ดอลลาร์ปักหัวอ่อนค่าลง สวนทางหุ้นเริ่มพลิกบวก

ท่ามกลางสัญญาณความเสี่ยงของ MOAD หรือ Mother Of All Debt ที่รอการระเบิดในช่วงที่เป็นผลงาน 100 วันแรกของทรัมป์ หากว่างบประมาณรายจ่ายปี 2017 นี้ไม่สามารถผ่านการอนุมัติจากคองเกรสภายในวันที่ 28 เมษายนนี้ สถานการณ์ของรัฐบาลทรัมป์อาจต้อง Shutdown จากปัญหาหนี้ที่ชนเพดานขณะที่ทรัมป์สร้างแรงกดดันเกาหลีเหนือเพิ่มขึ้นอย่างเข้มข้ยด้วยการส่งเรือรบอีก 2 ลำบรรทุกฝูงบินพิฆาตมุ่งหน้าสู่คาบสมุทรเกาหลีเพื่อเสริมแสนยานุภาพของกองเรือรบ Armada ที่นำโดย USS Carl Vinson ในขณะเดียวกันโฆษกรัฐบาลเกาหลีเหนือยืนยันจะมีการทดสอบยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์ต่อไป และพร้อมจะทำสงครามกับสหรัฐ เพราะการกระทำของสหรัฐถือเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของเกาหลีเหนือ รวมทั้งยังคุกคามสันติภาพและเสถียรภาพในโลก1. Steven Mnuchin รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ให้สัมภาษณ์ไฟแนนเชียลไทมส์ล่าสุด ออกมาตอกย้ำการแข็งค่าดอลลาร์ในช่วงสั้นส่งผลลบต่อเศรษฐกิจ แต่ยอมรับว่าจะเป็นผลดีในระยะยาว คาดดอลลาร์ถึงเวลาปักหัวอ่อนค่าลง โดยปฏิเสธข้อเสนอที่จะใช้มาตรการแทรกแซงด้านอัตราแลกเปลี่ยน อpjางไรก็ตาม การออกผสานเสียงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กล่าวในทำนองเดียวกันในช่วงก่อนหน้านี้รัฐมนตรีคลังสหรัฐเพียงกล่าวว่า การจะทำให้ดอลลาร์แขฌงค่าในระยะยาวจะเกิดขึ้นโดยผ่านนโยบายการฟื้นฟู้ศรษฐกิจสหรัฐให้มีความแข็งแกร่งนั่นเอง โดยเขายอมรับว่า ในช่วงที่ผ่านมา การที่แผนประกันสุขภาพฉบับใหม่ถูกสภาเลื่อนการพิจารณาออกไปจนต้องนำเอา Obamacare มาใช้ต่อไป ส่งผลให้แผนปฏิรูปภาษีเพื่อประโยชน์ต่อเศรษฐกิจต้องล่าช้าตามไปด้วยทั้งนี้ Dollar Index มีการเคลื่อนไหวในระดับ 100.00-100.37 ขณะนี้ ซึ่งอ่อนตัวลงเล็กน้อยจากที่ขึ้นไปที่ระดับ 101.80 เมื่อต้นเดือนเมษายน หลังจากที่เคยถูกกระต้พลงหลุดระดับมาที่ 99.16 เมื่อวันที่ 27 มีนาคมซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่มรัมป์ออกมาพูดถึงเงินดออลสร์ที่แข็งค่ามากเกินไป2. หลังรัฐมนตรีคลังสหรัฐออกมาตอกย้ำการแข็งค่าดอลลาร์ในช่วงสั้นส่งผลลบต่อเศรษฐกิจ แต่ก็สวนทางหุ้นเริ่มพลิกกลับมาบวกเนื่องจากการแรงซื้อของบรรดาเทรดเดอร์ที่กล้าเข้าตลาดหุ้นมากขึ้น ปลุกดาวโจนส์มีชีวิตชีวาอีกครั้งพุ่งขึ้น 183 จุดเมื่อวันจันทร์มาปิดที่ 20,636 หรือเพิ่มขึ้น 0.9% ถึงแม้ว่าจะมีสัญญาณขายหุ้นที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนก็ตามขณะที่ S&P500 เพิ่มขึ้น 0.86% ปิดที่ 2,349 และ Nasdaq เพิ่มขึ้น 0.89% ปิดที่ 5,856 อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังหวาดหวั่นต่อปัญหาทางเศรษฐกิจของสหรัฐเอง ที่ผิดหวังจากจีดีพีที่อาจเติบโตเพียงแค่ 0.5% ในไตรมาสแรกปีนี้ จะส่งผลต่อการชะงักงันของเศรษฐกิจที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง หลังจากที่ยอดขายการค้าปลึกติดลบต่อเนื่องกันถึง 2 เดือนนับตั้งแต่ต้นปี ขณะที่สัญญาณเงินเฟ้อเดือนมีนาคมกลับมาติดลบถึง 0.3% จากเดือนก่อนหน้ารวมถึงความเสี่ยงจากการดำเนินนโยบายดอกเบี้ยของเฟดหากยังยืนกรานที่จะปรับขึ้นต่อไปตามนโยบายคืนกลับสู่ภาวะการเงินที่เป็นปกติหรือ Normalization ในปีนี้ นอกจากนี้ รัฐบาลของทรัมป์ยังเสี่ยงต่อแผนการใช้ง่ายงบประมาณ ที่ต้องหาทางระดมเงินชดเชยการขาดดุลที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการสร้างแรงกดดันในสถานการณ์สงครามของทรัมป์ ทั้งการโจตีด้วยจรวดโทมาฮ็อก 60 ลูกในซีเรีย การใช้ระเบิดทำลายล้างพลังมหาศาลที่เรียกว่า Mother Of All Bomb หรือ MOAB ในอัฟกานิสถาน และการส่งกองเรือรบเพื่อเพิ่มแสนยานุภาพไปยังคาบสมุทรเกาหลี3. และนอกจากทรัมป์สั่งใช้ระเบิดทำลายล้างพลังมหาศาลที่เรียกว่า Mother Of All Bomb หรือ MOAB ในอัฟกานิสถานเมื่อสัปดาห์ที่ปล้วนั้น ท่ามกลางสัญญาณความเสี่ยงของ MOAD หรือ Mother Of All Debt ที่รอการระเบิดในช่วง 100 วันแรกในการบริหารงานของมนีมป์ด้วย หากว่างบประมาณรายจ่ายปี 2017 นี้ไม่สามารถผ่านการอนุมัติจากคองเกรสภายในวันที่ 28 เมษายนนี้ สถานการณ์ของรัฐบาลทรัมป์อาจต้อง Shutdown อีกครั้งเช่นกัน จากปัญหาหนี้ที่ชนเพดาน ซึ่งรัฐบาลต้องหาทางระดมเงินในการก่อหนี้ก้อนใหม่วงเงินถึง 1.1 ล้านล้านดอลลาร์โดยที่รัฐบาลทรัมป์มีภาระหนี้ที่ต้องแบกรับในปีนี้สูงถึง 3 ล้านล้านดอลลาร์โดยมาจากหนี้ใหม่และเป็นหนี้ที่ต้องชำระคืน (debt service) ในแต่ละปี อีกทั้งฐานะทางการคลังย่ำแย่ที่มีการขาดดุลเพิ่มมากขึ้นถึง 5.27 แสนล้านดอลลาร์ในครึ่งปีแรกนี้ สูงกว่าปที่แล้วที่ขาดดุล 4.59 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นภาระการขาดดุลที่เพิ่มขึ้นถึง 15%4. ขณะที่ทรัมป์ยังคงสร้างแรงกดดันเกาหลีเหนืออย่างหนักหน่วง ด้วยการส่งเรือรบอีก 2 ลำบรรทุกฝูงบินพิฆาตมุ่งหน้าสู่คาบสมุทรเกาหลีเพื่อเสริมแสนยานุภาพของกองเรือรบ Armada ที่นำโดย CVN-70 Carl Vinson ส่วนเรือรบอีก 2 ลำคือ CVN-76 Ronald Reagan และ CVN-68 Nimitz ซึ่งจะเดินทางมาถึงชายฝั่งของเกาหลีใต้ในวันที่ 25 เมษายนนี้ เพื่อเสริมแสนยานุภาพรวมเป็นเรือรบลำเลียงฝูงบินพิฆาตถึง 3 ลำในขณะเดียวกันโฆษกรัฐบาลเกาหลีเหนือแถลงข่าวตอบโต้โดยยืนยันจะมีการทดสอบยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์ต่อไป เพราะการกระทำของสหรัฐถือเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของเกาหลีเหนือ ทั้งนี้ยังเป็นการทำลายสันติภาพและเสถียรภพาพของโลก โดยเกาหลีเหนือพร้อมที่จะยิงจรวดตอบโต้ทำสงครามกับสหรัฐเช่นกัน5. Sergei Lavrov รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ออกมาเตือนสหรัฐอย่าถือว่าเป็นฝ่ายเดียวที่จะกระทำการกับเกาหลีเหนือ เหมือนกับที่ทำกับซีเรียได้ โดยกล่าวว่า การกระทำของเกาหลีเหนือที่เกี่ยวข้องกับการทดสอบขีปนาวุธนิวเคลียร์ แม้จะขัดต่อมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) แต่ไม่ได้หมายความว่าประเทศใดๆ จะสามารถมาทำตามอำเภอใจในสิ่งที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศเช่นกันโดยรัสเซียหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เกาหลีเหนือจะไม่เผชิญกับเหตุการณ์แบบเดียวกับที่เพิ่งเกิดขึ้นในซีเรีย ขณะที่ Mike Pence รองประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวระหว่างเยือนเกาหลีใต้เมื่อวันจันทร์ว่า นโยบายความอดทนทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐต่อเกาหลีเหนือไม่มีเหลืออีกแล้ว พร้อมเตือนรัฐบาลเปียงยางว่า อย่าลองของ เพราะอาจเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยในซีเรียและอัฟกานิสถานอีก