รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง วิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ ระบุ ในอีก 1-2 สัปดาห์ กระทรวงฯจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติแพคเกจของขวัญให้ประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยเน้นกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ เช่น มาตรการช็อปช่วยชาติ ซึ่งอาจขยายเวลาการใช้สิทธิ์ให้นานขึ้น หรือมีมาตรการอื่นเข้ามาเสริม เพื่อให้เศรษฐกิจแข็งแรงขึ้น และจีดีพีขยายตัว 3.3 - 3.4% ในปีนี้ และเพิ่มเป็น 4-5% ในปีหน้า
ด้านปลัดกระทรวงการคลัง สมชัย สัจจพงษ์ ระบุ เศรษฐกิจไทยช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้ ขยายตัวลดลง จึงต้องหามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปีใหม่เข้ามาดูแล เพื่อให้จีดีพีขยายตัวตามเป้าหมาย และมีผลต่อเนื่องถึงปีหน้า ซึ่งนับเป็นการบิ๊กบูม บิ๊กแบง เศรษฐกิจของประเทศ ให้เติบโตเฉลี่ยปีละ 4-5 %
รัฐบาลจะผลักดันมาตรการระยะสั้นออกมาอย่างต่อเนื่อง เช่น มาตรการลดภาษีนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือย เช่น น้ำหอมและเครื่องสำอาง เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยจะเริ่มใช้ในเดือนกุมภาพันธุ์-มีนาคมนี้ ควบคู่กับมาตรการระยะยาว คือ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นระบบราง ทางด่วน โรงไฟฟ้า
รายงานข่าวระบุว่า การลดอัตราภาษีสินค้าฟุ่มเฟือย เช่น น้ำหอม เครื่องสำอาง เป็นไปตามข้อเสนอของกระทรวงท่องเที่ยวและการกีฬา ซึ่งต้องการกระตุ้นการใช้จ่ายและการท่องเที่ยวในประเทศ โดยมาตรการดังกล่าวจะเป็นมาตรการระยะสั้นประมาณ 2 สัปดาห์ และจะจำกัดจำนวนสินค้าที่ซื้อ
ปัจจุบันกระทรวงฯ จัดเก็บภาษีสินค้าฟุ่มเฟือย 3 รายการ คือ ภาษีสรรพสามิตเก็บในอัตรา 15% ของมูลค่าสินค้า ภาษีอากรขาเข้าในอัตรา 30% ของมูลค่าสินค้า และภาษีมูลค่าเพิ่มหรือวีเอทีในอัตรา 7% ของฐานราคาสินค้ารวมภาษีสรรพสามิตและภาษีอากรขาเข้า