รับมอบตัวและร่วมสอบปากคำ นายอัมรีย์ หะ อายุ 19 ปี , นายนุรมัน อาบู อายุ 21 ปี , นายมูฟตาดิน สาและ อายุ 19 ปี และนายต่วนฮาฟิต ดือมุงกาป๊ะ อายุ 23 ปี ทั้งหมดเป็นชาว อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2407-2410/2559 ลงวันที่ 6 ธันวาคม 2559 ตามลำดับ ในข้อหาร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครอง , อั้งยี่ และซ่องโจร หลังจากทั้งหมดร่วมกับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไว้ได้ก่อนหน้านี้ และผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่อีก 4 ราย ร่วมกันวางแผนเตรียมการก่อเหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล โดยมีเป้าหมายตามจุดเสี่ยง และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีสาขารามคำแหง ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน หรือห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559
เมื่อผู้ต้องหาทั้งหมดเดินทางมาถึง บก.ป.ทางเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวไปยังห้องประชุมชิวปรีชา ซึ่งใช้เป็นสถานที่ในการสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินคดี โดยมีแพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจ ได้เข้าตรวจร่างกายผู้ต้องหาทั้งหมด ก่อนจะเริ่มขั้นตอนการสอบสวนดำเนินคดีโดยถ่ายรูป พิมพ์ลายนิ้วมือทำประวัติ และแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งมีการจัดทนายความจากสภาทนายความให้กับผู้ต้องหาทั้งหมด นอกจากนี้ ทางพนักงานสอบสวนได้เตรียมแยกสอบปากคำผู้ต้องหาด้วย
พล.ต.ต.ชยพล กล่าวว่า คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเดือนตุลาคม 2559 เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงสืบทราบว่ามีการวางแผนเตรียมการก่อเหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่ต่างๆ ใน กทม.และปริมณฑล ต่อมาเจ้าหน้าที่พบว่ากลุ่มคนร้ายได้ประชุมวางแผนกันที่ห้องพักด้านหลังมัสยิดยามีอุลอิสลาม ถนนรามคำแหง เขตบางกะปิ กทม.และที่ห้องพักเลขที่ 207 ตั้งอยู่เลขที่ 4/226 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ รวมทั้งที่ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส จากนั้น พล.ต.วิจารณ์ จึงเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.ป.เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด ก่อนจะมีการรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับ โดยศาลได้ออกหมายจับผู้ต้องหาไว้รวม 17 ราย จากนั้นเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ 9 ราย และในวันเดียวกันนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ที่ถูกศาลออกหมายจับในคดีนี้ได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้คดี
ต่อมา พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้ซักถามคำให้การผู้ต้องหาในเบื้องต้น โดยผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาว่า ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับการเตรียมการวางแผนเพื่อลอบวางระเบิดใน กทม.และปริมณฑล โดยนายอัมรีย์ ให้การว่า รู้จักกับผู้ต้องหาบางรายที่ถูกจับกุมไปแล้วก่อนหน้านี้ เนื่องจากเป็นชาว อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส เช่นเดียวกัน แต่ก็ไม่ได้สนิทสนมกัน ขณะที่ นายนุรมัน และนายมูฟตาดิน ให้การว่า เดินทางเข้ามาทำงานโรงงานใน กทม.เมื่อประมาณเดือนกันยายน 2559 และไม่ได้ติดต่อกับญาติพี่น้องที่ อ.ศรีสาคร เลย ส่วนนายต่วนฮาฟิต ให้การว่า เข้ามาทำงานที่ กทม.ตั้งเดือนกุมภาพันธ์ 2559 และไม่เคยเกี่ยวข้องกับกรณีการเตรียมการเพื่อลอบก่อเหตุวางระเบิดแต่อย่างใด
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวต่อว่า คดีนี้ยังเหลือผู้ต้องหาตามหมายจับที่ยังหลบหนีอยู่อีก 4 ราย ซึ่งขณะนี้ได้ประสานไปกับทางโรงเรียนการเมืองของกองทัพภาคที่ 4 เพื่อติดต่อกับญาติพี่น้องของผู้ต้องหาที่เหลือ เพื่อขอให้ทั้งหมดเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่เพื่อต่อสู้คดีต่อไป เนื่องจากเท่าที่ทราบทางกองทัพภาคที่ 4 ก็มีนโยบายในการอำนวยความยุติธรรมโดยให้โอกาสผู้ต้องหาที่มีหมายจับ ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ต้องหาทั้ง 4 รายดังกล่าว ภายหลังสอบปากคำเสร็จสิ้นแล้ว ทางพนักงานสอบสวน ก็จะคุมตัวไปขออำนาจศาลอาญา ผลัดฟ้องฝากขัง ในวันที่ 18 พฤษาภาคมนี้