จับตา !!! "เฟด" ขึ้นดอกเบี้ยเดือนหน้า

Top 5 ข่าวการเงินโลก 18 พ.ย. 2559
Trumponomics ที่ต้องการทำให้การอุดหนุนอัตราว่างงานลดลง ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่พุ่งเป็นจรวด การขายอย่างถล่มขายบอนด์รัฐบาลสหรัฐ รวมทั้งการกระหน่ำขายหุ้นและบอนด์ในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) และการตกต่ำลงของเงินเยน เงินหยวน และเงินยูโร อย่างรวดเร็ว ในช่วงเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ภายหลังการเลือกตั้งปธน.สหรัฐ
นโยบายเศรษฐกิจของโดนัลด์ ทรัมป์ ถูกมองว่าเป็นนโยบายเชิงรุกที่พลิกผันจากการแจกเงินจพนวนมหาศาลมากกว่า 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ผ่านมาตรการ QE เพื่อกอบกู้วิกฤติการเงินวิกฤติซับไพรม์ของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ในช่วงปี 2008-2011 นั้นได้ส่งผลให้ระบบการเงินในสหรัฐต้องติดกับดักสภาพคล่องและนำมาสู่"ฟองสบู่"ลูกโตในตลาดหุ้นและตลาดบอนด์สหรัฐจนถึงปัจจุบัน
1.ค่าเงินดอลลาร์วันนี้ยังคงพุ่งอย่างต่อเนื่อง Dollar Index ทะยานสู่ระดับ 100.61 แข็งค่ามากที่สุดในรอบ 13 ปีครึ่ง โดยที่บ่งบอกสัญญาณซื้อที่มากเกินไป (Overbought) นับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2015 โดยเงินหยวนร่วงลงต่ออีกที่ 6.89 ต่อดอลลาร์ ขณะที่เงินเยนอ่อนค่าที่ 110.17 เยนต่อดอลลาร์ เงินยูโรร่วงแตะ 1.06 ดอลลาร์ ขณะที่เงินบาทอ่อนค่าแตะ 35.56 ต่อดอลลาร์แล้ว โดยล่าสุดนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด แถลงต่อคองเกรส ชี้ว่าเฟดอาจตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค.
2.หุ้นดาวโจนส์ส่วนใหญ่อยู่ในภาวะที่เรียกว่า Overbought นับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2014 เช่นเดียวกัน ดัชนีดาวโจนส์กลับมาบวกในวันพฤหัสฯปิดที่ 18,903 บวก 35 หรือบวก 0.19% S&P500 +0.47% และ Nasdaq +0/74%
3.นักลงทุนยังคงกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อของสหรัฐที่จะปรับตัวขึ้น ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากมาตรการลดภาษีและการใช้งบประมาณชาดดุลเพื่อลงทุนในโครงการ Infrastructures เพื่อที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะปานกลางระหว่างปี 2017-2019 ทำให้เกิดการกระหน่ำขายในตลาดบอนด์ทั่วโลก โดยเฉพาะตลาดบอนด์สหรัฐเกิดภาวะที่มีการขายมากเกินไป (Oversold) นับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2007 บอนด์ยีลด์อายุ 10 ปีของรัฐบาลสหรัฐทรงตัวที่ 2.28% ส่วนบอนด์ยีลด์ 30 ปีอยู่เหนือ 3% แล้ว โดยตลาดเก็งกันว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้น หรือ เฟด ฟันด์ เรท จากระดับที่อยู่ 0.5% ขณะนี้
4.แนวโน้มที่น่าจับตามองคือธนาคารกลสงสวีเดน ซึ่งเป็นธนาคารกลางแห่งแรกที่พิมพ์เงินธนบัตรออกมาใช้หมุนเวียนในช่วงทศวรรษ 1660 เตรียมแผนการที่จะไม่ชธนบัตรต่อไป โดยจะหันไปใช้ระบบการเงินแบบดิจิตัลคือไม่ต้องถือเงินสดในมืออย่างสมบูรณ์แบบภายใน 2 ปีข้างหน้านี้
โดยก่อนหน้านี้ ฑนาคารกลางยุโรป หรือ ECB ได้ระงับการพิมพ์ธนบัตรฉบับ 500 ยูโรที่มีมีปริมาณราวครึ่งหนึ่งของปริมาณเงินหมุนเวียน เนื่องจากธนบัตรชนิดดังกล่าวมีการปลอมแปลงออกมาใช้จำนวนมาก โดยหวังว่าจะควบคุมปริมาณเงินและหันมาใช้ระบบการเงินที่ไม่ต้องถือเงินสดในมือ ขณะที่ธนาคารกลางอินเดียก็ประกาศเลิกใช้ธนบัตรขนิด 500 และ 1,000 รูปีเพื่อขจัดการคอร์รัปชัน แต่กำลังส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการถือสกุลเงินท้องถิ่นกันมากขึ้น ซึ่งกำลังส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพในระยะสั้น
5.ในขณะที่กองทุน SPDR ซึ่งเป็นกองทุนขาใหญ่ในการลงทุนตลาดค้าทองได้เข้าลงทุนซื้อทองส่วนใหญ่ขยอยูในภาวะที่เป็น Overbought นับจากเดือนเม.ย. 2010 แต่ราคาทองในตลาดล่วงหน้า Comex ของนิวยอร์กยังคงอ่อนค่าลงอยู่ที่ 1,214 ดอลลาร์ต่อออนซ์