svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ดีเอสไอ-ศุลกากร ผงะ! เจอรถหรูถูกโจรกรรมจากอังกฤษ จอดขายในโชว์รูมขบวนการนำเข้าซุปเปอร์คาร์เลี่ยงภาษี

26 พฤษภาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ดีเอสไอ-ศุลกากร ร่วมสอบสวนเช็คบิลย้อนหลัง 5 ปี ขบวนการนำเข้าซุปเปอร์คาร์เลี่ยงภาษี ผงะรถหรูถูกโจรกรรมจากอังกฤษจอดขายในโชว์รูม. ขายแล้ว 3 คัน อายัด 6 คัน เร่งติดตามอีกกว่า 30 คัน อธิบดีกรมศุลยอมรับไม่เคยรู้ราคาที่แท้จริง แม้สำแดงต่ก็เชื่อตามใบอินวอยซ์

กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ ) -26. พ.ค.60. เมื่อเวลา 13.30 น. พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วยนายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร และพ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอสไอ ร่วมแถลงการณ์ลักลอบหลีกเลี่ยงการชำระภาษีศุลกากร โดย พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า จากปฏิบัติการตรวจค้นทั้ง 2 ครั้ง ในวันที่ 18 พ.ค. และ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา ดีเอสไออายัดรถยนต์ที่พบว่ามีการสำแดงราคาต่ำกว่าความเป็นจริงเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีอากรรวม 160 คัน มูลค่าความเสียหายทางภาษีกว่า 3 พันล้านบาท โดยการตรวจสอบครั้งนี้เริ่มต้นตั้งแต่กรณีมีรถยนต์หรูไฟไหม้ที่อ.กลางดง จ.นครราชสีมา จำนวน 6 คัน ปี 2556 ซึ่งขั้นตอนการดำเนินคดีมีความยุ่งยากจำเป็นต้องได้มาซึ่งเอกสารสำคัญจากต่างประเทศ จึงมีการประสานความร่วมมือผ่านสำนักงานอัยการต่างประเทศไปยังประเทศอิตาลี อังกฤษ และญี่ปุ่น จนทำให้ได้ราคาจริง ซึ่งจะนำมาใช้พิสูจน์เปรียบเทียบกับเอกสารที่ผู้ประกอบการนำมายื่นเสียภาษีนำเข้ารถยนต์ ทั้งนี้ ดีเอสไอและกรมศุลกากรจะร่วมกันดำเนินคดีเพื่อให้เกิดความชัดเจนทั้งเรื่องการประเมินภาษีส่วนที่ขาด การดำเนินคดีอาญา และการดำเนินการเกี่ยวกับรถยนต์ในความครอบครองของผู้ซื้อ และเพื่อให้เกิดความร่วมมือในการดำเนินคดีดีเอสไอจะตั้งผู้แทนกรมศุลกากรเป็นที่ปรึกษาคดีพิเศษ

ด้านนายกุลิศ กล่าวว่า ศุลกากรไม่เคยนิ่งนอนใจในการประเมินภาษีผู้นำเข้ารถยนต์ แต่ติดปัญหาในเรื่องการหาหลักฐานเกี่ยวกับราคาขายที่แท้จริง ที่ผ่านมาศุลกากรปล่อยรถ เพราะผู้ประกอบการทำพิธีการศุลกากรถูกต้อง เมื่อดีเอสไอได้ราคาที่แท้จริงจากต่างประเทศศุลกากรจะตรวจสอบย้อนหลังการนำเข้ารถยนต์ทั้งหมด 5 ปี หลังจากนี้จะไม่มีภาพโยนไปมาหรือการไม่ประสานงานให้เห็นอีกต่อไป โดยประเด็นที่จะตรวจสอบร่วมกันมี 2 เรื่อง คือการที่สำแดงราคารถที่ต่ำกว่าความเป็นจริง และข้อมูลรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งดีเอสไอแจ้งว่ามีจำนวนมาก ส่วนรถที่ยังอยู่ในเขตปลอดอากรหากมีหลักฐานยืนยันว่าราคาที่นำสำแดงไม่ตรงกับราคาขายที่แท้จริง ศุลกากรจะไม่ปล่อยรถยนต์ให้กับผู้ประกอบการ

