ผู้ว่า ฯ สุโขทัย ยัน! พร้อมรับน้ำเหนือระลอกใหม่

นายปิติ แก้วสลับสี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ได้เรียกหน่วยงานทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับปริมาณน้ำระลอกใหม่จากภาวะฝนตกในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ณ ห้องประชุม ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดสุโขทัย เพื่อตั้งคณะทำงานรองรับสถานการณ์น้ำ คณะแก้ไขสถานการณ์และคณะให้ความช่วยเหลือราษฎรที่อาจจะได้รับผลกระทบ หากเกิดสถานการณ์ที่ต้องรองรับปริมาณน้ำในแม่น้ำยมทางตอนเหนือโดยเฉพาะจาก จ.แพร่
ขณะเดียวกัน ผู้ว่า ฯ สุโขทัย พร้อมคณะได้เดินทางลงพื้นที่ดูการผลักดันมวลน้ำที่ท่วมขังจาก อ.คีรีมาศ บริเวณคลองสามพวง คลองสาระบบ เพื่อผันน้ำลงแม่น้ำยมที่ประตูระบายน้ำปากพระ อ.เมือง สุโขทัย ซึ่งเปิดบานระบายน้ำให้มวลน้ำก้อนดังกล่าวไหลลงแม่น้ำยม โดยมีการประสานขอความร่วมมือไปยัง จ.พิษณุโลก เพื่อประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตลุ่มน้ำยมช่วยเปิดทำนบดินกั้นน้ำในแม่น้ำยมที่ประชาชนปิดกั้นไว้ในช่วงฤดูแล้งที่ผ่านมา เพื่อให้มวลน้ำจากสุโขทัยไหลได้สะดวก
รวมถึงประสานขอความร่วมมือให้ สำนักชลประทานที่ 3 พิษณุโลก ช่วยลดมวลน้ำในแม่น้ำน่านให้ต่ำลงเพื่อเร่งระบายน้ำในแม่น้ำยมลงสู่แม่น้ำน่านได้สะดวกจนทำให้สามารถเร่งระบายปริมาณน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่สุโขทัย โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.คีรีมาศ ได้ลดระดับลงอย่างเป็นรูปธรรมเห็นได้ชัดเจนซึ่ง ณ ปัจจุบัน สถานการณ์น้ำท่วมใน อ.คีรีมาศ ได้คลี่คลายลงแล้ว
อย่างไรก็ตามผู้ว่าฯ สุโขทัยยังสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เตรียมความพร้อมในการเฝ้าระวังสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำยม ซึ่งปัจจุบันยังคงมีการก่อสร้างเขื่อนกั้นน้ำบริเวณริมตลิ่งแม่น้ำยมตามความยาวกว่า 10 กม.ของกรมโยธาธิการและผังเมืองในเขตพื้นที่เทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ซึ่งทำการก่อสร้างมาแล้ว 2 ปี โดยตามสัญญากำหนดจะแล้วเสร็จในปลายปี 60-61 จึงได้ประสานเตรียมความพร้อมกับผู้รับเหมาก่อสร้างและเทศบาลเมืองสุโขทัยธานีไว้แล้ว ถ้าในบางช่วงที่ก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จหากมีมวลน้ำในแม่น้ำยมจาก จ.แพร่ ไหลลงสู่พื้นที่ จ.สุโขทัยมากกว่า 1,000 ลบ.ม./วินาที ก็จะให้ใช้หินคลุกปิดคันดินริมตลิ่งทันทีเพื่อเป็นการป้องกัน
โดยในขณะนี้ได้เตรียมหินคลุกไว้ในเขตเทศบาลเมืองฯ แล้วมากกว่า 500 ลบ.ม. คาดว่าจะป้องกันได้ทันเนื่องจากมวลน้ำจากแพร่จะใช้เวลาเดินทางถึงสุโขทัยประมาณ 2-3 วัน หากมีสถานการณ์ ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำที่ประตูระบายน้ำหาดสะพานจันทร์ จุดแรกในการรับน้ำของ จ.สุโขทัย มีการกักมวลน้ำไว้เพียง 11 ล้าน ลบ.ม ซึ่งจุดดังกล่าวสามารถรองรับได้มากกว่า 15-16 ล้าน ลบ.ม. แต่ยังมีจุดที่น่าเป็นห่วงอยู่ที่การทำงานของผู้รับเหมาก่อสร้างบริเวณด้านหลังธนาคารกสิกรไทยในเขตเทศบาลเมืองฯ จึงได้ประสานให้ทางโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสุโขทัยเฝ้าติดตามการทำงานของผู้รับเหมาอย่างใกล้ชิด โดยจะมีการปรับแผนรองรับสถานการณ์น้ำโดยยืดหยุ่นตามสถานการณ์
ในส่วนระดับน้ำของแก้มลิงทุ่งทะเลหลวงที่รับมวลน้ำจากคลองแม่มอกที่ไหลเข้าท่วมพื้นที่ ต.เมืองบางขลัง อ.สวรรคโลก และ จากคลองแม่รำพัน ที่ไหลเข้าท่วมพื้นที่ ต.บ้านไร่ ต.ราวต้นจันทน์ อ.ศรีสำโรง ปัจจุบันมีความจุเต็มแก้มลิงที่ 32 ล้าน ลบ.ม. และสาเหตุที่ไม่ได้เปิดให้น้ำระบายออก เพราะต้องการให้มีการบายพาสปริมาณน้ำที่ไหลผ่านโดยรอบแก้มลิงทุ่งทะเลหลวงให้ไหลไปตามลำคลองเดินทางออกไปยังประตูระบายน้ำปากพระในพื้นที่ ต.ปากพระ อ.เมือง เพื่อปริมาณน้ำไหลลงสู่พื้นที่ อ.กงไกรลาศ ตามแนวแม่น้ำยมและส่งต่อสู่แม่น้ำน่านที่ระดับน้ำต่ำพอที่จะรองรับปริมาณน้ำได้ต่อไป
ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ สุโขทัย กล่าวว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุโขทัยร่วมประสานสื่อมวลชนให้ช่วยประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำ การพยากรณ์อากาศให้ผ่านช่องทางการสื่อสารของสื่อมวลชนทุกแขนงแล้ว รวมทั้งได้สั่งการไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ในพื้นที่อีกด้วยตลอด 24 ชั่วโมง