สุนทรพจน์ครั้งแรกของโดนัลด์ ทรัมป์ ในฐานะประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐอเมริกาในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ ถูกจับจ้องจากทั่วโลกว่าทิศทางบริหารของเขาจะมุ่งไปในทิศทางใด เป็นไปตามที่เขาประกาศไว้ช่วงหาเสียงหรือไม่ และเขาจะใช้ถ้อยคำระเบิดอารมณ์เหมือนเคย หรือพูดจานุ่มนวลกว่าปกติ และยึดตามถ้อยคำในร่างสุนทรพจน์
ในเมื่อทรัมป์มีสโลแกนหาเสียง "Make America Great Again" หรือ ทำให้อเมริกายิ่งใหญ่อีกครั้ง จึงแน่นอนว่าคำว่า "great" อาจเป็นคำที่เขาจะใช้บ่อย แต่จะต้องพูดอย่างน้อย 30 ครั้งขึ้นไปจึงจะลบสถิติของประธานาธิบดีเจมส์ มอนโร ที่เคยใช้คำนี้ถึง 29 ครั้งในสุนทรพจน์สมัยที่สอง
ส่วนคำที่นิยมใช้มากที่สุดในสุนทรพจน์ทุกครั้งที่ผ่านมา เช่น nation ชาติ, govern บริหาร, people ประชาชน, power อำนาจ และ country ประเทศ
แต่ทรัมป์อาจสร้างสถิติด้วยคำใหม่ของเขาเอง และเป็นไปได้ว่า คำว่า cyber และhack อาจปรากฏในสุนทรพจน์ หลังข้อกล่าวหาว่า รัสเซียอยู่เบื้องหลังการโจมตีไซเบอร์ล้วงข้อมูลของพรรคเดโมแครตเป็นประเด็นร้อนตลอดการหาเสียงเลือกตั้งจนถึงขณะนี้ หากเขาพูดถึง russia ด้วย ก็จะเป็นสุนทรพจน์รับตำแหน่งของผู้นำสหรัฐที่มีคำว่า รัสเซีย เป็นครั้งที่สอง หลังจาก ดไวท์ ดี ไอเซนฮาว์เคยพูดไว้ในปี 2500
นอกจากนี้อีกคำที่ทรัมป์อาจพูด คือ wall กำแพง เพราะการสร้างกำแพงกั้นพรมแดนเม็กซิโกเพื่้อสกัดกั้นผู้ลักลอบเข้าเมืองเป็นสิ่งที่เขาชูธงหาเสียงมาโดยตลอด แตกต่างจากสุนทพรจน์ของริชาร์ด นิกสัน สมัยที่ 2 ที่บอกว่า "เราควรทลายกำแพงความเป็นปฏิปักษ์ ที่แบ่งแยกโลกมานาน และสร้างสะพานแห่งความเข้าใจแทน ฉะนั้นแม้มีความแตกต่างของระบบรัฐบาล ประชากรโลกยังเป็นเพื่อนกันได้"
อีกคำที่ทรัมป์คงขาดไม่ได้ คือ immigrant ผู้อพยพ แต่อาจเป็นเชิงต่อต้านผู้อพยพมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา สวนทางกับสิ่งที่บารัก โอบามาเคยพูดไว้ในสุนทรพจน์สมัยสองว่า "การเดินทางของเราจะไม่สิ้นสุดจนกว่าเราจะพบหนทางที่ดีกว่าเพื่อต้อนรับผู้อพยพที่เปี่ยมด้วยความหวังและการดิ้นรน ซึ่งมองว่าอเมริกาเป็นดินแดนแห่งโอกาส"