svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ทรัมป์สั่งหั่นภาษีนิติบุคคลเหลือ 15% หวังต่อรองสภาผ่านงบประมาณ หลีกเลี่ยง Government Shutdown

25 เมษายน 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ทรัมป์สั่งทีมงานทำเนียบขาวเพิ่มมาตรการหั่นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้ลดลงเหลือแค่ 15% จากอัตรา 35% กำหนดในแผนการปฏิรูปภาษีที่กำลังเร่งมือผลักดันให้มองเห็นเป็นรูปธรรมมากขี้นในช่วงผลงานช่วง 100 วันแรกของเขา ซึ่งจะเป็นภาระต้นทุนที่กระทบต่อรายได้ของรัฐบาลลดลงถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์ โดยที่ทรัมป์เตรียมจะประกาศแผนการปรับลดภาษีดังกล่าวในวันพุธนี้ โดยหวังต่อรองสภาเพื่อหลีกเลี่ยง Government Shutdown

ขณะเดียวกันทรัมป์ประเดิมตั้งกำแพงภาษีการนำเข้าไม้เนื้ออ่อน (Softwood) จากแคนาดา โดยขึ้นภาษีจัดเก็บในอัตรา 20% ทางด้านปฏิกิริยาขานรับของหุ้นวอลล์สตรีทแรลลี่พุ่งแรงทั้ง 3 ตลาดหลักมากกว่า 1% โดยดาวโจนส์พุ่งขึ้น 216 จุดหรือ 1.05% ปิดที่ 20,763 ขณะที่หุ้นเทคโนโลยีในตลาด Nasdaq พุ่งขึ้นเข้าใกล้ระดับดัชนี 6,000 ปิดที่ 5,983 และ S&P 500 พุ่งขึ้นร้อนแรงเช่นเดียวกันปิดที่ 2,374
ขณะที่นักลงทุนเกาะติดสถานการณ์สัปดาห์แห่งความยุ่งเหยิงในสัปดาห์นี้ ซึ่งรัฐบาลของทรัมป์ยังต้องเผชิญกับภาวะ Government Shutdown ในต้นเดือนพฤษภาคมนี้ หากร่างงบประมาณรายจ่ายปี 2017 ไม่สามารถผ่านคองเกรสได้ทันภายในวันที 28 เมษายน และการประกาศตัวเลขจีดีพีไตรมาสแรกของสหรัฐ รวมทั้งความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งเกาหลีเหนือประกาศท้าทายถึงการเตรียมยิงทดสอบขีปนาวุธนิวเคลียร์ และการแข็งค่าของเงินยูโรท่ามกลางความผันผวนของความเสี่ยงจากการเลือกตั้งฝรั่งเศสที่มีการต่อสู้กันอย่างเข้มข้นระหว่างผู้สมัครชิงประธานาธิบดีที่มีแนวคิดต่างกันแบบสุดขั้ว

1.หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล ได้รายงานถึงคำสั่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่สั่งตรงถึงทีมงานทำเนียบขาวให้เพิ่มการตัดลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงที่ 15% จากอัตราปัจจุบันอยู่ที่ 35% ซึ่งเป็นต้นทุนที่ทำให้รัฐต้องสูญเสียรายได้มโหฬารถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์ โดยที่ทรัมป์เตรียมจะประกาศแผนการปรับลดภาษีดังกล่าวในวันพุธนี้ ถึงความคืบหน้าในแผนการปฏิรูปภาษีที่กำลังเร่งมือผลักดันให้เป็นรูปธรรมมากขี้นในช่วงผลงานช่วง 100 วันแรกของเขา
ในการเจรจาเพื่อพิต่รณาตัดลดอัตราภาษีนิติบุคคลเหลือ 15% นี้ จะมีขึ้นในวันอังคารระหว่างการพบปะเจรจากันระหว่างรัฐมนตรีคลัง Steve Mnuchin ประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจแห่งชาติ Gary Cohn กับ Mitch McConnell ประธานวุฒิสภา และ Paul Ryan ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ โดยก่อนหน้านี้มีข้อขัดแย้งในเรื่องการลดภาษีนิติบุคคลดังกล่าว เนื่องจากสมาชิกพรรครีพับลิกัน้องการให้ลดลง 20%
ทั้งนี้ หากไม่สามารถตกลงกันได้ระหว่างทำเนียบขาวและคองเกรสที่มีการงัดข้อกันในร่างงบประมาณปี 2017 ที่อยู่ในกระบวนการพิจารณาของสภาขณะนี้ ก็จะต้องเจอกับ Government Shutdown ซ้ำรอยอีกครั้งภายในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้

2.ทรัมป์ประเดิมตั้งกำแพงภาษีการนำเข้าไม้เนื้ออ่อน (Softwood) จากแคนาดา โดยขึ้นภาษีจัดเก็บในอัตรา 20% ถือเป็นสัญญาณการเริ่มตันของสงครามการค้าที่ทรัมป์ประกาศไว้ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมเกี่ยวกับการขึ้น Border Tax ทั้งกับแคนาดาและเม็กซิโก
ส่วนกรณีการตอบโต้จีนปั่นค่าเงินหยวนนั้น ทรัมป์ให่สัมภาษณ์ล่าสุดยอมรับว่า เป็นภาพใหญ่ที่สหรัฐต้องพิจารณาโดยพร้อมที่จะไม่ตอบโต้ดำเนินการใดๆ ถ้าผู้นำจีนจะให้ความร่วมมือในการช่วยเหลือสหรัฐเพื่อแก้ปัญหาเกาหลีเหนือในขณะนี้

3.สำหรับปฏิกิริยาขานรับของหุ้นวอลล์สตรีทแรลลี่พุ่งแรงทั้ง 3 ตลาดหลักมากกว่า 1% ในการซื้อขายวันจันทร์ โดยดาวโจนส์พุ่งขึ้น 216 จุดหรือ 1.05% ปิดที่ 20,763 ขณะที่หุ้นเทคโนโลยีในตลาด Nasdaq พุ่งขึ้นเข้าใกล้ระดับดัชนี 6,000 ปิดที่ 5,983 เพิ่มขึ้น 1,24% และ S&P 500 พุ่งขึ้นร้อนแรงเช่นเดียวกันปิดที่ 2,374 เพิ่มขึ้น 1.08%
แต่นักวิเคราะห์ยังให้ความะมัดระวังกับการเตือนของโกลด์แมน แซคส์ ที่ออกบทวิเคราะห์ฟันธงว่ารัฐบาลของทรัมป์จะต้องเจอกับ Government Shutdown ในต้นเดือนพฤษภาคมอย่างแน่นอน หากไม่สามารถตกลงกันได้ระหว่างทำเนียบขาวและคองเกรสที่มีการงัดข้อกันในร่างงบประมาณปี 2017 ที่อยู่ในกระบวนการพิจารณาของสภาขณะนี้ โดยไม่สามารถผ่านการพิจารณาภายในวันที่ 28 เมษายนนี้

4.ขณะที่นักลงทุนเกาะติดสถานการณ์สัปดาห์แห่งความยุ่งเหยิงในสัปดาห์นี้ นอกเหนือจากเรื่อง Government Shutdown ของรัฐบาลทรัมป์ในต้นเดือนพฤษภาคมนี้ ยังต้องเกาะติดการประกาศตัวเลขจีดีไตรมาสแรกของสหรัฐในวันศุกร์นี้จะชะลอตัวลงตามที่ฑนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา มีการประมาฯการล่าสุดว่าตะเติบโตในระดับ 0.5% หรือไม่
โดยนักวิเคราะห์เชื่อว่า หากสถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอลงยังจะส่งผลถึงไตรมาสสอง ก็อาจจะทำให้เกิดภาวะชะงักงันในช่วงครึ่งหลังปีนี้ ทำให้ตลาดคาดหวังในทิศทางดีว่าจะกดดันให้เฟดไม่กล้าขึ้นดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งตามที่ประกาศเอาไว้ ทำให่บรรดาเทรดเดอร์มีความกล้าเสี่ยงเข้าลงทุนในตลาดหุ้นในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้

5.นอกจากนี้ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งวันนี้เป็นวันครบรอบ 85 ปีของพรรคคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือที่มีการท้าทายว่าจะมีการยิงทดสอบขีปนาวุธนิวเคลียร์ นอกจากจะท้าทายสหรัฐแล้ว ยังส่งผลต่อสถานการณ์เศรษฐกิจในภูมิภาคทั้งเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และไต้หวัน ที่จะมีการประกาศตัวเลขแนวโน้มจีดีพีที่อ่อนตัวลงอย่างไร
อีกทั้งการแข็งค่าของเงินยูโรท่ามกลางความผันผวนของความเสี่ยงจากการเลือกตั้งฝรั่งเศสที่มีการต่อสู้กันอย่างเข้มข้นระหว่างผู้สมัครชิงประธานาธิบดีที่มีแนวคิดสุดขั้ว โดยที่ผลการเลือกตั้งรอบแรกที่ออกมาซึ่ง Emmanual Macron นำคู่แข่งอยู่ 2% จากคะแนนโหวตที่ได้รับเลือกจากคนฝรั่งเศส 23.7% ขณะที่ Marine Le Pen ได้ 21.7% ส่งผลให้เงินยูโรยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางแข็งค่าระดับ 1.08-1.09 ดอลลาร์ต่อยูโรขณะนี้ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงจากปัจจัยทางการเมืองในอนาคตของยุโรป
ทั้งนี้ตลาดยังคงจับตานโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่จะมีการประชุมในสัปดาห์นี้ จะยังคงใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายต่อเนื่องอย่างไร หรือมกับการายงานแนวโน้มเสรษฐกิจในระยะต่อไป เนื่องจากตัวเลขจีดีพีของยุโรปในไตรมาสแรกยังคงเติบโตอย่างเชื่องช้า โดยที่ฝรั่งเศสคาดว่าจีดีพีจะเติบโตเพียง 0..2% จากไตรมาสก่อน ขณะที่สเปนเติบโตที่ 0.7% แต่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและเงินเฟ้อพท้นฐานยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องราว 0.2%

logoline