กระบะผ่าแผงกั้นถูกรถไฟชนดับ 1 ราย

วันที่ 31 พ.ค.60 เวลา 21.30 น. ร.ต.อ.ชารินทร์ ชารีรักษ์ รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดเหตุขบวนรถไฟพุ่งชนรถยนต์กระบะทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตติดอยู่คาซากรถ ที่บริเวณจุดตัดทางรถไฟก่อนเข้าสู่สถานีรถไฟดอนสีนนท์ ระหว่างหลัก กม.ที่ 75-76 กับถนนทางหลวงชนบท สาย ฉช.3312 เส้นทางหัวเนิน-แหลมประดู่ พื้นที่ ม.2 ต.หนองบัว อ.บ้านโพธิ์ จ.เชิงเทรา จึงเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ 

ที่เกิดเหตุเป็นบริเวณที่กำลังมีโครงการก่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟแต่ยังไม่แล้วเสร็จ พบรถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้แบบแค็ปสีขาว หมายเลขทะเบียน บธ-9224 สระแก้ว พุ่งชนติดอยู่กับเสาเครื่องกั้นทางรถไฟแบบอัตโนมัติ และเสาป้ายสัญญาณบอกเตือนรางรถไฟ จนทั้งเสาเครื่องกั้นและตัวรถพังเสียหายยับเยิน ภายในรถที่บริเวณเบาะนั่งแค็ปด้านฝั่งคนขับมีผู้เสียชีวิตเป็นหญิงไม่ทราบชื่อชาวต่างด้าวสัญชาติกัมพูชาติดอยู่ 1 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บในที่เกิดเหตุ 1 ราย คือ นายหนืด สรอย อายุ 39 ปี สัญชาติกัมพูชา ถูกช่วยเหลือนำส่งไปรักษาตัวยังที่ รพ.บ้านโพธิ์ 

โดยที่บนรางรถไฟยังคงมีขบวนรถไฟที่ 843 หมายเลขหัวรถจักรที่ 5112 มีนายสุรัตน์ ศรีเสงี่ยม เป็นคนขับ (พขร.) และมีนายสุทธิพล โพธิ์แพงพุ่ม พนักงานรักษารถ (พรร.) ซึ่งบรรทุกสินค้าเป็นตู้คอนเทรนเนอร์ยาวกว่า 40 โบกี้จอดขวางทางอยู่ สภาพด้านหน้าหัวรถจักรได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย โดยมีท่อลมที่ด้านหน้ารถแตกฉีกขาด เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยฉะเชิงเทราจึงได้ใช้เครื่องมือตัดถ่างนำร่างของผู้เสียชีวิตออกมาจากรถยนต์กระบะ 

จากการสอบถาม นายเกรียงไกร เหลืองเจริญพร อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 741/564 ม.3 ต.หนองตีนนก อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา เจ้าของร้านค้าชำ ตั้งอยู่ด้านฝั่งตรงข้ามทางรถไฟที่เกิดเหตุ ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า รถกระบะคันดังกล่าวได้ขับมาถึงยังจุดตัดทางรถไฟ และพบว่ามีแผงเครื่องกั้นทางรถไฟลงมาขวางทางอยู่ จึงได้เบี่ยงออกไปยังเส้นทางคู่ขนานอีกเส้นหนึ่ง ซึ่งเดิมทางผู้รับเหมาก่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟได้ใช้เป็นทางเบี่ยงให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนได้ขับผ่านข้ามไปมาได้แต่หลังจากผู้รับเหมาได้ทำการก่อสร้างตอม่อของสะพานแล้วเสร็จ เมื่อประมาณหนึ่งเดือนที่แล้ว

 จึงได้ทำการเปิดเส้นทางสายเดิมให้แก่ชาวบ้านใช้ แต่ไม่ได้นำสิ่งกีดขวาง หรือแท่งปูนแบริเออร์มาปิดเส้นทางเบี่ยงที่เคยเปิดให้ชาวบ้านได้ใช้เอาไว้ จึงทำให้มีรถหลงเข้าไปในเส้นทางดังกล่าวอยู่บ่อยครั้ง และเมื่อไม่กี่วันมานี้ทางการรถไฟยังได้มาทำการขุดพื้นถนนตรงบริเวณจุดตัดทางข้ามของทางเบี่ยงออกจากหน้ารางรถไฟ จึงทำให้รถยนต์กระบะคันที่มาประสบอุบัติเหตุในครั้งนี้ขับเข้าไปตก และติดคาอยู่ที่บนรางรถไฟ เนื่องจากเป็นเวลากลางคืนจึงมองไม่เห็นซึ่งคนขับได้พยายามที่จะเร่งเครื่องขับโยกตัวรถ เพื่อดิ้นขึ้นมาแต่ไม่สำเร็จ จึงได้เปิดประตูทางด้านฝั่งคนขับหลบหนีเอาตัวรอด ลงไปจากรถยนต์กระบะก่อน ในขณะที่ขบวนรถไฟมาถึงพอดี จึงถูกรถไฟชนเข้าอย่างเต็มแรง จนรถยนต์กระบะกระเดินปลิวไปพุ่งชนเข้ากับเสาหลักของเครื่องกั้นดังกล่าว จากนั้นคนขับที่หนีเอาตัวรอดออกมาจากตัวรถได้จึงได้หลบหนีไป