12 ฉายา "คนดังวงการกีฬา" ปี 2559
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ตั้งฉายาให้กับบุคคลในวงการกีฬา ประจำปี 2559 โดยคัดเลือกจากบุคคลในข่าวที่โดดเด่นในสายตาของสื่อมวลชนสายกีฬาในรอบปีที่ผ่านมา สำหรับฉายาคนกีฬาประจำปี 2559 มีจำนวน 12 ฉายา ดังนี้
เริ่มกันที่"ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอลชาติไทย ได้รับฉายา "กุนซือ Waiting list" เนื่องเพราะอนาคตการคุมทีมของซิโก้ยังไม่แน่นอน เปรียบเสมือนผู้โดยสารเครื่องบินที่ถูกขึ้นบัญชี Waiting list รอตั๋วที่นั่งว่าง ซึ่งจะมีหรือไม่มีก็ยังไม่รู้
ต่อมาคือ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้รับฉายา "นายกจับสลาก"เพราะเป็นครั้งแรกตั้งแต่มีการแข่งขันฟุตบอลเกิดขึ้นในประเทศไทย หรืออาจจะครั้งแรกของโลกก็ว่าได้ ที่มีการตัดสินหาทีมแชมป์ด้วยการจับสลาก ในการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอคัพ และฟุตบอลลีกดิวิชั่น2 เพื่อหาทีมขึ้นชั้น
ส่วน "ปีโป้" สิโรจน์ ฉัตรทอง ได้รับฉายา "ช้างถึกเลี่ยมทอง"ด้วยรูปร่างที่ใหญ่โตสูง 184 เซ็นติเมตร แนวการเล่นที่บู๊และดุดัน สร้างความปั่นป่วนให้แผงหลังทีมคู่ต่อสู้อย่างมาก จึงได้รับฉายานี้ไป
"เมสซี่เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ ได้รับฉายา "ลิงน้อยสอยป้า" หลังจากประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการว่าคบหาเป็นแฟนกับ "เมย์" พิชญ์นาฏ สาขากร ดาราสาว แต่ด้วยวัยที่ห่างกันเกือบ 12 ปี เพื่อน ๆ มักเรียกแฟนสาวของ ชนาธิป ว่า "ป้า" ส่วนตัวเขาเองเป็นนักเตะไซส์เล็ก ก็ได้รับฉายาว่า "ลิงน้อย"
ด้าน "ตั้ม" ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ได้รับฉายา "แข้งทองฝังเพชร" จากดีลประวัติศาสตร์ ระหว่าง "กว่างโซ้งมหาภัย" เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ซื้อธนบูรณ์ จาก "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 50 ล้านบาท นับว่าเป็นค่าตัวที่แพงที่สุดในวงการฟุตบอลเมืองไทย
มากันที่นักกีฬาประเภทอื่นบ้าง "โปรเม" เอรียา จุฑานุกาล นักกอล์ฟสาวมือ 2 ของโลก ได้รับฉายา "สาวน้อยร้อยล้าน" จากการที่เธอทำผลงานคว้าแชมป์แอลพีจีเอทัวร์ถึง 5 รายการ คว้ารางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี ได้โบนัส 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 36 ล้านบาท จากคะแนนสะสมเรซ ทู ซีเอ็มอี โกลบ และตำแหน่งนักกอล์ฟทำเงินสูงสุด ด้วยเงินรางวัลสะสมกว่า 2 ล้าน 5 แสน ดอลลาร์สหรัฐ หรือ ราว 92 ล้านบาท
"เมย์" รัชนก อินทนนท์ ได้รับฉายา "นางฟ้าตกสวรรค์" จากผลงานอันยอดเยี่ยมเมื่อช่วงต้นปี ส่งผลให้เธอผงาดขึ้นเป็นมือ 1 โลก แต่ผลงานช่วงครึ่งปีหลังผลงานต่างกันกับครึ่งปีแรกอย่างสิ้นเชิง ล่าสุดอันดับโลกหล่นมาอยู่ที่ 5
"ณี" สุธิยา จิวเฉลิมมิตร นักกีฬายิงเป้าบินทีมชาติและมือ 1 ของโลก ได้รับฉายา "มือปืนเป้าหนี" เพราะทำผลงานยอดเยี่ยมมาตลอดปี แต่ในโอลิมปิกเกมส์ 2016 กลับตกรอบแรก
