แหล่งข่าวจากดีเอสไอ เปิดเผยกรณีความเชื่อมโยง ระหว่างผู้บริหารสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้บริหารระดับสูงของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่า เคยตั้งข้อสังเกต เมื่อตอนสอบสวนคดีพิเศษ ที่ 146/56 ว่าแต่ละสหกรณ์ที่นำเงินมาฝากสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น น่าจะได้เปอร์เซ็นต์ที่เรียกว่าเงินค่าปากถุง แต่การสอบสวนในคดีดังกล่าว ดีเอสไอ ไม่พบพยานหลักฐานความ และไม่มีผู้ใดมากล่าวโทษ ในช่วงเวลานั้น
แหล่งข่าวจากดีเอสไอ เปิดเผยว่า ในช่วงเวลานั้น ดีเอสไอ มีคดีต้องดำเนินการสอบสวนเชื่อมโยงกับคนเป็นจำนวนมาก และคดีหลัก มีอยู่หลายคดี จะต้องเสร็จตามกำหนด จึงไม่ได้สอบสวนกรณีผู้บริหารสหกรณ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 8 มี.ค.2560 ดีเอสไอ ขอให้สหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ส่งข้อมูลเส้นทางการเงิน ของอดีตกรรมการสหกรณ์จุฬาฯรายหนึ่ง ที่โอนเงินตั้งแต่ปี 2552-2554 จากบัญชีเงินฝากส่วนตัว ไปสู่บัญชีเงินฝากในสหกรณ์จุฬาฯ รวม 32 ครั้ง วงเงินประมาณ 89 ล้านบาท
เบื้องต้นพบว่า สหกรณ์จุฬาฯ ส่งข้อมูลการโอนเงินของอดีตกรรมการสหกรณ์จุฬาฯรายนี้ โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาสหกรณ์คลองจั่น 5 ครั้ง วงเงิน 5,040,000 บาท โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาสหกรณ์จุฬาฯ ก่อนที่โอนต่อไปยังบัญชีธนาคากรุงไทย สาขาสหกรณ์คลองจั่นฯ