svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

"แดด" ของมีค่าของคนเมืองผู้ดี

28 เมษายน 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

คุณผู้อ่านอาจจะสงสัย ว่าทำไมแดดถึงมีค่า แล้วแทบจะยกพระอาทิตย์ที่เมืองไทยมาแบ่งปันแสงและความอุ่นให้คนที่อังกฤษ ทำไมเรื่องแดดๆ กลายมาเป็นของมีค่าได้ ก็เพราะช่วงหน้าหนาวเราอยู่ในความมืดมากกว่าความสว่าง พอช่วงนี้กลางวันยาวกว่ากลางคืน เราเลยเริงร่าเป็นพิเศษค่ะ

แสงแดดที่เหมือนจะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่เป็นเรื่องที่ส่งผลต่ออารมณ์คนที่นี่มากนะคะ ช่วงฤดูหนาวที่อังกฤษจะมีโรคที่ชื่อว่า SAD หรือ Seasonal affective disorder หรือภาวะซึมเศร้าในช่วงฤดูหนาว เพราะว่าอาการนี้จะปรากฏในหน้าหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมที่เข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิของที่นี่ ที่กลางวันเริ่มสั้นขึ้น และอาการจะหนักขึ้นช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ค่ะ ซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาวอย่างเต็มรูปแบบ จากนั้นอาการซึมเศร้านี้ก็จะหายไปในช่วงฤดูใบไม้ผลิและหน้าร้อน แล้วก็กลับมาใหม่ช่วงฤดูหนาว (ข้อมูลจาก: NHS)ตอนนี้ที่อังกฤษเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิแล้ว อากาศที่หม่นๆ หมองๆ หนาวๆ ในฤดูหนาวได้ผ่านไป (ในใจได้แต่นึกว่า .. ผ่านไปได้ซะที) เพราะหน้าหนาวที่หนาวเสียเหลือเกิน อากาศหนาว ลมแรงยังไม่พอ เจอฝนที่ตกบ่อยๆ อีก หนาวยะเยือกสุดๆค่ะ

"แดด" ของมีค่าของคนเมืองผู้ดี

พักผ่อนกลางแดด ที่สนามหญ้าหน้า Royal Crescent เมืองบาธ

ตอนนี้อากาศเริ่มอุ่นขึ้น คำว่าอุ่นขึ้นของที่นี่ อุณหภูมิ 10 องศาเซลเซียส ขึ้นไป มีแดดออก ก็เรียกว่าอุ่นแล้ว อุ่นสุดที่เจอมาช่วงนี้ก็ประมาณ 16-17 องศา แต่ไม่ได้เจอบ่อยนะคะ อุณหภูมิเฉลี่ยที่เจอก็ 10 องศาต้นๆ บางวันอยู่ดีๆ อากาศเปลี่ยนจะหนาวขึ้นมา ก็ต้องไปเอาเสื้อโค้ทหน้าหนาวกลับมาใส่ใหม่ก็มีค่ะ

"แดด" ของมีค่าของคนเมืองผู้ดี

รับแดดกลางสวน ที่ Parade Gardens


นอกจากอากาศที่อุ่นขึ้นแล้ว ตอนนี้มีเวลาอยู่กับพระอาทิตย์ยาวขึ้นด้วยค่ะ จากหน้าหนาวที่พระอาทิตย์ขึ้นตอน 8 โมงเช้า แต่ 4 โมงเย็น พระอาทิตย์ก็ตกแล้ว โอ้ยย...มืดเร็วมากค่ะ ยังไม่ทันได้ทำอะไรเลยก็มืดซะแล้ว พอมาช่วงนี้ฤดูใบไม้ผลิ พระอาทิตย์ขึ้นตั้งแต่ตี 5 ครึ่ง กว่าพระอาทิตย์จะตกก็สองทุ่มกว่า เราเลยได้มีช่วงเวลากลางวันที่ยาวนานกว่ากลางคืน

บรรยากาศตอนนี้ที่สดใสมีชีวิตชีวามากขึ้น ได้เห็นดอกไม้สวยๆ ผู้คนออกมาใช้ชีวิตกลางแจ้งกันมากขึ้น นั่งนอนตากแดดรับแดดกันอย่างเต็มที่ ซึ่งก็เป็นภาพที่อาจจะไม่คุ้นชินกับคนไทย (ก็แหม... อันนี้เข้าใจกันได้ค่ะแดดบ้านเราไม่ได้อุ่น แต่แดดบ้านเราเรียกว่าร้อนแผดเผา ร้อนแสบทรวงซะเบอร์นั้น)

