"ทรัมป์"ส่งสัญญาณ เปิดสงครามกาารค้ากับจีนเต็มตัว

โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศในวันแรกที่เริ่มทำงานในทำเนียบขาวจะออกคำสั่ง (Executive Order) ให้ข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือ TPP (Trans Pacific Partnership) ของบารัค โอบามา ให้เป็นโมฆะขณะที่ดัชนี S&P 500, Dow Jones และ Nasdaq จูงมือกันขึ้นยกแผงทำสถิติใหม่ถ้วนหน้าจับตาการเมืองพลิกในฝรั่งเศส ที่ผู้นำฝ่ายขวาจัดมาแรงอาจแซงโค้งฟรังซัวส์ ออลลอง ปธน.ฝรั่งเศสในขณะนี้
1.โดนัลด์ ทรัมป์ เผยแพร่วีดิโอสื่อถึง 6 นโยบายเร่งด่วนที่จะดำเนินการหลังจากการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค. 2017 ประกอบด้วย หนึ่งด้านการค้า บ่งชี้ว่าในวันแรกที่เริ่มทำงานในทำเนียบขาวจะออกคำสั่ง Executive Order ของประธานาธิบดี เพื่อให้ข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือ TPP ของบารัค โอบามา ให้เป็นโมฆะ ทั้งนี้ ภายใต้ข้อตกลง TPP ของโอบามาได้เซ็นสัญญาเบื้องตันไว้กับ 12 ประเทศในแถบเอเชีย-แปซิฟิก
โดยที่ตลาดคาดว่านี่อาจเป็นสัญญาณที่ทรัมป์จะเริ่มเปิดสงครามการค้ากับจีน ตอบโต้กลับการปั่นเงินหยวนอ่อนค่าเพื่อรักษาความได้เปรียบทางการค้าของจีน ด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าสูงถึง 45% นอกจากนี้ยังอาจใช้มาตรการขึ้นภาษีนำเข้าจากเม็กซิโกถึง 35% อีก
สอง IMMIGRATION จะใช้การตรวจสอบเข้มข้นในการให้วีซ่า เพื่อปิดรับแรงงานต่างชาติและต่างถิ่นที่เดินทางเข้าสหรัฐอย่างผิดกฎหมาย โดยทรัมป์เคยระบุว่ามีมากกว่า 11 ล้านคน สาม NATIONAL SECURITY ปกป้องหนทางการใช้สงครามไซเบอร์จากภายนอกสหรัฐ สี่ ETHICS REFORM การปฏิรูปด้านจริยธรรมเพื่อสกัดความพยายามเข้ามาล็อบบี้ทางการสหรัฐ ห้า ยกเลิกอุปสรรคที่สกัดการจ้างแรงงานอเมริกัน โดยให้สิทธิ์คนอเมริกันในการเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมพลังงานและเหล็ก และหก กำหนดให้กระทรวงแรงงานตรวสอบโดยตรงในกฎเกณฑ์ที่บิดเบือนการให้วีซ่าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
2.ดัชนี S&P 500 พุ่งทำสถิติใหม่ปิดที่ 2,198 บวก 0.75% เมื่อวันจันทร์ ทำให้เป็นการปรับตัวสูงขึ้นกว่า 8% นับจากคืนวันเลือกตั้ง เช่นเดียวกับดาวโจนส์ยังคงทำสถิติใกล้ 19,000 เข้าไปทุกทีโดยปิดที่ 18,956 บวก 0.47% รวมทั้ง Nasdaq ปิดที่ 5,368 บวก 0.89% สวนทางเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงเล็กน้อย
3.ขณะที่เทรดเดอร์ 100% ในวันนี้เชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นดอกเบี้ยค่อนข้างแน่นอนในการประชุมวันที่ 14-15 ธ.ค.นี้ โดยจะปรับขึ้นจาก 0.5% เป็น 0.75% เนื่องจากการคาดการณ์เงินเฟ้อของสหรัฐที่จะไต่สูงขึ้นในปี 2017 จนถึงระยะปานกลางในระดับ 2.5-3.0% ระหว่างปี 2018-2019 จากมาตรการใช้งบประมาณที่ขาดดุลงบประมาณสูงถึงปีละกว่า 5.3 แสนล้านดอลลาร์
4.ส่วนการใช้งบลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคและสาธารณูปการที่คาดว่าจะใช้เงินถึง 1.1 ล้านล้านดอลลาร์นั้น ทีมงานทรัมป์เปิดเผยว่าจะใช้ระดมเงินทุนผ่านทาง Private Funds แทน
5.จับตาเงินยูโรเสี่ยงขาลง จากเหตุการเลือกตั้งในฝรั่งเศสในเดือนพ.ค.ปีหน้านี้ จะกลายเป็น Brexit อีกหน้าประวัติศาสตร์หนึ่งที่จะหันกลับไปใช้ความเป็นชาตินิยมมากขึ้น เมื่อคนฝรั่งเศสปฏิเสธไม่เลือกนายฟรังซัวส์ ออลลอง ปธน.ปัจจุบันให้กลับเข้ามาอีกสมัยหนึ่ง โดยไปให้ความสำคัญกับผู้นำใหม่ที่มีการชิงชัยเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันซึ่งเป็นพรรคสายกลางขวา ระหว่างนายฟรังซัวส์ ฟิยง ซึ่งเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส กับนายอแลง จุปเป ซึ่งทำให้นายนิโคลาส์ ซาร์โกซี พ่ายตกรอบแรกการคัดเลือกเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ต้องหมดสิทธิลงชิงตำแหน่งไปแล้ว
โดยเป็นที่คาดการว่า การชิงชัยเลือกตั้งปธน.ฝรั่งเศสในปีหน้านี้จะเป็นการขับเคี่ยวของผู้นำพรรครีพับลิกันของฝรั่งเศสระหว่างนายฟรังซัวส์ ฟิยง หรือนายอแลง จุปเป กับคู่แข่งคนสำคัญอย่างนางมารีน เลอแปง ผู้นำพรรคแนวหน้าแห่งชาติ ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายขวาจัดของฝรั่งเศส