2 พ่อค้ายาบ้าหนีห้องขังโรงพัก หลังตร.ไขกุญแจให้ออกมาพบแฟนสาว โซเชียลสงสัย ตร.เป็นใจ
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด เร่งล่าตัว 2 พ่อค้ายาหลบหนีห้องขังโรงพักกลางดึกหลังสิบเวรไปไขกุญแจห้องควบคุมออกมาให้พบกับแฟนสาวเพื่อกอดจูบสั่งลาแต่อาศัยจังหวะสิบเวรเผลอหลบหนีไปลอยนวล กล้องวงจรปิดหน้าห้องขังจับภาพไว้ได้ มีการแชร์ว่อนโลกโซเชียลจนสังคมสงสัยว่าตำรวจทำอย่างนี้ได้ด้วยหรือ
เหตุการณ์นี้ถูกเปิดเผยเมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2560 หลังมีการแชร์ภาพทางสื่อโซเชียล กรณีผู้ต้องหา ยาบ้าจำนวน 2 รายได้หลบหนีออกจากห้องขังของ สภ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด โดยผู้ต้องหา ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดป้องกันปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด ได้ทำการจับกุมพ่อค้ายาบ้าได้จำนวน 2 ราย คือ
1 นาย สุรศักดิ์ คันทมาตร์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ที่ 17 ต.นาอุดม อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ในข้อหาครอบครองยาบ้าเพื่อจำหน่ายจำนวน 1,200 เม็ด และนาย สุรชัย ภูมิภาค อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 20 หมู่ที่ 9 ต.สว่าง อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ในข้อหาร่วมกันมียาบ้าไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย
ซึ่งทั้งคู่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2560 ที่ผ่านมา โดยภายหลังจากการบันทึกจับกุมเสร็จแล้ว จึงได้ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ. โพนทอง สอบสวนดำเนินคดีต่อไป และทำการควบคุมไว้ในห้องขังของ สภ.โพนทอง เพื่อรอให้พนักงานสอบสวนนำตัวฝากขังที่จังหวัดร้อยเอ็ดในวันรุ่งขึ้น จนกระทั้งเมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. วันที่ 20 พ.ค. 2560 พ.ต.อ พันธ์ศักดิ์ อุปพงศ์ ผกก.สภ.โพนทอง ได้รับรายงานผู้ต้องหาทั้ง 2 รายได้หลบหนีออกจากห้องขังไป
จากการสอบถาม ด.ต ฉลาด แน่นอุดร สิบเวรยาม ที่เข้าเวรในขณะนั้นได้รายงานว่า เหตุเกิดตอนตี 4 กว่า ขณะที่ตนเองเข้าไปเก็บขยะด้วยการเปิดประตูห้องขังเอาขยะออก และขณะเปิดประตูห้องขังที่มีผู้ต้องหาทั้ง 2 คนอยู่ในห้องขัง ปรากฏว่าแฟนของผู้ต้องหาที่หลบหนี ก็เข้าไปขอเยี่ยม และขอพูดคุยกับผู้ต้องหาแล้วถือโอกาส วิ่งหนีไป ต่อหน้าต่อตา ตนเองพยามจะวิ่งไล่จับแล้วแต่ก็ไล่ไม่ทัน ตามคลิปที่ปรากกฎ และยืนยันว่าเป็นการฉวยโอกาสหลบหนี โดยที่ตนเองไม่มีเจตนา และมีส่วนรู้เห็นแต่อย่างใด
ในเบื้องต้น พ.ต.อ. พันธ์ศักดิ์ อุปพงศ์ ผกก.สภ.โพนทอง กล่าวว่าเหตุที่เกิดขึ้น ได้ตั้งชุดติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่หลบหนีทั้ง 2 คน รวมทั้งต้องข้อหาในคลิปที่ปรากฏ คือนางสาวเสาวลักษณ์ เสมอใจ อายุ 21 ปี บ้านเลขที่ 164 หมู่ที่10 ต.คำนาดี แฟนของนายสุรศักดิ์ คันทมาตร์ และนางสาวไอลดา พลเยี่ยม อายุ 18 ปี บ้านเลขที่ 77 หมู่ที่6 ต.สระนกแก้ว อ.โพนทอง แฟนสาวของ นาย สุรชัย ภูมิภาค ในข้อหาช่วยเหลือให้ผู้ต้องหาหลบหนีจากห้องควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