"แดด" ของมีค่าของคนเมืองผู้ดี

คนเมืองบาธออกมารับแดดริมแม่น้ำเอวอน


เมืองบาธที่เราอยู่ แม้จะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ก็มีสวน มีพื้นที่สีเขียวอยู่หลายที่ ให้คนได้ออกมาพักผ่อน ซึ่งเป็นสิ่งที่เราชอบมากที่นี่ กับพื้นที่สีเขียวที่ให้เราได้ผ่อนคลาย การได้เห็นว่าในเมืองที่เราอยู่มีพื้นที่สีเขียวหลายแห่ง เราว่ามันเป็นการสะท้อนถึงการให้ความสำคัญของพื้นที่สีเขียวของคนที่นี่ ต้นไม้ต้นใหญ่ๆยังคงมีอยู่อย่างมากมาย เป็นบรรยากาศที่สวยงามและร่มรื่น

"แดด" ของมีค่าของคนเมืองผู้ดี

ใช้ชีวิตกลางสวนที่มหาวิทยาลัยบาธ


วันอากาศดี แดดออก ท้องฟ้าสดใส ตามสวนต่างๆ ผู้คนที่เขาจะออกมานั่งตากแดด คำว่านั่งตากแดดนี่คือมานั่งตากแดดจริงๆ นะคะ แค่นั่งอยู่กลางแจ้งแล้วรับแดดเลย นั่งคุย พักผ่อน ผ่อนคลายกันกลางแดดเลย

อย่างที่มหาวิทยาลัย วันไหนที่อากาศดี เพื่อนๆ ก็จะชวนกันไปกินข้าวกลางแจ้งไหม ไปรับแดดกัน สำหรับเราเราชอบมากกับการกินข้าวในสวน รับแดด เพลิดเพลินกับบรรยากาศ ลมเย็นๆ แดดอุ่นๆ ฟินเว่อร์ค่ะ

"แดด" ของมีค่าของคนเมืองผู้ดี

ใช้ชีวิตกลางสวนที่มหาวิทยาลัยบาธ


ในวันที่อากาศดี เมื่อเดินไปตามสวนในเมือง ตามพื้นหญ้าจะเนืองเนืองแน่นไปด้วยผู้คนที่ จับจองพื้นที่ เพลิดเพลินกับแสงแดด ทั้งมาทำกิจกรรมกลางแจ้งกับเพื่อน ครอบครัว บางคนก็แค่มานั่งพักผ่อน นอนอาบแดด เหมือนชดเชยในฤดูหนาวที่มีเวลากลางวันน้อย แดดอุ่นๆ น้อย ฤดูนี้เราก็เลยต้องออกมากอบโกยแสงแดดกันค่ะ

"แดด" ของมีค่าของคนเมืองผู้ดี

ดอกไม้สวยๆแสนสดชื่นของฤดูใบไม้ผลิ


สำหรับสาวไทยอย่างเราเป็นคนชอบแดดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ไม่กลัวดำ ก็เลยชอบอากาศตอนนี้มากค่ะ ได้ออกมาใช้ชีวิตกลางแจ้ง เพลิดเพลินกับแสงแดด ก็เป็นประสบการณ์อีกรูปแบบหนึ่งที่ต้องกอบโกยค่ะ เพราะรู้ว่าถ้ากลับเมืองไทยจะไม่ได้เจอแล้วแดดอุ่นๆ แต่จะเจอแดดร้อนๆแทน

"แดด" ของมีค่าของคนเมืองผู้ดี

บ้านริมน้ำในเมืองบาธ

หวังว่าเรื่องราวในตอนนี้จะช่วยคลายความสงสัยให้คุณผู้อ่านได้นะคะ ว่าทำไมคนทางฟากฝั่งยุโรปเขาชอบแดดกันเหลือเกิน แดดบ้านเขามีน้อย และแสงแดดยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่ออารมณ์ ทำให้แดดที่นี่เลยกลายเป็นของมีค่าค่ะ
"นักข่าวจอมจุ้นตะลุยเมืองผู้ดีธรรญฐ์ฌนก ศรีธเนศชัยTwitter @ThanchySInstagram @Thanchy"




















logoline