"แต้ว" พิมศิริ ศิริแก้ว นักกีฬายกน้ำหนักหญิงทีมชาติไทย ได้รับฉายา "นางรอง 2 สมัย" พิมศิริ เจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ 2012 ลงแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2016 รุ่น 58 กิโลกรัมหญิง ด้วยความหวังเหรียญทอง แต่สุดท้ายก็ต้องหลีกทางให้จอมพลังสาวรุ่นน้อง "ฝ้าย" สุกัญญา ศรีสุราช ที่ลงชิงชัยในรุ่นเดียวกันคว้าเหรียญทอง โดยแต้วถอนตัวไม่ยกครั้งสุดท้ายในท่าคลีนแอนด์เจิร์ก ทำให้ได้เหรียญเงินมาครองอีกสมัย
"สด" ฉัตร์ชัย บุตรดี นักกีฬามวยสากลทีมชาติไทย ได้รับฉายา "ฉัตร์ (ปล้น) ชัย" การแข่งขันชกมวยสากลสมัครเล่น รุ่นแบนตั้มเวต รอบ 16 คนสุดท้าย ในริโอ เกมส์ ซึ่งฉัตร์ชัย พบกับ วลาดิเมียร์ นิกิติน จากรัสเซีย ปรากฏว่านักชกไทยเป็นฝ่ายเดินไล่ถลุงอยู่แทบจะฝ่ายเดียว แต่ผลสุดท้ายกลับเป็นฝ่ายพ่ายคะแนน 1-2 เสียง ชนิดค้านสายตาคนทั้งโลก
"บิ๊กเสือ" สกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้รับฉายา "ผู้ว่าฯ หลักกรู" ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา "บิ๊กเสือ" เป็นประธานอนุกรรมการพิจารณาคัดเลือกผู้รับรางวัล ด้านกีฬาดีเด่น วันกีฬาแห่งชาติ ประจำปี 2559 แต่หลายรางวัลกลับค้านสายตาคนกีฬาอย่างมาก พิจารณาแบบไม่ยึดตามหลักเกณฑ์ หรือ หลักการใดๆ ยึดแต่ "หลักกรู" เอาความคิดตัวเองเป็นที่ตั้ง สร้างความลำบากใจกับอนุกรรมการเป็นอย่างมาก
และ กิตตน์สมบัติ เอื้อมมงคล นายกสมาคมกีฬาเทนนิสฯ ได้รับฉายา "งาบเงียบ" ในการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาเทนนิสฯ ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่า สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ซึ่งนั่งเก้าอี้นี้มาหลายสมัย จะโดนโค่นจากตำแหน่งอย่างไม่รู้ตัว ซึ่งทุกฝ่ายไม่มีการระแคะระคาย หรือมีข่าวลือมาก่อน
ต่อมาคือ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้รับฉายา "นายกจับสลาก"เพราะเป็นครั้งแรกตั้งแต่มีการแข่งขันฟุตบอลเกิดขึ้นในประเทศไทย หรืออาจจะครั้งแรกของโลกก็ว่าได้ ที่มีการตัดสินหาทีมแชมป์ด้วยการจับสลาก ในการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอคัพ และฟุตบอลลีกดิวิชั่น2 เพื่อหาทีมขึ้นชั้น
ส่วน "ปีโป้" สิโรจน์ ฉัตรทอง ได้รับฉายา "ช้างถึกเลี่ยมทอง"ด้วยรูปร่างที่ใหญ่โตสูง 184 เซ็นติเมตร แนวการเล่นที่บู๊และดุดัน สร้างความปั่นป่วนให้แผงหลังทีมคู่ต่อสู้อย่างมาก จึงได้รับฉายานี้ไป
"เมสซี่เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ ได้รับฉายา "ลิงน้อยสอยป้า" หลังจากประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการว่าคบหาเป็นแฟนกับ "เมย์" พิชญ์นาฏ สาขากร ดาราสาว แต่ด้วยวัยที่ห่างกันเกือบ 12 ปี เพื่อน ๆ มักเรียกแฟนสาวของ ชนาธิป ว่า "ป้า" ส่วนตัวเขาเองเป็นนักเตะไซส์เล็ก ก็ได้รับฉายาว่า "ลิงน้อย"