โดยได้สั่งการให้มีการตั้งคณะสืบสวนสอบสวน ติดตามจับกุมทั้ง 4 คน มาดำเนินคดี โดยประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในพื้นที่และเขตติดต่อจังหวัดร้อยเอ็ดเร่งไล่ล่าผู้ต้องหาทั้ง 4 รายตลอดทั้งคืน แต่ก็ยังไม่พบตัวผู้ต้องหาทั้งหมด
พ.ต.อ พันธ์ศักดิ์ อุปพงศ์ ผกก.สภ.โพนทอง กล่าวว่าอีกว่าสำหรับในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามที่ปรากฏในคลิป และได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ทางโรงพักได้ติดไว้ที่หน้าห้องขังที่พบว่า เป็นเวลา เวลาประมาณ 04.50 น. วันที่ 20 พ.ค 60 ได้มีหญิงสาวซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นแฟนสาวของ 2 ผู้ต้องหาได้เดินเข้ามาที่หน้าห้องขัง
จากนั้นได้มีผู้ชายใส่เสื้อคอกลมแขนสั้นกางเกงขายาวรองเท้าแตะได้เดินมาไขกุญแจห้องขังซึ่งภายในมีผู้ต้องหา 2 คนอยู่จากนั้นได้เดินหายไปจากมุมกล้องและผู้ต้องหาทั้ง 2 รายได้เปิดประตูห้องขังเดินออกมาจากห้องขังอย่างสบายใจและเข้ากอดกันทั้งคู่และจากนั้นไม่นานผู้ต้องหาทั้ง 2 และหญิงสาวทั้ง 2 คนได้เดินหายไปจากมุมกล้องจนกระทั้งมาพบว่าได้หลบหนีไปแล้วนั้น ได้เรียกตัวมาสอบสวนบันทึกปากคำและสั่งให้ดำเนินคดีในข้อหาเจ้าพนักงานปฎิบัติอหน้าที่มีการทำหน้าที่โดยบกพร่อง และอาจจะละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
และจากคลิปที่อาจจดูคล้ายกับ ด.ต ฉลาด แน่นอุดร สิบเวรยาม ที่เป็นผู้ไขกุญแจ ที่ก็ยอมรับผิดว่าเบื้องต้นโดยอ้างว่า ตนเองกระทำการด้วยความประมาทไปหน่อย ไม่มีเจตนาที่จะช่วยเหลือผู้ต้องหา ก็จะต้องมีการสอบสวนข้อเท็จจริง หากพบว่ามีส่วนรู้เห็นเป็นใจปล่อยผู้ต้องหาก็จะเพิ่มข้อมาในการลงโทษเพิ่มเติม ซึ่งต้องรอผลการสอบสวนของคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นต่อไป.
1 นาย สุรศักดิ์ คันทมาตร์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ที่ 17 ต.นาอุดม อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ในข้อหาครอบครองยาบ้าเพื่อจำหน่ายจำนวน 1,200 เม็ด และนาย สุรชัย ภูมิภาค อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 20 หมู่ที่ 9 ต.สว่าง อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ในข้อหาร่วมกันมียาบ้าไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย
ซึ่งทั้งคู่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2560 ที่ผ่านมา โดยภายหลังจากการบันทึกจับกุมเสร็จแล้ว จึงได้ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ. โพนทอง สอบสวนดำเนินคดีต่อไป และทำการควบคุมไว้ในห้องขังของ สภ.โพนทอง เพื่อรอให้พนักงานสอบสวนนำตัวฝากขังที่จังหวัดร้อยเอ็ดในวันรุ่งขึ้น จนกระทั้งเมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. วันที่ 20 พ.ค. 2560 พ.ต.อ พันธ์ศักดิ์ อุปพงศ์ ผกก.สภ.โพนทอง ได้รับรายงานผู้ต้องหาทั้ง 2 รายได้หลบหนีออกจากห้องขังไป