ขณะที่ พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวว่า ดีเอสไอได้รับการประสานจะหน่วยต่อต้านการโจรกรรมรถยนต์ ประเทศอังกฤษ (National Vehicle Crime Intelligence Service หรือ NaVCIS) ว่ามีรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมจากประเทศอังกฤษส่งมาที่ประเทศไทยจำนวน 42 คัน ซึ่งจากการตรวจสอบเอกสารหมายเลขเครื่องยนต์และหมายเลขตัวถังพบเป็นรถที่จอดอยู่ในโชว์รูปย่านพระราม 9 และเอกมัยที่ดีเอสไออายัดไว้ 6 คัน ส่วนรถอีก 3 คัน มีผู้ซื้อไปแล้ว และอีก 1 คัน ตามเอกสารระบุว่ายังจอดอยู่ในเขตปลอดอากร ประกอบด้วย รถยนต์ออดี้ Q7 จำนวน 1 คันจอดในโชว์รูม, BMW M4 จำนวน 3 คัน ขายไปแล้ว 2 คัน จอดในโชว์รูม 1 คัน, ฮอนด้าซีวิค GT (รถแข่ง) 1 คัน จอดในโชว์รูม, ลัมโบกินี่ 1 คันจอดอยู่ในโชว์รูม, เมอซิเดส เบนซ์ G350 จำนวน 1 คัน จอดในโชว์รูม, ปอร์เช่ คาเยนท์ จำนวน 1 คัน ขายไปแล้ว และปอร์เช่ บอกซ์เซอร์ จำนวน 2 คัน จอดที่เขตปลอดอากร 1 คัน และจอดในโชว์รูม 1 คัน ซึ่งดีเอสไอและกรมศุลกากรจะเข้าไปตรวจสอบว่ารถยนต์คันดังกล่าวยังอยู่หรือไม่ ส่วนที่เหลือดีเอสไอกำลังตรวจสอบอยู่ว่ารถอยู่ที่ใด เบื้องต้นมีความเคลื่อนไหวบางส่วนและทั้งหมดยังอยู่ในประเทศไทย ทั้งนี้ ยกตัวอย่างรถลัมโบกินี่ สีเขียว มีหลักฐานระบุว่าถูกลงมาจากประเทศอิตาลีมาที่ประเทศอังกฤษ ก่อนส่งต่อมาที่ประเทศไทย ซึ่งดีเอสไอจะได้สอบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งผิดทั้งกฎหมายไทยและอังกฤษ เร็วๆ นี้ NaVCIS จะเข้าพบดีเอสไอเพื่อส่งมอบหลักฐานและแผนประทุษกรรมของขบวนการโจรกรรมรถจากประเทศอังกฤษ ซึ่งอาจคล้ายกรณีโจรกรรมจากประเทศมาเลเซียด้วยวิธีการซื้อขายผ่านไฟแนนซ์ แต่ผ่อนไปเพียงงวดเดียวก็ส่งรถลงเรือมาที่ประเทศไทยและแจ้งหายเพื่อเครมประกัน

พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ซื้อและครอบครองรถโดยสุจริต ดีเอสไอจะอนุญาตให้ครอบครองรถไว้ระหว่างการดำเนินคดี แต่จะเรียกมาทำสัญญาเป็นหลักประกันว่าผู้ครอบครองจะต้องส่งมอบรถในทันทีที่พนักงานสอบสวนมีหนังสือเรียก ในระหว่างนี้ขออย่าหลงเชื่อว่ามีการวิ่งเต้นเพื่อถอนอายัดรถยนต์ เพราะดีเอสไอไม่มีเจตนาจะอายัดรถยนต์จากผู้ซื้อ และหากมีผู้แอบอ้างเรียกรับเงินขอให้แจ้งความดำเนินคดีทันที ล่าสุดหลังการตรวจค้นรถยนต์ซุปเปอร์คาร์ได้มีการแอบอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเรียกรับเงินจากผู้จำหน่ายรถยนต์ว่าสามารถช่วยเหลือไม่ให้ถูกดำเนินคดีและถอนอายัดรถยนต์ได้ โดยมีบริษัทที่หลงเชื่อโอนเงินไปให้ 50,000 บาท ดีเอสไอประสานม.พัน 19 และพล ร.9 เข้าตรวจค้นและจับกุมตัวนายอรรคพล ทรัพย์พูลปฐม พบหลักฐานการสื่อสารผ่ายไลน์อ้างว่าชื่อ "แดง ดีเอสไอ" เรียกรับเงิน จึงได้ส่งตัวดำเนินคดีที่สน.หัวหมาก ในข้อหาฉ้อโกงและแอบอ้างตัวเป็นเจ้าพนักงาน ส่วนผู้ที่ซื้อรถมือ 2 มือ 3 จะต้องพิจารณาว่ามีหลักฐานครอบครองถูกต้องหรือไม่ แต่เบื้องต้นจะถือว่าเป็นผู้เสียหายด้วย อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ดีเอสไอและกรมศุลกากรจะประชุมร่วมกันเพื่อตรวจสอบหลักฐานที่นำมาจากโชว์รูมและดีลเลอร์ที่นำเข้ารถมา เพื่อดำเนินคดีผู้หลีกเลี่ยงภาษี แต่ยังไม่ขอเปิดเผยจำนวนผู้ประกอบการที่มีพฤติการณ์หลบเลี่ยงภาษี บอกได้เพียงว่ามีจำนวนมาก

