"ตลาดโรงเกลือ" ซบเซาหนัก! มีแต่คนขาย ไม่มีลูกค้าแม้วันหยุด

เมื่อวันที่ 29 พ.ค.2560 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสำรวจการค้าขายในพื้นที่ตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ภายหลังเจ้าหน้าที่ทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ากวดขันจับกุมสินค้าที่ละเมิดเครื่องหมายการค้าอย่างหนัก ส่งผลให้กิจการในภาพรวมของตลาดซบเซาลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากไม่มีนักท่องเที่ยว หรือผู้ค้าเดินทางมาจับจ่ายซื้อของในพื้นที่ตลาด ซึ่งปัจจุบันมีการขยายตลาดออกไปในบริเวณโดยรอบหลายร้อยไร่ จากปกติที่เคยมีรถจอดจำนวนมาก และปริมาณการจราจรคับคั่งอย่างมากตั้งแต่เช้า แต่สภาพตลาดในปัจจุบันแทบไม่มีคนเดิน มีแต่คนขาย ไม่มีคนซื้อ
จากการสำรวจพื้นที่โดยรอบเกือบทุกตลาด ส่วนใหญ่มีแต่ผู้ขาย มีเพียงบางร้านที่มีลูกค้าเดินหาซื้อของบ้างประปราย เมื่อสอบถามไป ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า เงียบมาก โดยเฉพาะโซนพื้นที่ขายสินค้าของเก่าและลิขสิทธิ์ เช่น กระเป๋า รองเท้า แบรนด์เนม ส่วนใหญ่จะปิดร้านเกือบหมด อ้างว่า เจ้าหน้าที่ลิขสิทธิ์จะลงพื้นที่ตรวจทุกวัน จึงเลือกที่จะปิดร้านดีกว่า ส่วนร้านที่เปิดขายก็จะติดป้ายลดราคา เพื่อขายสินค้าออกให้มากที่สุด

นาง สาว อายุ 52 ปี ชาวกัมพูชา เจ้าของร้านขายเสื้อผ้้าในตลาดโรงเกลือมาตั้งแต่ปี 2000 กล่าวว่า ช่วง 17 ปีที่ขายของในตลาดแห่งนี้ เห็นความแตกต่างชัดเจนมาก วันนี้มีแต่คนขาย ไม่มีคนซื้อของเลย ทุกวันมีแต่ลิขสิทธิ์ลง คนซื้อก็ไม่แวะมาหาเราเหมือนกัน ส่วนคนที่ซื้อของเราไปแล้ว ก็ไปถูกเจ้าหน้าที่ดักจับกลางทาง พยายามตรวจหาลิขสิทธิ์ และเมื่อหาไม่เจอก็อ้างว่า ไม่เสียภาษี ทั้งที่ของเข้ามาจากฝั่งไทยหรือชั่งกิโล ทุกอย่างต้องเสียภาษีอยู่แล้ว ทำกันแบบนี้เราจะอยู่ได้อย่างไร
"แม่ค้ากัมพูชาตอนนี้เบื่อ ไม่อยากขาย เชื่อว่า อีกไม่กี่ปี เจ๊งเป็นป่าช้าแน่ ทั้งร้านค้า รถเข็นรับจ้าง ว่างเปล่า ไม่มีคนจ้างเข็น สอบถามแม่ค้าทุกคนได้เลย พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เงียบ ไม่มีคน ยอดขายลดลงไปเป็น 10 เท่า ขายได้ก็เป็นค่าเช่าหมด แล้วพวกเราจะอยู่ได้ยังไง" แม่ค้าชาวกัมพูชา กล่าว

