svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

Dollar Index พุ่งสูงสุดในรอบ 13 ปี เงินหยวนดิ่งต่ำสุดใน 8 ปี

17 พฤศจิกายน 2559
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

Top 5 ข่าวการเงินโลก ประจำวันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน 2559 โดย วัชรา จรูญสันติกุล บรรณาธิการอาวุโส เครือเนชั่น

Top 5 ข่าวการเงินโลก 17 พ.ย. 59
Dollar Index พุ่งทำสถิติสูงสุดในรอบ 13 ปี ขณะที่เงินหยวนดิ่งลงแตะ 6.88 ตกต่ำสุดรอบ 8 ปี
1.ในที่สุดดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ หรือ Dollar Index ก็แข็งค่าพุ่งขึ้นทะลุระดับ 100.32 ในวันพุธ เป็นการทำสถิติสูงสุดในรอบ 13 ปีนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2003 ท่ามกลางการคาดการณ์นโยบายลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานมูลค่า 1.1 ล้านลเนดอลลาร์ และการลดภาษีกว่า 4.4 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 10 ปีภายใต้การบริหารของโดนัลด์ ทรัพมป์ ทำให้ดอลลาร์มีแข็งค่ามากที่สุดในรอบปีนี้เมื่อเทียบกับเงินยูโรร่วงลงที่ 1.07 ดอลลาร์ โดยเงินยูโรอ่อนค่าลงกว่า 2.8% เพียงแค่หนึ่งสัปดาห์หลังการเลือกตั้งปธน.สหรัฐขณะที่เงินเยนร่วงลงถึง 9% ทะลุระดับ 110 ต่อดอลลาร์แล้ว รวมถึงเม็กซิกันเปโซที่ดิ่งลงถึง 15% ทั้งนี้ดอลลาร์ยังแข็งค่าถึง 3% เมื่อเทียบกับสกุลเงินในกลุ่มประเมศตลาดใหม่โดยเฉพาะเงินหยวนที่อ่อนค่าลงแตะ 6.88 ต่อดอลลาร์ เป็นการอ่อนค่าลงมากที่สุดในรอบ 8 ปี สำหรับเงินบาทก็ถูกกดดันอ่อนค่าลง 1.7% มาอยู่ที่ 35.51 บาทต่อดอลลาร์เช่นเดียวกัน
2.ถึงแม้ว่าบอนด์ยีลด์อายุ 10 ปีของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่พุ่งทะยานต่อเนื่องอย่างรวดเร็วจากความกังวลปัญหาเงินเฟ้อที่จะเกิดขึ้นจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐหิจระยะปานกลางของโดนัลด์ ทรัมป์ จะเริ่มผ่อนคลายบอนด์ยิลด์ลงบ้างโดยขยับลงมาที่ 2.28% เทียบกับวันอังคารพุ่งขึ้นแตะ 2,3% ได้ส่งผลให้บอนด์ยีลด์ของหลายประเทศที่เคยเทรดในอัตราที่ติดลบอย่างเช่นพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปี ก็ได้ขยับขึ้นมาเป็นบวกที่ 0.035% เป็นครั้งแรกในรอบปี ขณะที่อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงของธนาคารกลางญี่ปุ่นยังคงอยู่ที่ลบ 0.1%
3. นอกจากนี้กลุ่มธนาคารขนากใหญ่เริ่มระมัดระวังต่อการแข็งค่ามากเกินไปของเงินดอลลาร์ที่สงผลต่อบอนด์ยีลด์ของบางประเทศในกลุ่มยูโรโซนที่ประสบวิกฤติหนี้สาธารณะมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างน่าเป็นห่วงทั้งโปรตุเกสที่พุ่งขึ้นถึง 3.58% และบอนด์ยีลด์อิตาลีที่ขึ้นมาแตะ 2.05% ล้วนเป็นสัญญาณที่จะกระทบต่อต้นทุนการกู้ยืมและภ่ระหนี้ที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต
4. หลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐวิ่งขึ้นต่อเนื่องในช่วงเกือบหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาจากเม็ดเงินกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ที่ไหลออกจากตลาดบอนด์ไปเข้าสู่ตลาดหุ้น ดัชนีดาวโจนส์เริ่มอ่อนตัวลงในแดนลบแคบๆ ปิดที่ 18,868 ลดลง 54 จุด หรือ -0.29% ส่วน S&P500 -0.16% และ Nasdaq บวก 0.36%ขณะที่จลาหุ้นยุโรปเคลื่อนไหวในขาลงเป็นวันที่สองปรับตัวลดลงเกือบทุกตลาดราว 0.5-0.8% ตามทิศทางตลาดหุ้นของสหรัฐ
5.ควันหลงจากการที่รัฐบาลอินเดียจะเลิกใช้ธบัตรฉบับละ 500 รูปีและ 1,000 รูปี โดยให้นำเข้าฝากในบัญชีธนาคาร หรือมาแลกเป็นธนบะตรฉบับใบละ 2,000 รูปีแทน เพื่อสกัดคอร์รัปชันนั้น ทำให้เกิดความตื่นกลัวในประชาชนอินเดียว่าเงินดังกล่าวจะไม่มีค่าในอนาคต จึงแห่กันไปแลกเงิน ขณะเดียวกันบางส่วนก็แห่ไปซื้อทองคำแทนเก็บสะสมแทนส่งผลให้ราคาทองในอินเดียพุ่งขึ้นเป็นจรวดกว่า 15-20% เป็นเหตุให้ค่าเงินรูปีที่ร่วงลงในช่วงเวลาเดียวกันจาก 66 รูปี มาอยู่ที่ 68 รูปต่อดอลลาร์ในช่วงเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดชาวบ้านก็ไม่มีใครยอมรับการชำระค่าสินค้าด้วยธนบัตรดังกล่าว ทั้งที่รัฐบาลกำหนดให้มาแลกคืนได้ถึงวันที่ 31 ธ.ค.นี้ก็ตาม แต่กลับส่งผลต่อความไม่เชื่อมั่นที่มากขึ้น จนทำให้เกิดการปล้นขโมยสินค้าในร้านต่างๆ โดยที่หลายคนก็เป็นห่วงค่าเงินรูปีอาจจะไม่มีค่าในอนาคต กระทบต่อความเป็นอยู่ที่ทำให้ค่าครองชีพพุ่งประฉูด เนื่องจากการที่ค่าเงินอาจจะเล็กลงจนส่งผลต่อเงินเฟ้อในระยะยาวจนเกิดเป็นเงินเฟ้อขั้นรุนแรงหรือ Hyper-Inflation ในที่สุด

logoline