svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

เปิดคำพิพากษาศาลฎีกาฯมัด‘ทักษิณ’ขายหุ้นชินฯ

15 มีนาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

จากกรณีที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มีหยิบยกเรื่องภาษีหุ้นชินคอร์ปฯ ขึ้นมาพิจารณาอีกครั้ง เพื่อหาแนวทางการจับเก็บภาษีกว่า 1 หมื่นล้านบาทเข้ารัฐให้ได้ โดยอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ว่าด้วยหลักการ ที่ตัวการต้องรับผิดชอบและผูกพันจากการกระทำของตัวแทน และโยงเกี่ยวกับอายุความ 10 ปี ซึ่งทำให้ยังสามารถเรียกเก็บภาษีจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2560

โดยกรณีดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อ 23 ม.ค. 2549 นายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร บุตรชายและบุตรสาว ของนายทักษิณ ชินวัตร นำหุ้นชินคอร์ปฯ ที่ซื้อมาจากบริษัทแอมเพิลริชฯ(Ample Rich Investment Limited) ซื่งมี ทักษิณ ชินวัตรเป็นผู้ก่อตั้งจำนวน 329.2 ล้านหุ้นในราคาหุ้นละ 1 บาทนำมาขายต่อให้กองทุนเทมาเส็กในราคาหุ้นละ 49.25 บาทผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยส่วนต่างกำไรจากการซื้อ-ขายหุ้นครั้งนั้นหุ้นละ 48.25 บาท ไม่มีการเก็บภาษี
แต่กรมสรรพากร เห็นว่า กรณีนายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ซื้อหุ้นชินคอร์ปฯ มาจากบริษัทแอมเพิลริชฯ ในราคาหุ้นละ 1 บาท เป็นการซื้อนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ ถือเป็นเงินได้พึงประเมินในปีภาษี 2549 และต้องยื่นแบบเสียภาษีภายในวันที่ 31 มีนาคม 2550 แต่นายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ไม่นำเงินได้ส่วนนี้มายื่นแบบเสียภาษี30 ส.ค.2550 กรมสรรพากรได้ทำการประเมินภาษีพร้อมเบี้ยปรับ โดยนายพานทองแท้ต้องชำระ 5,904.79 ล้านบาทและน.ส.พินทองทา ต้องชำระ 5,676.86 ล้านบาท รวมเป็นเงินที่ทั้งสองคนต้องชำระ11,581.65 ล้านบาทแต่นายพานทองแท้และ น.ส.พินทองทาไม่เห็นด้วย จึงยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ของกรมสรรพากรให้เพิกถอนการประเมินภาษีดังกล่าว แต่ไม่เป็นผล โดยคณะกรรมการฯ มีความเห็นให้บุคคลทั้งสองชำระค่าภาษี เบี้ยปรับ และเงินเพิ่มรายเดือนตามที่เจ้าหน้าที่ประเมิน
นายพานทองแท้และ น.ส.พินทองทา ยื่นฟ้องต่อศาลภาษีอากรกลาง ขอให้ศาลเพิกถอนการประเมินภาษีและคำวินิจฉัยของคณะกรรมการอุทธรณ์ฯ
29 ธันวาคม 2553 ศาลภาษีอากรกลางมีคำพิพากษา ว่า นายพานทองแท้ และน.ส.พินทองทา ไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์หุ้นชินคอร์ปฯ โดยเป็นเพียงผู้ถือหุ้นแทนเจ้าของหุ้นตัวจริง คือนายทักษิณและคุณหญิงพจมาน ชินวัตร โดยยึดเอาตามแนวคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่พิพากษาในคดี พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ร่ำรวยผิดปกติ ซึ่งระบุว่าหุ้นชินคอร์ปฯเป็นของนายทักษิณและคุณหญิงพจมาน และพิพากษายกฟ้อง ทำให้นายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ชนะคดีดังกล่าวและไม่ต้องจ่ายภาษีอย่างไรก็ตาม แม้ว่า คำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองดังกล่าว จะส่งผลในทางเป็นคุณแก่นายพานทองแท้และ น.ส.พินทองทา ในคดีภาษีดังกล่าวข้างต้น แต่ในทางกลับกัน คำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองดังกล่าว กำลังจะกลับมาเป็นหลักฐานสำคัญให้รัฐบาล นำมาเรียกเก็บภาษีเอากับนายทักษิณ จากการขายหุ้นชินคอร์ปให้กับเทมาเส็ก เนื่องจากคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้วินิจฉัยไว้ว่า ทักษิณ เป็นเจ้าของหุ้นชินคอร์ป ฯ ที่แท้จริงโดยให้คนอื่นถือแทน จึงถือว่านายทักษิณเป็นผู้มีรายได้จากการขายหุ้นดังกล่าว จึงต้องเสียภาษีให้กับรัฐ
ดังนั้นจึงมาดูคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่พิพากษาในคดีที่ ให้ทรัพย์สินของ ทักษิณ ชินวัตร จำนวน 46,373.ุ68 ล้านบาท ตกเป็นของแผ่นดิน ว่ามีเนื้อหา ในประเด็นหุ้นชินคอร์ปฯที่ขายให้กับเทมาเส็ก ว่า เนื้อหามีอย่างไรบ้าง
ดดีดังกล่าว อัยการสูงสุดเป็นผู้ยื่นคำร้อง โดยมีทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ถูกกล่าวหา และมีผู้คัดค้านรวมทั้งสิ้น 22 คน โดย มีคุณหญิงพจมาน ชินวัตร เป็นผู้คัดค้านที่ 1 นายพานทองแท้ ชินวัตร เป็นผู้คัดค้านที่ 2 , น.ส.พินทองทา ชินวัตร เป็นผู้คัดค้านที่ 3 น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นผู้คัดค้านที่ 4 นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ เป็นผู้คัดค้านที่ 5 โดยคำพิพากษาดังกล่าวมีทั้งสิ้น 187 หน้า
ทั้งนี้คำพิพากษา ในประเด็นที่เกี่ยวกับการขายหุ้นชินคอร์ปในส่วนเกี่ยวกับแอมเพิลริช ให้กับเทมาเส็ก ตอนหนึ่งมีใจความว่า... คดีนี้ได้ความจากทางไต่สวนว่า ทักษิณ ผู้ถูกกล่าวหา และ คุณหญิงพจมาน ผู้คัดค้านที่ 1 เป้นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทชินคอร์ป ซึ่งเดิมใช้ชื่อว่า บริษัท ชินวัตรคอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด มาตั้งแต่ ปี 2526 หุ้นที่ ทักษิณ ผู้ถูกกล่าวหา และคุณหญิงพจมาน ผู้คัดค้านที่ 1 ถืออยู่รวมกันมีจำนวนมากและเป็นสัดส่วนที่สูง ทั้งยังร่วมดำเนินกิจการด้วยกันและมีผลประโยชน์ร่วมกันตลอดมา คุณหญิงพจมาน ผู้คัดค้านที่ 1 ดูแลจัดการด้านการเงินและทรัพย์สินในช่วงเวลาที่ผู้ถูกกล่าวหา ก่อตั้งบริษัท แอมเพิลริช แล้วขายหุ้นชินคอร์ปในส่วน ของผู้ถูกกล่าวหาให้แก่ บริษัทแอมเพิลริช









logoline