"ผมชื่อดำ ไม่ใช่แดง จุดสังเกตหัวล้าน ถ้าพบลูกน้องของผมไปเรียกรับเงินขอให้แจ้งความดำเนินคดี เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่มีการดำเนินคดีรถหรูจดประกอบก็มีการแอบอ้างโดยตลอดว่าสามารถวิ่งเต้นให้ถอนอายัดได้ ดังนั้น ถ้าพบใครมีพฤติการณ์เรียกรับเงินขอให้ไปแจ้งความ อย่างพูดกันลอยๆ ในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่มีพฤติกรรมเรียกรับผลประโยชน์ดีเอสไอไล่ออกไปแล้วหลายราย ส่วนผู้แอบอ้างก็ถูกดำเนินคดีทั้งหมดไม่ว่าฉะเชิงเทรา หรือที่ภูเก็ต" รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ซื้อจะตรวจสอบอย่างไรว่ารถซุปเปอร์คาร์ผ่านขั้นตอนนำเข้าอย่างถูกต้อง เพราะในโชว์รูยังนำรถโจรกรรมมาจอดขาย พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวว่า ผู้ซื้อต้องซื้อด้วยระมัดระวังและระเอียดรอบครอบ ดีเอสไอไม่ได้บอกว่าผู้ประกอบการผิดทั้งหมด แต่จะเร่งดำเนินคดีกับผู้นำเข้าที่กระทำผิดกฎหมาย

เมื่อถามอีกว่า เหตุใดกรมศุลกากรจึงได้ปล่อยรถทั้งที่มีการสำแดงราคาต่ำกว่าความเป็นจริงมาก นายกุลิศ กล่าวว่า ข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ หรืแกต์ กำหนดให้ศุลกากรรับราคาตามใบอินวอยซ์จากผู้ประกอบการ อีกทั้งการนำเข้ารถยนต์ก็ไม่มีราคากลาง เว้นแต่มีเหตุสงสัยว่าสำแดงราคาต่ำเกินจริง เจ้าหน้าที่จะไม่ปล่อยรถ ที่ผ่านมาศุลกากรไม่เคยทราบเลยว่าราคาที่แท้จริงของรถยนต์หรูมีราคาเท่าไหร่ รวมถึงราคาที่แตกต่างกันตามค่าสกุลเงินก็ไม่ได้ตรวจสอบว่าสินค้าจะประเทศใดจะต้องใช้เงินสกุลใด เพราะจะเชื่อตามใบอินวอยซ์ ซึ่งจะระบุว่าซื้อขายกันด้วยเงินสกุลใด อย่างไรก็ตาม หลังตรวจสอบการนำเข้ารถยนต์พบว่าในปีนี้มีการนำเข้ารถซุปเปอร์คาร์น้อยลงกว่า 3-4 ปีก่อนมาก หากย้อนหลังไป 5 ปีจะพบข้อมูลการนำเข้ารถซุปเปอร์คาร์จำนวนมาก และไม่ได้ขายในโชว์รูปจะขายผ่านดีลเลอร์ แต่หลังจากปี 2556 ยอดการนำเข้ารถซุปเปอร์คาร์น้อยลงมเรื่อยๆ

