เมื่อเวลา 11.30 น. ที่พรรคภูมิใจไทย นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ว่า หลังจากนี้รัฐบาลจะมีสถานะคล้ายรัฐบาลรักษาการ สถานะนี้อยู่ที่จิตสำนึกในการดำเนินการเรื่องต่างๆ วันนี้หลายฝ่ายเป็นห่วงในเรื่องการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ซึ่งจะยังคงมีอยู่หลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพราะถือว่าไม่มีการตรวจสอบ เป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตย ซึ่งรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) จะใช้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับจิตสำนึก หากมีจิตสำนึกก็จะไม่ใช้ เพื่อนำพาประเทศไปสู่ความปกติสุข เพราะหากใช้อำนาจดังกล่าวไปจนถึงวันเลือกตั้ง รัฐบาลชุดใหม่จะไม่สามารถทำงานได้
ทั้งนี้ถ้าเขามีจิตสำนึก เขาต้องรู้ว่าสถานะของเขา คือการเตรียมส่งงานให้รัฐบาลชุดใหม่ที่มาจากประชาชน ดังนั้นอะไรที่ควรหรือไม่ควร ท่านจะต้องรู้ เพราะการใช้อำนาจนั้น ไม่เป็นไปตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย ก็ควรจะลด จะเลิกใช้หรือไม่จึงอยู่ที่จิตสำนึก จิตสำนึกนี้ก็อยู่ที่การอบรมจากทางบ้านด้วย การใช้มาตรา 44 เช่น การห้ามนั่งกระบะรถ โดยปกติการออกกฏหมายนอกจากจะต้องพิจารณาในหลักของความเป็นธรรมแล้ว ยังต้องคำนึงถึงวิถีชีวิตของคนในประเทศด้วย ในสังคมไทยใช้รถกระบะในทุกโอกาส งานฉลอง วันแห่ การออกกฏหมายจึงต้องศึกษาผลกระทบเสียก่อน ว่ามีผลได้เสียอย่างไร แต่การใช้มาตรา 44 เหมือนนึกอยากทำอะไรก็ทำ ไม่รอบคอบ แสดงเห็นถึงอันตรายในการใช้ดุลพินิจของคนเพียงคนเดียว
นายวัฒนา กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีความพร้อมในการลงสนามเลือกตั้ง วันนี้เป็นเรื่องดีที่ประชาชนสามารถแยกได้ว่า มีกลุ่มการเมืองอยู่ 2 กลุ่ม 1.กลุ่มต่อต้านระบอบเผด็จการ เช่นพรรคเพื่อไทย 2.กลุ่มที่เห็นด้วยกับระบอบเผด็จการ ถ้าต้องการพรรคการเมืองที่สนับสนุนระบอบประชาธิปไตย อย่างพรรคเพื่อไทย กฎหมายสำคัญที่มาจากคณะปฏิวัติจะต้องถูกยกเลิก แต่หากเห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ ทำงานดี ก็ไม่ต้องเลือกพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อไทยมีความพร้อม 100 เปอร์เซนต์ และไม่กังวลว่าจะมีพรรคการเมืองจากทหารเข้าสู่การเลือกตั้ง เพราะยิ่งมีตัวเลือกมาก ยิ่งเป็นผลดีต่อประชาชน พรรคเพื่อไทยกลัวเพียงการไม่รักษากติกา การใช้อำนาจระหว่างการเลือกตั้ง และการยอมรับผลการเลือกตั้งเท่านั้นเอง