ด้าน "ตั้ม" ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ได้รับฉายา "แข้งทองฝังเพชร" จากดีลประวัติศาสตร์ ระหว่าง "กว่างโซ้งมหาภัย" เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ซื้อธนบูรณ์ จาก "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 50 ล้านบาท นับว่าเป็นค่าตัวที่แพงที่สุดในวงการฟุตบอลเมืองไทย
มากันที่นักกีฬาประเภทอื่นบ้าง "โปรเม" เอรียา จุฑานุกาล นักกอล์ฟสาวมือ 2 ของโลก ได้รับฉายา "สาวน้อยร้อยล้าน" จากการที่เธอทำผลงานคว้าแชมป์แอลพีจีเอทัวร์ถึง 5 รายการ คว้ารางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี ได้โบนัส 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 36 ล้านบาท จากคะแนนสะสมเรซ ทู ซีเอ็มอี โกลบ และตำแหน่งนักกอล์ฟทำเงินสูงสุด ด้วยเงินรางวัลสะสมกว่า 2 ล้าน 5 แสน ดอลลาร์สหรัฐ หรือ ราว 92 ล้านบาท
"เมย์" รัชนก อินทนนท์ ได้รับฉายา "นางฟ้าตกสวรรค์" จากผลงานอันยอดเยี่ยมเมื่อช่วงต้นปี ส่งผลให้เธอผงาดขึ้นเป็นมือ 1 โลก แต่ผลงานช่วงครึ่งปีหลังผลงานต่างกันกับครึ่งปีแรกอย่างสิ้นเชิง ล่าสุดอันดับโลกหล่นมาอยู่ที่ 5
"ณี" สุธิยา จิวเฉลิมมิตร นักกีฬายิงเป้าบินทีมชาติและมือ 1 ของโลก ได้รับฉายา "มือปืนเป้าหนี" เพราะทำผลงานยอดเยี่ยมมาตลอดปี แต่ในโอลิมปิกเกมส์ 2016 กลับตกรอบแรก
"แต้ว" พิมศิริ ศิริแก้ว นักกีฬายกน้ำหนักหญิงทีมชาติไทย ได้รับฉายา "นางรอง 2 สมัย" พิมศิริ เจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ 2012 ลงแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2016 รุ่น 58 กิโลกรัมหญิง ด้วยความหวังเหรียญทอง แต่สุดท้ายก็ต้องหลีกทางให้จอมพลังสาวรุ่นน้อง "ฝ้าย" สุกัญญา ศรีสุราช ที่ลงชิงชัยในรุ่นเดียวกันคว้าเหรียญทอง โดยแต้วถอนตัวไม่ยกครั้งสุดท้ายในท่าคลีนแอนด์เจิร์ก ทำให้ได้เหรียญเงินมาครองอีกสมัย
"สด" ฉัตร์ชัย บุตรดี นักกีฬามวยสากลทีมชาติไทย ได้รับฉายา "ฉัตร์ (ปล้น) ชัย" การแข่งขันชกมวยสากลสมัครเล่น รุ่นแบนตั้มเวต รอบ 16 คนสุดท้าย ในริโอ เกมส์ ซึ่งฉัตร์ชัย พบกับ วลาดิเมียร์ นิกิติน จากรัสเซีย ปรากฏว่านักชกไทยเป็นฝ่ายเดินไล่ถลุงอยู่แทบจะฝ่ายเดียว แต่ผลสุดท้ายกลับเป็นฝ่ายพ่ายคะแนน 1-2 เสียง ชนิดค้านสายตาคนทั้งโลก
"บิ๊กเสือ" สกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้รับฉายา "ผู้ว่าฯ หลักกรู" ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา "บิ๊กเสือ" เป็นประธานอนุกรรมการพิจารณาคัดเลือกผู้รับรางวัล ด้านกีฬาดีเด่น วันกีฬาแห่งชาติ ประจำปี 2559 แต่หลายรางวัลกลับค้านสายตาคนกีฬาอย่างมาก พิจารณาแบบไม่ยึดตามหลักเกณฑ์ หรือ หลักการใดๆ ยึดแต่ "หลักกรู" เอาความคิดตัวเองเป็นที่ตั้ง สร้างความลำบากใจกับอนุกรรมการเป็นอย่างมาก
และ กิตตน์สมบัติ เอื้อมมงคล นายกสมาคมกีฬาเทนนิสฯ ได้รับฉายา "งาบเงียบ" ในการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาเทนนิสฯ ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่า สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ซึ่งนั่งเก้าอี้นี้มาหลายสมัย จะโดนโค่นจากตำแหน่งอย่างไม่รู้ตัว ซึ่งทุกฝ่ายไม่มีการระแคะระคาย หรือมีข่าวลือมาก่อน