นางมณี ยิม อายุ 45 ปี ชาวกัมพูชา แม่ค้าขายเสื้อผ้า-กางเกงลายพรางทหาร บริเวณตลาดเก่าล๊อค ค. บอกว่า เมื่อก่อนกับเดี๋ยวนี้ผิดกันมาก ซบเซาลง คนไม่มา สาเหตุเพราะมีการจับกุมบ่อย ทำให้เงียบไปเรื่อย ๆ เมื่อก่อนวันอาทิตย์คนเดินแน่นหมดทั้งพื้นที่ ค่าเช่าเดือนละ 25,000 บาท ขายได้แค่วันละพันกว่าบาท ช่วงนี้ขาดทุนมานับปี อยากให้เค้าแก้ปัญหาซักที ไม่รู้เลยว่า เมื่อไหรจะดีขึ้น เพราะตอนมาขายแรก ๆ พอขายได้ ตอนนี้ลดลงไป 3 เท่า เพราะเขาจับลิขสิทธิ์กันเยอะ คนเลยไม่กล้ามา
นางน้อย อายุ 34 ปี ชาวกัมพูชาและสามี ขายผ้าเวสป้อย บอกอีกว่า ชาวกัมพูชาที่มาเช่าพื้นที่ขายของตอนนี้เกือบจะล้ม(เจ๊ง)หมดแล้ว ตอนนี้ในตลาดมีแต่คนขายจริงๆ แต่ไม่มีคนซื้อ สาเหตุเกิดจากเศรษฐกิจบางส่วน เดินดูได้ทุกล๊อคมีแต่คนขายไม่มีคนซื้อ ขนาดรถเข็นรับจ้างเพื่อเข็นของจากลูกค้า ยังเข็นกันแต่รถเปล่า ไม่มีคนเดินจริง ๆ ได้แต่นั่งมองหน้ากัน ค่าเช่าเดือนละ 30,000 บาท ตกวันละพันบาท เมื่อวันเสาร์อาทิตย์ก่อนขายได้วันละ 1000 กว่าบาทเอง วันธรรมก็ไม่ต่างกัน ต่างกับเมื่อช่วง 4-5 ปีก่อนมาก ขายได้วันละเป็นหมื่นกว่าบาท ต่างกันเป็น 10 เท่า อยากให้ช่วยเหลือ อยากให้เศรษฐกิจเหมือนเดิม
ส่วน นายธนพล ผู้เย็น อายุ 33 ปี ลูกค้าที่เข้ามาจับจ่ายซื้อสินค้าจาก จ.สมุทรปราการ บอกว่า เคยมาซื้อของหลายครั้ง ปัจจุับันมันซบเซาลงเยอะมาก เพราะมีตำรวจลงมาจับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์บ่อย ก็เลยยิ่งซบเซา เมื่อก่อนมาวันอาทิตย์คนจะแน่นมาก ช่วง 6-7 โมงเช้าหาที่จอดรถไม่ได้เลย เดี๋ยวนี้มาสาย ๆ ที่จอดรถเยอะแยะ ส่วนใหญ่คนจะได้ยินข่าวว่า ตลาดโรงเกลือปิด ทำให้คนไม่กล้ามา วันนี้ยิ่งทำให้ซบเซาลงมากกว่าเมื่อก่อน

ร.อ.ทองทศ มากสาคร รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว และ สจ.คลองหาด ระบุว่า ตลาดโรงเกลือวันนี้รอวันเจ๊ง เพราะมีปัญหาในการบริหารจัดการ เนื่้องจาก อบจ.สระแก้วดูแลตลาดโรงเกลือจำนวน 70 ไร่ แต่ปรากฏว่า อบจ.บริหารงานผิดพลาด ไม่มีการพัฒนา ขยายเพื่อเก็บค่าเช่า ค่าเซ็ง อย่างเดียว แต่มองข้ามวิสัยทัศน์เรื่องการท่องเที่ยวและวิถีคนชายแดน ถามว่า สินค้าแบรนด์เนมขึ้นเครื่องมาเองได้หรือไม่ การแก้ปัญหาโรงเกลือคือ ที่จอดรถ เมื่อก่อนทุึกล๊อคมีที่จอดรถเข้าไปเทียบจอดซื้อของได้ แต่ตอนนี้ทำเป็นห้องเช่าหมด ที่จอดรถแทบไม่มี ใครจะไปเที่ยว
"ทุกวันนี้สินค้าลิขสิทธิ์เขาเปิดไม่ได้ แต่ก็ใช้วิธีการขายทางอินเตอร์เนต ทหารถ้าจะปิด ต้องปิดให้อยู่ อยากเสนอให้จัดรูปแบบตลาดใหม่ เพราะสัญญาแค่ 3 ปี และตอนนี้เจ้าหน้าที่ปล่อยให้ชาวจีนมาค้าขายโดยไม่เสียภาษีเลย เวลาเขาสั่งของมาขายได้ค่าลดหย่อนในไทยอีก 18 เปอร์เซ็นต์ ขายแล้วไม่ต้องเสียภาษี ส่งเงินกลับไปทั้งหมด ประเทศไทยไม่ได้อะไรเลย สิ่งที่คนไทยได้อย่างมากแค่ 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น" รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว กล่าว