ว่า ตนพูดในฐานะรองโฆษก ตร.ว่า ข้าราชการกว่า 2 แสน นายทั่วประเทศ ไม่คัดค้าน หรือต่อต้านการโอนย้าย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไปสังกัดกระทรวงยุติธรรม และไม่มองว่า เป็นการลดเกรดองค์กร หรือเสียศักดิ์ศรี เพราะก่อนหน้านี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยตำรวจทุกนายพร้อมน้อมรับแนวคิดของคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเพื่อศึกษาแผนการปฏิรูปกิจการตำรวจ ในคณะกรรมการประสานงานระหว่างสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ โดยให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง เพราะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังมีอำนาจการสืบสวนสอบสวนคดีเหมือนเดิม ซึ่งอำนาจการสอบสวนคดีเป็นคนละส่วนกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ อยู่แล้ว และยืนยันว่า สามารถทำงานร่วมกันได้ โดยไม่มีปัญหา
ส่วนเหตุผลการปฏิรูปองค์กรตำรวจในลักษณะนี้ พล.ต.ต.ทรงพลระบุว่า ขอให้ไปสอบถามกับสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ เพราะที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็มีแนวทางการปฏิรูปประเทศอยู่แล้ว ส่วนตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่มีการกำหนดคุณสมบัติว่าจะต้องผ่านงานสอบสวนอย่างน้อย 2 ปี และร่วมรับผิดชอบสำนวนสอบสวนไม่น้อยกว่า 70 คดีนั้น มองว่า ไม่ได้เป็นการล็อคสเปคผู้ที่จะมารับตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในอนาคตแต่อย่างใด