว.สอบสวน พร้อมกำลังสายตรวจ และชุดสืบสวนคุมตัวนายสุรศักดิ์ ไปทำแผนประกอยคำรับสารภาพในที่เกิดเกตุ โดยมีชาวบ้านที่ทราบข่าวท่าให้ความสนใจมุงดูจำนวนมาก