จากการสอบถาม ด.ต ฉลาด แน่นอุดร สิบเวรยาม ที่เข้าเวรในขณะนั้นได้รายงานว่า เหตุเกิดตอนตี 4 กว่า ขณะที่ตนเองเข้าไปเก็บขยะด้วยการเปิดประตูห้องขังเอาขยะออก และขณะเปิดประตูห้องขังที่มีผู้ต้องหาทั้ง 2 คนอยู่ในห้องขัง ปรากฏว่าแฟนของผู้ต้องหาที่หลบหนี ก็เข้าไปขอเยี่ยม และขอพูดคุยกับผู้ต้องหาแล้วถือโอกาส วิ่งหนีไป ต่อหน้าต่อตา ตนเองพยามจะวิ่งไล่จับแล้วแต่ก็ไล่ไม่ทัน ตามคลิปที่ปรากกฎ และยืนยันว่าเป็นการฉวยโอกาสหลบหนี โดยที่ตนเองไม่มีเจตนา และมีส่วนรู้เห็นแต่อย่างใด
ในเบื้องต้น พ.ต.อ. พันธ์ศักดิ์ อุปพงศ์ ผกก.สภ.โพนทอง กล่าวว่าเหตุที่เกิดขึ้น ได้ตั้งชุดติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่หลบหนีทั้ง 2 คน รวมทั้งต้องข้อหาในคลิปที่ปรากฏ คือนางสาวเสาวลักษณ์ เสมอใจ อายุ 21 ปี บ้านเลขที่ 164 หมู่ที่10 ต.คำนาดี แฟนของนายสุรศักดิ์ คันทมาตร์ และนางสาวไอลดา พลเยี่ยม อายุ 18 ปี บ้านเลขที่ 77 หมู่ที่6 ต.สระนกแก้ว อ.โพนทอง แฟนสาวของ นาย สุรชัย ภูมิภาค ในข้อหาช่วยเหลือให้ผู้ต้องหาหลบหนีจากห้องควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
โดยได้สั่งการให้มีการตั้งคณะสืบสวนสอบสวน ติดตามจับกุมทั้ง 4 คน มาดำเนินคดี โดยประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในพื้นที่และเขตติดต่อจังหวัดร้อยเอ็ดเร่งไล่ล่าผู้ต้องหาทั้ง 4 รายตลอดทั้งคืน แต่ก็ยังไม่พบตัวผู้ต้องหาทั้งหมด
พ.ต.อ พันธ์ศักดิ์ อุปพงศ์ ผกก.สภ.โพนทอง กล่าวว่าอีกว่าสำหรับในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามที่ปรากฏในคลิป และได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ทางโรงพักได้ติดไว้ที่หน้าห้องขังที่พบว่า เป็นเวลา เวลาประมาณ 04.50 น. วันที่ 20 พ.ค 60 ได้มีหญิงสาวซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นแฟนสาวของ 2 ผู้ต้องหาได้เดินเข้ามาที่หน้าห้องขัง
จากนั้นได้มีผู้ชายใส่เสื้อคอกลมแขนสั้นกางเกงขายาวรองเท้าแตะได้เดินมาไขกุญแจห้องขังซึ่งภายในมีผู้ต้องหา 2 คนอยู่จากนั้นได้เดินหายไปจากมุมกล้องและผู้ต้องหาทั้ง 2 รายได้เปิดประตูห้องขังเดินออกมาจากห้องขังอย่างสบายใจและเข้ากอดกันทั้งคู่และจากนั้นไม่นานผู้ต้องหาทั้ง 2 และหญิงสาวทั้ง 2 คนได้เดินหายไปจากมุมกล้องจนกระทั้งมาพบว่าได้หลบหนีไปแล้วนั้น ได้เรียกตัวมาสอบสวนบันทึกปากคำและสั่งให้ดำเนินคดีในข้อหาเจ้าพนักงานปฎิบัติอหน้าที่มีการทำหน้าที่โดยบกพร่อง และอาจจะละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
และจากคลิปที่อาจจดูคล้ายกับ ด.ต ฉลาด แน่นอุดร สิบเวรยาม ที่เป็นผู้ไขกุญแจ ที่ก็ยอมรับผิดว่าเบื้องต้นโดยอ้างว่า ตนเองกระทำการด้วยความประมาทไปหน่อย ไม่มีเจตนาที่จะช่วยเหลือผู้ต้องหา ก็จะต้องมีการสอบสวนข้อเท็จจริง หากพบว่ามีส่วนรู้เห็นเป็นใจปล่อยผู้ต้องหาก็จะเพิ่มข้อมาในการลงโทษเพิ่มเติม ซึ่งต้องรอผลการสอบสวนของคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นต่อไป.