"มิ้นท์" จอมเตะสาวไทย ดังไม่หยุด เทควันโดโลก ชื่นชมฝีเท้า

ความเคลื่อนไหวนักเทควันโดเยาวชนไทย ที่ไปสร้างผลงานคว้า 1 ทอง 1 เงิน 1 ทองแดง จากการแข่งขันศึกเยาวชนชิงแชมป์โลก ที่ประเทศแคนาดา ล่าสุดเว็บไซต์ www.worldtaekwondofederation.net ของสหพันธ์เทควันโดโลก (ดับเบิลยูทีเอฟ) ได้ลงบทความการสัมภาษณ์ "น้องมิ้นท์" นภาพร จรณวัต จอมเตะดาวรุ่งวัย 17 ปี ที่คว้าเหรียญทองในรุ่น 46 กก.หญิง มาครองได้ โดยกล่าวถึงประวัติความเป็นมา ตั้งแต่เริ่มเล่นกีฬาชนิดนี้เมื่อตอนอายุ 8 ขวบ สาเหตุมาจากสภาพร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงสักเท่าไหร่นัก ก่อนจะพัฒนาฝีเท้าตัวเองก้าวมาติดทีมชาติชุดยุวชนและเยาวชนได้อย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ แอนดี้ แซลมอน ผู้สื่อข่าวประจำเว็บไซต์สหพันธ์เทควันโดโลก ได้สอบถามชีวิตความเป็นส่วนตัวของสาวน้อยคนนี้ผ่านล่าม "โค้ชชิต" วิชิต สิทธิ์กัณฑ์ สตาฟฟ์โค้ชทีมชาติไทยว่า นอกเหนือจากเล่นกีฬาเทควันโดแล้วเจ้าตัวทำอะไรบ้าง, การฟิตซ้อมและการดูแลรักษาตัวเองให้มีความพร้อมอย่างสม่ำเสมอ, ความคิดเห็นเกี่ยวกับกีฬาเทควันโดที่มีการแก้ไขกฏกติกาใหม่มีข้อดีและข้อเสียอย่างไร ตลอดจนผลงานความสำเร็จที่ผ่านมา เพื่อนำเสนอและยกย่องว่า "น้องมินท์" นภาพร เป็นซูเปอร์สตาร์ดาวรุ่งในการแข่งขันเทควันโดเยาวชนโลกครั้งนี้ โดยเฉพาะความพ่ายแพ้รายการดังกล่าวที่ไต้หวันเมื่อ 2 ปีก่อน ของนภาพร เพียงแค่ 3 วินาทีสุดท้ายให้กับคู่แข่งจากรัสเซีย จนนำมาสู่การฮึดสู้คว้าเหรียญทองในครั้งนี้ได้สำเร็จ เพราะนักกีฬาหลายคนที่เคยเป็นแบบนี้ส่วนใหญ่ถอดใจและเลิกเล่นไปมากแล้ว

ขณะเดียวกัน สภาพร่างกายของนภาพร ในการแข่งขันครั้งนี้ก็ไม่สมบูรณ์เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์สักเท่าไหร่นัก เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บเอ็นหัวเข่าซ้ายบิดจนต้องรักษามาตลอด แต่ "น้องมินท์" ก็สามารถเอาชนะคู่แข่งมาได้หมด ทั้งที่รูปร่างก็ไม่ได้สูงใหญ่สักเท่าไหร่นัก หากเปรียบเทียบกับนักเทควันโดจากยุโรป นอกจากนี้ เว็บไซต์ดับเบิลยูทีเอฟ ยังกล่าวถึงวินาทีการขึ้นรับเหรียญรางวัลของนภาพร ที่เจ้าตัวนำภาพพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขึ้นไปด้วย "น้องมิ้นท์" นภาพร ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เวลานี้คนไทยทั้งชาติยังอยู่ในห่วงเวลาแห่งความโศกเศร้าและเสียใจอย่างยิ่งของการเสด็จสวรรคตของในหลวง ตนเองในฐานะตัวแทนของนักกีฬา รวมไปถึงผู้บริหารสมาคมเทควันโดทุกคน ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านมาตลอด จึงอยากถวายความสำเร็จในครั้งนี้แด่พระองค์ท่าน พร้อมจะนำคำสั่งสอนของพ่อหลวงมาใช้กับชีวิตประจำวันและการเป็นนักกีฬาที่ดีของตัวเอง เพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ต่อไป
ในช่วงท้ายของการสัมภาษณ์ ยังมีการกล่าวถึงเป้าหมายในอนาคตของจอมเตะวัย 17 ปี ที่จะขัยบไปเล่นรุ่นประชาชนทั่วไป ที่เจ้าตัวระบุว่า อันดับแรกต้องการคว้าเหรียญทองในศึกชิงแชมป์เอเชีย, เอเชี่ยนเกมส์ และ ชิงแชมป์โลก ให้ได้ เพราะมันเป็นงานที่ท้าทายความสามารถของตัวเอง