ยูโรดอลลาร์เสี่ยงมากขึ้น! ยุโรปขาดแคลนสภาพคล่องของเงินดอลลาร์สูง หลังเดิมพันเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย

ขณะเดียวกันอียูเริ่มเตือนตุรกีว่าอาจจะระงับการเจรจาขอกลับเข้าเป็นสมาชิกของตุรกึไว้จนกว่าผลการลงประชามติให้แก้ไขรัฐธรรมนูญมีการตรวจเช็คอย่างชัดเจน เนื่องจากมีแนวโน้มว่ารัฐบาลตุรกีจะมีอำนาจที่เผด็จการมากขึ้น เนื่องจากผลโหวตของชาวตุรกี 51 ต่อ 49 ยินยอมให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 18 มาตราที่ส่งผลให้ประธานาธิบดีอยู่บริหารประเทศได้จนถึงปี 2029 สามารถยกเลิกตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและดึงอำนาจบริหารมาไว้ที่ตัวเอง รวมถึงการใช้อำนาจที่จะยุบสภาและประกาศภาวะฉุกเฉินโดยไม่ต้องผ่านคณะรัฐมนตรีได้ทางด้านทรัมป์เผยสหรัฐกำลังร่วมมือปับจีนเพื่อแก้ปัญหาเกาหลีเหนือ ที่ทำให้มีการพิจารณาทบทวนข้อกล่าวหาจีนปั่นค่าเงินหยวน โดยมีการคาดการณ์กันว่าทรัมป์อาจจะยกเลิกนโยบายตอบโต้จีนในเรื่องการลดค่าเงินหยวนที่ทำให้ได้ดุลการค้ากับสหรัฐสูงถึง 3.47 แสนล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา1. ยุโรปเกิดปัญหาขาดแคลนสภาพคล่องของเงินดอลลาร์ หรือยูโรดอลลาร์สูงถึง 3.2 ล้านล้านดอลลาร์ หลังจากตลาดเดิมพันว่าเฟดจะมีการขึ้นดอเบี้ยและทยอยลดฐานะงบดุลทางการเงินให้เร็วขึ้นในปีนี้ ส่งผลให้ตลาดซื้อขายบอนด์ในยุโรปมีปริมาณที่เบาบางและมีขนาดการซื้อขายลดต่ำลงมากเหลือเพียงสุทธิแค่วันละ 5 แสนสัญญาในช่วงก่อนวันขอบคุณพระเจ้าเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน เนื่องจากปริมาณเงินดอลลาร์ที่ถูกดูดกลับเข้าสหรัฐมีจำนวนมหาศาลอย่างไรก็ตาม ตลาดหันมีการเข้าซื้อบอนด์รัฐบาลสหรัฐตั้งแต่กลางเดือนมกราคม ส่งผลให้บอนด์ยิลด์อายุ 10 ปีค่อยๆ ขยับลงมาแตะที่ 2.25% ส่งผลให้ความเชื่อของเฟดที่เคยคาดว่าจะเกิดภาวะเงินเฟ้อพุ่งขึ้นรุนแรงเพราะนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของทรัมป์ อาจไม่เป็นอย่างทิ่คิดไว้เนื่องจากก่อนหน้านี้ตลาดบอนด์ถูกเทขายหนักอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในช่วงหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2016 ส่งผลให้บอนด์ยีลด์อายุ 10 ปีพุ่งขึ้นถึง 2.69% ขณะที่ราคาบอนด์ดิ่งลงจนเกิดการขาดทุนในบรรดากองทุนอย่างหนัก และเม็ดเงินถูกดูดกลับเข้าสหรัฐ แต่หลังจากที่เฟดส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้นทำให้นักลงทุนเริ่มกล้าเข้าซื้อในตลาดบอนด์แต่กลับพบว่าสภาพคล่องของเงินดอลลาร์ขาดแคลนมากขึ้นโดยเฉพาะเงินยูโรดอลลาร์ที่ขาดแคลนไปถึง 3.2 ล้านล้านดอลลาร์ดังนั้น ความเสี่ยงในการตึงตัวของยูโรดอลลาร์จะมีมากขึ้น หากเฟดไม่อัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ตลาดการเงินในยุโรปเหมือนช่วงที่เกิดวิกฤติการเงินปี 2007-20082. ขณะเดียวกันอียูเริ่มเตือนตุรกีว่าอาจจะระงับการเจรจาขอกลับเข้าเป็นสมาชิกของตุรกึไว้จนกว่าผลการลงประชามติให้แก้ไขรัฐธรรมนูญมีการตรวจเช็คอย่างชัดเจน เนื่องจากมีแนวโน้มว่ารัฐบาลตุรกีจะมีอำนาจที่เผด็จการมากขึ้น เนื่องจากผลโหวตของชาวตุรกี 51 ต่อ 49 ต่างกันไม่ถึง 2 ล้านเสียง ยินยอมให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 18 มาตรา ทำให้การบริหารประเทศของตุรกีเปลี่ยนเป็นระบบประธานาธิบดี แทนระบบรัฐสภา และยังส่งผลให้ประธานาธิบดี Erdogan อยู่บริหารประเทศได้จนถึงปี 2029นอกจากนี้ ประธานาธิบดี Erdogan ยังสามารถยกเลิกตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและดึงอำนาจบริหารมาไว้ที่ตัวเอง นอกจากนี้ยังสามารถแต่งตั้งตุลาการคณะผู้บริหารศาลสูงสุดได้มากขึ้น รวมถึงการใช้อำนาจที่จะยุบสภาและประกาศภาวะฉุกเฉินโดยไม่ต้องผ่านคณะรัฐมนตรีได้ ในขณะที่สหภรพยุโรปหรืออียูได้ให้ความสำคัญกับระบบรัฐสภา3. ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เผยสหรัฐกำลังร่วมมือปับจีนเพื่อแก้ปัญหาเกาหลีเหนือ ที่ทำให้มีการพิจารณาทบทวนข้อกล่าวหาจีนปั่นค่าเงินหยวน โดยมีการคาดการณ์กันว่าทรัมป์อาจจะยกเลิกนโยบายตอบโต้จีนในเรื่องการลดค่าเงินหยวนที่ทำให้ได้ดุลการค้ากับสหรัฐสูงถึง 3.47 แสนล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมาตลอดช่วงเกือบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้กดดันเกาหลีเหนืออย่างหนัก โดยการส่งกองเรือรบที่มีแสนยานุภาพมากที่สุดซึ่งทรัมป์เรียกว่า กองเรือยิ่งใหญ่ Armada เป็นกองเรือที่เคยเกรียงไกรของสเปนในศดวรรษที่ 16 เข้าไปประจำการในคาบสมุทรเกาหลี ทำให้เกิดความตึงเครียดในภูมิภาคอย่างหนัก จนอาจจะปะทุเป็นสงครามขึ้นในช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา เนื่องจากตรงกับช่วงเวลาการเฉลิมฉลองครบรอบ 105 ปีของอดีคประธานาธิบดีคิมอิลซุงผู้ก่อตั้งเหาหลีเหนือที่เรียกว่า Day Of The Sun โดยที่ประธานาธิบดีคิมจองอึนประกาศว่าจะเกิดเหตุการณ์ใหญ่ขึ้นในช่วง 15-16 เมษายนที่ผ่านมาแต่สถานการณ์ใหญ่ที่ว่ามีเพียงแค่การเดินสวนสนามแสดงแสนยานุภาพของกองทัพเกาหลีเหนือเท่านั้น ขณะเดียวกันกับที่มีรายงานข่าวของเกาหลีใต้ระบุว่า เกาหลีเหนือมีความพยายามจะยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์จากเรือดำน้ำ ซึ่งถือเป็นการทดสอบการยิงเคลียร์ครั้งที่ 6 นั้นไม่ประสบความสำเร็จเพราะเกิดระเบิดขึ้นก่อนที่จะยิง โดยประสิทธิภาพของขีปนาวุธดังกล่าวนั้นถูกระบุว่าสามารถยิงไกลแบบข้ามทวีบได้ถึงแม้ว่าจะผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งบรรยากาศของสงครามไป แต่โลกก็ยังร้อนระอุด้วยความขัดแย้งของมหาอำนาจในคาบสมุทรเกาหลีต่อไป โดยทั้งจีนกับสหรัฐอาจจะพยายามผลักดันให้มีการเจรจา 6 ชาติด้วยการกดดันเกาหลีเหนือเข้าร่วมวงเจรจาด้วยได้หรือไม่ยังเป็นเรื่องต้องจับตาดูกันต่อไป ทั้งนี้สมาชิก 6 ชาติดังกล่าวประด้วยเกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ สหรัฐ ญี่ปุ่น จีน และรัสเซีย4. หลังจากที่ญี่ปุ่นประสบปัญหาประเทซที่เข้าสู่ยุคผระชากรที่สูงวัยมากขึ้นเรื่อยๆ จากรายงานของทางการญี่ปุ่นว่า เริ่มมีการอพยพของแรงงานต่างชาติไหลทะลักเข้าสู่ญี่ปุ่นในอัตราเพิ่มขึ้นถึงปีละ 20% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เป็นจำนวนถึง 1.08 ล้านคนแล้ว จากจำนวนคนต่างชาติที่อพยพเข้ามาถิ่นที่อยู่อาศัยถึง 2.4 ล้านคนโดยเฉพาะในช่วงเดือนตุลาคม 2015 ถึงกันยายน 2016 มีคนต่างชาติอพยพเข้ามากถึง 136,000 คน เพิ่มขึ้นถึง 40% จากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นสถิติคนอพยพเข้าญี่ปุ่นที่มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1950 ทั้งนี้ จากรายงานของหนังสือพิมพ์ชิมบุนระบุว่า ในปี 2015 ประชากรชาวญี่ปุ่นมีอยู่ 127.1 ล้านคน เป็นชาย 61.82 ล้านคน และเป็นหญิง 65.28 ล้านคน5 . รัฐบาลอินเดียเดินหน้านโยบายลดปริมาณการใช้เงินสดหมุนเวียนในมือของประชาชนต่อเนื่อง ขณะที่คนอินเดียยังคงแห่ถอนเงินตามตู้ ATM ที่มีการระบุว่า ธนาคารพาณิชย์ได้ทยอยลดจำนวนเงินที่บรรจุในเคื่อง ATM จนเกือบจะแห้งเหือดทั้งนี้ มีรายงานว่าธนาคารทางเหนือมีการลดลงจำนวนเงินในจู้ ATM ลงมากถึง 90% ขณะที่ธนาคารทางภาคใต้ลดจำนวนเงินในตู้ ATM ลงถึง 65% แล้ว โดยที่การเบิกถอนแต่ละครั้งตู้ ATM จะจ่ายให้เพียง 20% ของความต้องการถอนเงิน