กสทช. ขอเวลาตั้งทีมกำกับ OTT

ล่าสุด รองประธาน กสทช. พันเอก นที ศุกลรัตน์ บอกในงานบรรยายทำความเข้าใจเรื่อง OTT ว่า เหตุผลที่ต้องกำกับกิจการ OTT เนื่องจากเป็นกิจการบรอดแคสต์ที่มีการเผยแพร่คอนเทนต์ ทำให้เกิดการแข่งขันไม่เป็นธรรม เกิดปัญหาละเมิดลิขสิทธิ์ ดังนั้นเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสาธารณะ ให้ทุกคนมีสิทธิ์ในการรับข้อมูลข่าวสารได้โดยอุตสาหกรรมเดินหน้าได้อย่างมีคุณภาพ ไม่เกี่ยวกับการจัดระเบียบสื่อ แต่เป็นเรื่องการแข่งขันและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป
ขณะที่อุตสาหกรรมโทรทัศน์ในระดับโลกแนวโน้มการรับชมรายการตามกำหนดเวลาลดลงจาก 70% เหลือ 60% ส่วนวีออนดีมานที่ชมได้ตามความต้องการรับชมเพิ่มขึ้นจาก 30% เป็น 50% มีการใช้เวลาชมทีวีออนดีมานเฉลี่ยวันละ 6 ชั่วโมง กลุ่มผู้ชมหลักคือกลุ่มอายุ 16-34 ปี การเกิดขึ้นของบริการ OTT ทำให้เกิดผลกระทบ
โดยยกตัวอย่างการกำกับดูแล OTT ในต่างประเทศ ได้กำหนดแนวปฏิบัติในการกำกับดูแลเนื้อหา โดยดูจากเรทติ้ง การดูแลเนื้อหาที่มีผลกระทบกับเด็ก เนื้อหาบนบริการ OTT ได้รับการดูแลเทียบเท่ากับบริการโทรทัศน์ บางประเทศบริการ OTT ต้องผ่านระบบการขอใบอนุญาต ในประเทศไทยมีบริการ OTT ทั้งจากผู้ผลิตโดยตรงและจากช่องโทรทัศน์ แต่ในต่างประเทศ พบว่าฟรีทีวีบางรายมาให้บริการ OTT บนโครงข่ายโทรคมนาคมหนาแน่นมากขึ้น ทำให้คนมีทางเลือกที่จะรับชมมากขึ้น
ถ้าดูจากมูลค่าตลาด OTT ในปีที่ผ่านมามีมูลค่ากว่า 5,007 ล้านบาท รายได้ส่วนใหญ่เป็นของผู้ให้บริการจากต่างประเทศ โดยเฟซบุ๊กมีรายได้มากที่สุดที่ 2,842 ล้านบาท ทุกประเทศในโลกจึงเห็นตรงกันว่าควรกำกับดูแล OTT
ส่วนการกำกับดูแล จะมีคณะอนุกรรมการกิการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ Over The Top ( OTT) นำเสนอข้อแนะนำให้ กสทช. และ กสท. ต่อไปการให้บริการ OTT ต้องมายื่นขอค่าใบอนุญาตจาก กสทช. ก่อนหรือไม่นั้น ในการประชุมบอร์ดวานนี้ยังไม่ได้ลงมติไปในระดับนั้น ทั้งยังไม่ได้พูดถึงความพยายามในการกำกับคอนเทนต์ของ OTT ด้วย หรือการระบุว่าใครเข้าข่าย OTT บ้าง ต้องรอให้คณะอนุกรรมการพิจารณาอีกครั้ง เรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ต้องค่อยเป็นค่อยไป สำหรับคณะอนุกรรมการชุดนี้ มีตนเองเป็นประธาน และบอร์ดให้สิทธิ์ในการคัดเลือกผู้เชี่ยวชาญภายนอก 10 คน รวม 11 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนทาบทามบุคคลและต้องรอความคืบหน้าเป็นระยะ