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า รถที่ถูกโจรกรรมเข้ามาผ่านขั้นตอนศุลกากรถูกต้องหรือไม่ นายกุลิศ กล่าวว่า ศุลกากรไม่เคยนิ่งนอนใจ พยายามตรวจสอบมาโดยตลอด แม้การประมูลขายรถยนต์ของกรมศุลกากร ระหว่างการประมูลหากพบว่าเป็นรถโจรกรรมก็จะสั่งยุติการขายและอายัดไว้ตรวจสอบทันที ที่ผ่านมาได้ส่งมอบรถคืนให้กับสถานทูตมาเลเซียแล้ว 2 คัน หลังจากนี้เมื่อดีเอสไอมีหลักฐานราคาชัดเจนก็จะร่วมกันตรวจสอบว่ารถขายในต่างประเทศมีราคาเท่าไหร่ และราคาที่นำมาสำแดงตรงกันหรือไม่ หากพบว่ามีการสำแดงเท็จก็จะดำเนินคดี ส่วนรถที่อยู่ในเขตปลอดอากรยังไม่มีข้อมูลว่าลักลอบนำออกจากเขตปลอดอากร อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาการหลีกเลี่ยงภาษี พ.ร.บ.ศุลกากร ฉบับใหม่ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในเดือนพ.ย.นี้ กำหนดให้สินค้าที่นำเข้ามาขอผ่านแดน จะอยู่ในประเทศได้ไม่เกิน 30 วัน โดยผู้นำเข้าต้องส่งสินค้าออกไปยังประเทศปลายทาง หรือหากจะนำมาจำหน่ายในประเทศต้องจ่ายอากร หากพ้นกำหนด 30 วัน ศุลกากรจะยึดให้ตกเป็นของแผ่นดิน

"กรมศุลกากรไม่เคยมีข้อตกลงร่วมกับศุลกากรต่างประเทศในการแชร์ข้อมูล ทำให้ไม่รู้ราคาที่แท้จริงในการซื้อขายสินค้า โดยหลักการในการรับราคาจะเชื่อตามใบอินวอยซ์ที่ผู้นำเ้านำมาสำแดง ซึ่งผู้นำเข้าต้องลงนามรับรองตัวเองว่าใบอินวอยซ์เป็นเอกสารจริง ทำให้เจ้าหน้าที่เชื่อข้อมูลว่าเป็นของจริง กรมศุลกากรพยายามหาราคาที่ถูกต้อง แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย บางทีผู้ขายก็ปิดบริษัทไปแล้ว หรือบางครั้งก็เป็นเรื่องที่ผู้ซื้อและผู้ขายตกลงกันเอง หลังจากนี้จะเร่งคัดกรองแยกผู้ประกอบการ เพื่อให้ผู้ซื้อมีความมั่นใจในการซื้อขาย นอกจากนี้ ยังได้รวมมือกับประเทศเพื่อนบ้านตรวจสอบและแลกเปลี่ยนข้อมูลบริษัทที่มีการลักลอบนำรถเข้าไปจำหน่ายในประเทศเพื่อนบ้าน โดยกรมศุลกากรได้รับการประสานให้ตรวจสอบนำรถที่หลีกเลี่ยงภาษีเข้าไปวิ่งในประเทศเพื่อนบ้านเช่นกัน" อธิบดีกรมศุลกากร กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึง กรณีเจ้าหน้าที่ศุลกากรถูกสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติตรวจสอบการรับราคาต่ำกว่าความเป็นจริง นายกุลิศ ยอมรับว่า ป.ป.ช.รับคดีไว้ไต่สวนจริง ทราบว่าการไต่สวนจะแล้วเสร็จภายในเดือนก.ย.นี้ ทราบเพียงว่ามีผู้บริหารระดับสูงของกรมศุลกากรถูกไต่สวนด้วย แต่ไม่ทราบว่ามีใครบ้าง

สำหรับบัญชีรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมจากประเทศอังกฤษมาประเทศไทย 42 คัน ประกอบด้วย ออดี้ 2 คัน BMW 7คัน เฟอร์รารี่ 1 คัน เฟียต 1 คัน ฟอร์ด 1 คัน ฮอนด้า 3 คัน ลัมโบกินี่ 1 คัน แลนด์โรเวอร์ 3 คัน เล็กซัส 1 คัน เมอซิเดสเบนซ์ 8 คัน มินิคูเปอร์ 1 คัน นิสสัน 3 คัน ปอร์เช่ 6 คัน โรลล์-ลอย์ 2 คัน โฟล์คสวาเก้น 2 คัน

logoline