svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ทรัมป์อ้าง! สหรัฐขาดดุลการค้า 8 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี หาต้นเหตุ ก่อนใช้มาตรการตอบโต้ทางการค้า

03 เมษายน 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ทรัมป์อ้างสหรัฐขาดดุลการค้าจำนวนมหาศาลถึง 8 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี เซ็นคำสั่งบริหารหาต้นเหตุเพื่อรวบรวมข้อมูลก่อนใช้มาตรการตอบโต้ทางการค้า ขณะที่ประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจสหรัฐชี้พบหลักฐาน 40 ประเทศมีการใช้มาตรการทางภาษีอุดหนุนส่งออกส่งผลให้เกิดความได้เปรียบทางการค้ากับสหรัฐ นอกเหนือจาก 16 ชาติที่เข้าข่ายการปั่นค่าเงินอ่อนตัวลง ซึ่งทรัมป์ยืนยันในการใช้มาตรการตอบโต้จะไม่ยกเว้นแม้กระทั่งกลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง

ส่วนการพบปะหารืออย่างเป็นทางการระหว่าง 2 ผู้นำประเทศทั้งสหรัฐและจีนที่ฟลอริดาในสัปดาห์นี้ ทรัมป์กล่าวให้สัมภาษณ์ในไฟแนนเชียล ไทมส์ จะยังไม่กดดันประธานาธิบดีสิ จิ้นผิง ในการตั้งกำแพงภาษีเพื่อสกัดการนำเข้าในการเจรจารอบนี้ ซึ่งอาจจะเป็นการเจรจาในครั้งต่อไป แต่สหรัฐจะพุ่งเป้าบีบให้ทางการจีนจัดการกับปัญหาเกาหลีเหนือแทน
ขณะที่ความสัมพันธ์ของมหาอำนาจอีกซีกโลกหนึ่งเริ่มกระชับความร่วมมือมากขึ้น โดยที่ธนาคารกลางรัสเซียดำเนินการจัดตั้งสำนักงานตัวแทนในกรุงปักกิ่ง เพื่อความร่วมมือในการออกพันธบัตรเงินหยวน เพื่อให้เงินหยวนมีบทบาทในตลาดการเงินโลกมากขึ้น โดยมองข้ามบทบาทของเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ทั้งจีนและรัสเซียยังคงเดินหน้าซื้อทองคำเข้ามาเสริมฐานะการถือครองทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ หนุนราคาทองในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาปรับตัวสูงขึ้นราว 9%

1.ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์อ้างสหรัฐขาดดุลการค้าจำนวนมหาศาลถึง 8 แสนล้านดอลลาร์ในปีล่าสุด โดยเป็นการทุ่มขายสินค้าจากจีนสู่ตลาดในสหรัฐมากกว่า 7.34 แสนล้านดอลลาร์ เซ็นคำสั่งบริหารหาต้นเหตุเพื่อรวบรวมข้อมูลก่อนใช้มาตรการตอบโต้ทางการค้า หลังจากพบว่า จีนเป็นอันดับหนึ่งที่มีการเกินดุลการค้ากับสหรัฐถคง 3.47 แสนล้านดอลลาร์ รองลงมาเป็นญี่ปุ่นมูลค่า 6.9 หมื่นล้านดอลลาร์ อันดับสามเป็นเยอรมันที่มีการเกินดุล 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์ เม็กศิโกเป็นอันดับสี่มูลค่าเกินดุล 8,3 หมื่นล่นดอลลาร์ ไอร์แลนด์มีการเกินดุล 3.6 หมื่นล้านดอลลาร์ และเวียดนามมีการเกินดุล 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์
ขณะที่ประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจของสหรัฐ ปีเตอร์ นาวาโร ชี้พบหลักฐาน 40 ประเทศมีการใช้มาตรการทางภาษีอุดหนุนส่งออกส่งผลให้เกิดความได้เปรียบทางการค้ากับสหรัฐ ทำมห้สหรัฐไท่สามารถจัดรายได้ภาษรศุลกากรที่มีมากกว่า 2.8 พันล้านดอลลาร์ นอกเหนือจาก 16 ชาติที่เข้าข่ายการปั่นอัตราแลกเปลี่ยนด้วยการลดค่าเงินของตนลง
ในขณะที่ทรัมป์ยืนยันว่าการใช้มาตรการตอบโต้ไม่ยกเว้นแม้กระทั่งกลุ่มประเทศในตะวันออกกลางที่มีส่วนทำให้สหรัฐต้องเกิดการขาดดุลการค้าจำนวนมหาศาลดังกล่าว

2.ทั้งนี้เมื่อวันเสาร์ที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี 2 ฉบับ เพื่อหาหนทางการบังคับใช้กฎหมายด้านการค้าและแก้ปัญหาการขาดดุลการค้า โดยคำสั่งฉบับแรกได้สั่งการให้รัฐมนตรีพาณิชย์และตัวแทนการค้าของสหรัฐจัดทำรายงานภายใน 90 วัน เพื่อหาสาเหตุเบื้องหลังการขาดดุลการค้าของสหรัฐ ขณะที่คำสั่งฉบับที่สองสั่งการให้เพิ่มประสิทธิภาพการเรียกเก็บอากรตอบโต้การทุ่มตลาด ที่มีอากรตอบโต้การทุ่มตลาด 2.8 พันล้านดอลลาร์ที่รัฐบาลสหรัฐยังไม่สามารถเก็บได้
สำหรับประเทศหลักๆ ที่สหรัฐเอ่ยอ้างนอกจากจีน ญี่ปุ่น เยอรมัน เม็กซิโก ไอร์แลนด์ และเวียดนามแล้ว ยังมีชื่ออีกหลายประเทศ เช่น อิตาลี เกาหลีใต้ มาเลเซีย อินเดีย ไทย ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ ไต้หวัน อินโดนีเซีย และแคนาดา โดยไทยเกินดุลการค้ากับสหรัฐ 1.89 หมื่นล้านดอลลาร์ ในปี 2016 เนื่องจากการที่สหรัฐส่งออกมายังไทยเป็นมูลค่า 1.06 หมื่นล้านดอลลาร์ และนำเข้าจากไทยเป็นมูลค่า 2.95 หมื่นล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ มีรายงานล่าสุดจีดีพีสหรัฐในไตรมาสแรกนี้จะชะลอตัวเติบโตแค่ 1% จากที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 2.5% หลังจากที่การบริโภคของคนอเมริกันลดลงมากจากที่ขยายตัว 1.4% เหลือเพียง 0.8% แต่การส่งออกดีขึ้นจากติดลบ 0.49% มาเป็นการติดลบ 0.16%

