คุมตัว"วศิน"ผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพฝากขัง

พ.ต.ท.ศุภฤกษ์ สุวรรณราษฎร์ รอง ผู้กำกับการสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเขาสวนกวาง เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำนายวศินเมื่อวานนี้ เจ้าตัวยังคงยืนยันว่า ไม่ได้เป็นผู้ลงมือหั่นศพนางสาววริศรา แต่ยอมรับว่า มีส่วนร่วมในการขนย้ายชิ้นส่วนศพไปอำพราง และเป็นผู้ขับรถยนต์พาผู้ก่อเหตุไปซื้ออุปกรณ์ในการหั่นและอำพรางศพนางสาววริศรา โดยมีร่างของเธออยู่บนรถคันดังกล่าวด้วย แต่ในวันเกิดเหตุ นายวศิน ยืนยันว่า นางสาวจิดารัตน์ พรมคุณ ไม่ได้มีส่วนร่วมในการก่อเหตุ ซึ่งตรงกับคำให้การของนางสาวจิดารัตน์ ที่ปฎิเสธว่าตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการฆ่าหั่นศพ
อย่างไรก็ตาม ในชั้นพนักงานสอบสวน ตำรวจได้คัดค้านการประกันตัวนายวศิน เนื่องจากผู้ต้องมีพฤติการณ์หลบหนี ในทางการสืบสวนพบว่าเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อเหตุ และเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง การจะให้ประกันตัวหรือไม่นั้น จึงขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล เบื้องพนักงานสอบสวนจะทำสวนสำนวนส่งให้อัยการเพื่อส่งฟ้องผู้ต้องหาให้แล้วเสร็จก่อนจะครบฝากขังในผลัดที่ 6
ส่วนการดำเนินคดีกับนางสาวจิดารัตน์ ซึ่งถูกคุมตัวมาขออำนาจศาลฝากขัง และถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำขอนแก่นตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ หลังจากทำการสอบปากคำแล้วเสร็จ จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหายืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อเหตุ แต่ยอมรับว่ากลุ่มผู้ต้องหาได้นำโทรศัพท์มือถือของผู้ตายมาให้นำไปขายจริง ซึ่งตรงกับคำให้การของนายวศิน ซึ่งตรงกับข้อมูลของเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ที่มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนหลังก่อนวันเกิดเหตุอย่างน้อย 3 วัน ซึ่งพบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุได้ตระเวนไปเทีายวตามสถานบันเทิงด้วยกัน แต่ไม่พบว่ามีนางสาวจิดารัตน์อยู่ด้วย จึงเชื่อได้ว่า นางสาวจิดารัตน์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการฆ่า
รองผู้กำกับการสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเขาสวนกวาง ระบุด้วยว่า คำให้การของนางสาวจิดารัตน์ เป็นประโยชน์ต่อคดีจนนำไปสู่การติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุรายอื่น และไม่ได้หลบหนีการจับกุม เนื่องจากนางสาวจิดารัตน์ได้เข้ามอบตัว หลังจากทรสบว่าถูกออกหมายจับ ในชั่นพนักงานสอบสวนจึงไม่คัดค้านการประกันตัว โดยผู้ต้องหาสามารถยื่นขอประกันตัวได้ในชั้นศาลได้ โดยจะต้องใช้หลักทรัพย์ในการยื่นประกันตัว จำนวน 650,000 บาท โดยมีรายงานว่าญาติเตรียมยื่นประดันตัวในวันนี้ ส่วนจะได้รับการประกันตัวหรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล
ส่วนความคืบหน้าในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับอีก 3 คน ล่าสุดยังคงหลบหนีอยู่ที่ประเทศเมียนมาร์ ส่วนสาเหตุในการฆาตรกรรมนั้นรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการขบวนค้ายาเสพติดข้ามชาติ แต่เป็นความขัดแย้งระหว่างผู้ก่อเหตุและผู้ตายที่หักหลังกันเอง