ชาวโรฮิงญาหลายหมื่นคนข้ามชายแดนเข้าไปในบังกลาเทศเพื่อหลบหนีการกวาดล้างของตำรวจและทหารที่เริ่มขึ้นในเดือน ต.ค.หลังจากป้อมตำรวจชายแดนในเมืองหม่องดอถูกโจมตี ทำให้ตำรวจเสียชีวิต9 นาย ชาวโรฮิงญา เล่าว่า มีการเข่นฆ่า ข่มขืน วางเพลิง และการทรมานโดยฝีมือของตำรวจและทหาร
ผลสอบของคณะกรรมการที่มีพลเอก มิน ส่วน อดีตนายพลเป็นประธาน ปฏิเสธข้อกล่าว โดยระบุว่าจำนวนประชากร"เบงกาลี" ซึ่งเป็นคำที่ทางการเมียนมาร์เรียกชาวโรฮิงญา มัสยิด และสิ่งปลูกสร้างทางศาสนาอิสลามในรัฐยะไข่ ที่มีอยู่ในพื้นที่ เป็นสิ่งยืนยันได้ว่าไม่มีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และการกดขี่ทางศาสนา
นอกจากนี้ยังไม่พบหลักฐานเพียงพอบ่งชี้ว่ามีเหตุข่มขืน ส่วนข้อหาลอบวางเพลิง จับกุมตามอำเภอใจและกระทำทารุณยังอยู่ระหว่างสอบสวน
แต่นายคริส เลวา จากกลุ่มสิทธิมนุษยชน อาระกัน โปรเจกต์ กล่าวว่า การสอบสวนของคณะกรรมการชุดนี้ ไม่มีความเป็นมืออาชีพและไม่น่าเชื่อถือ
ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันทางการเมียนมาร์ได้ควบคุมตัวตำรวจ 8 คนที่เกี่ยวข้องในคลิปวิดีโอเหตุการณ์ตำรวจทุบตีเตะต่อยชาวบ้านโรฮิงญา