3.ส่วนการพบปะหารืออย่างเป็นทางการระหว่าง 2 ผู้นำประเทศทั้งสหรัฐและจีน ได้จัดเตรียมขึ้นที่ฟลอริดาในสัปดาห์นี้ โดยที่ทรัมป์กล่าวให้สัมภาษณ์กับไฟแนนเชียล ไทมส์ จะยังไม่กดดันประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในการตั้งกำแพงภาษีเพื่อสกัดการนำเข้าจากจีนในการเจรจารอบนี้ แต่ทรัมป์ย้ำว่าสิ่งที่สหรัฐจะตอกย้ำกับผู้นำจีนในเรื่องการปั่นค่าเงินหยวนจะต้องให้รับรู้โดยตระหนักถึงสิ่งที่จะตามมาในการเจรจาครั้งต่อไป และหลังจากที่ผลการศึกษาของกระทรวงการคลังสหรัฐมีข้อสรุปในเรื่องนี้ที่ชัดเจนแล้ว
แต่การพบปะกันครั้งนี้ สหรัฐจะพุ่งเป้าบีบให้ทางการจีนจัดการกับปัญหาเกาหลีเหนือแทน โดยที่ทรัมป์กล่าวย้ำว่า หากจีนไม่ดำเนินการต่อเกาหลีเหนือในฐานะที่เป็นประเทศผู้อุดหนุนนำเข้าถ่านหินจากเกาหลีเหนือถึง 40% แล้ว สหรัฐจะเข้ามาดำเนินการเองกับปัญหาของเกาหลีเหนือที่มีการทดลองขีปนาวุธซึ่งสหรัฐถือเป็นประเด็นใหญ่ในการสร้างปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาค

4.ขณะที่ความสัมพันธ์ของมหาอำนาจอีกซีกโลกหนึ่งเริ่มกระชับความร่วมมือมากขึ้น โดยที่ธนาคารกลางรัสเซียดำเนินการจัดตั้งสำนักงานตัวแทนในกรุงปักกิ่ง เพื่อความร่วมมือในการออกพันธบัตรเงินหยวน เพื่อให้เงินหยวนมีบทบาทในตลาดการเงินโลกมากขึ้น โดยมองข้ามบทบาทของเงินดอลลาร์ พร้อมกับสนับสนุนให้เกิดการค้าระหว่าง 2 ประเทศมากขึ้น โยเฉพาะในเดือนมกราคมปีนี้ จีนและรัสเซียมีปริมาณการค้าระหว่างกันเพิ่มขึ้นถึง 34% คิดเป็นมูลค่าราว 6.5 พันล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ ยังจะเป็นความร่วมมือกันในการปกป้องการฟอกเงินในธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย รวมถึงการสกัดกั้นเงินที่ส่งผ่านไปยังกลุ่มผู้ก่อการร้ายทั่วโลก ทั้งจีนนี้จีนและรัสเซียได้ฟื้นฟู้ความสีมพันธฺทางการเงินที่ต่อเนื่องนับจากเดือนตุลาคม1959 ทีมีการจัดตั้งความสัมพันธ์ที่เป็น Sino-Soviet ที่มีจุดมุ่งหมายเพทาอสนับสนุนการใช้ทองคำเป็นทุนสำรองของโลก
5.หลังจากนั้นเป็นต้นมา ทั้งจีนและรัสเซียยังคงเดินหน้าซื้อทองคำเข้ามาเสริมฐานะการถือครองทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้ปริมาณเงินที่เปลี่ยนมือกันมีมากขึ้น รวมทั้งมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นด้วยในการลดความผันผวนของสกุลเงินกยวนและรูเบิ้ลขแงรัสเซีย โดยได้มีการหารือถึงการรื้อฟื้นระบบการซื้อขายทองคำ ด้วยการจัดตั้งเป็นองค์การค้าทองคำสากล
เนื่องจากกลุ่มประเทศ BRICS ที่ประกอบด้วยจีน รัสเซีย ปราซิล อินเดีย และแอฟริกาใต้ มีการถือครองทองคำจำนวนมหาศาล เพื่อที่จะสามารถเชื่อมโยงการค้าทองคำในเซี่ยงไฮ้ เข้ากับองค์กรที่จะมีการจัดตั้งขึ้นในกรุงมอสโคว์ในระยะต่อไป ซึ่งจะยิ่งทำให้ทองมีบทบาทในการหนุนหลังการออกธนบัตรเพื่อใช้หมุนเวียนมากขึ้น
ทั้งนี้ความต้องการทองคำที่มากขึ้น หนุนราคาทองในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาปรับตัวสูงขึ้นราว 9%

logoline