"ศานิตย์"คุมเข้มแก๊งกรีดกระเป๋าสนามหลวง เตือนปชช.สะพายกระเป๋าด้านหน้า

พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวได้ถึงมาตราการรักษาความปลอดภัยในภาพรวมวันนี้ เกี่ยวกับเรื่องการลักทรัพย์ และกรีดกระเป๋าว่า จากสถิติที่ผ่านมากว่า 10 วัน คดีอาญาที่เกิดขึ้นพบว่ายังน้อยอยู่ ซึ่งปริมาณประชาชนที่เข้ามากราบสักการะพระบรมศพฯ ยังมีประชาชนทยอยเข้ามาประมาณ 4-7 หมื่นคน โดยในวันที่22 ต.ค.ที่ผ่านมามีประชาชนเดินทางเข้ามากที่สุดประมาณ 3 แสนคน ในวันนี้จากการวิเคราะห์ตัวเลขและการปริมาณหลักมาตราวัดของพื้นที่ คาดว่าจะมีประชาชนกว่า 4 หมื่นคน โดยปกติแล้วจะมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมความพร้อมในการดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนอยู่แล้ว สิ่งที่เป็นห่วงที่สุดคือ ภายในท้องสนามหลวง และบริเวณพระบรมมหาราชวัง ซึ่งก็มีจุดคัดกรอง ตรวจสอบบุคคลที่เข้ามาในพื้นที่กว่า 8 จุดใหญ่ และมีจุดย่อย 8-9 จุด ในวันที่ 29 ต.ค. ได้รับแจ้งพบอาวุธมีด คัตเตอร์ สนับมือ ฯลฯ กว่า 400 ชิ้น และในวันนี้เวลา ประมาณ12.00น.ได้รับแจ้งตรวจพบอุปกรณ์ที่ห้ามนำติดตัวมากว่า 100 ชิ้น

"ที่ผ่านมาได้รับแจ้งเหตุกรีดกระเป๋านอกพื้นที่จุดคัดกรองบ้างเชื่อว่าทำกันเป็นขบวนการ การจะก่อเหตุได้จะต้องมีอุปกรณ์ในการกรีดกระเป๋า เช่น มีด หรือคัตเตอร์ แต่ในพื้นที่สนามหลวงนั้นยังไม่มีการแจ้งเหตุกรีดกระเป๋า พบเพียงการแจ้งเหตุล้วงกระเป๋า เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ตั้งจุดคัดกรองตรวจยึดอุปกรณ์ที่ใช้ก่อเหตุ อีกทั้งได้สั่งให้จุดคัดกรองแต่ละจุด ติดรูปภาพบุคคลที่กระทำความผิดไว้บริเวณทางเข้าทุกจุด นอกจากนี้ได้แบ่งเจ้าหน้าที่ออกเป็น 4 โซน คอยออกตรวจตราความเรียบร้อย แต่ในขณะเดียวกันบริเวณท้องสนามหลวงมีหลายซอย จึงจัดกำลังสายตรวจจักรยานยนต์ สายตรวจเดินเท้า กำลังตำรวจสันติบาล ฯลฯ คาดว่าเจ้าหน้าที่ในส่วนนี้จะดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนได้ระดับหนึ่ง ถึงจะไม่มีการแจ้งเหตุเข้ามา ยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ประมาทอย่างแน่นอน" พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าว

พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวต่อว่า เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา บริเวณนอกพื้นที่การคัดกรอง หรือตรงจุดที่มีการแจกจ่ายอาหารให้กับประชาชน ก่อนเข้าพื้นที่ในสนามหลวงได้มีเหตุกรีดกระเป๋าและได้โทรศัพท์ไอโฟนไป จึงอยากขอประชาสัมพันธ์ว่าประชาชนที่พกกระเป๋าสะพายหลัง หรือกระเป๋าเป้มา ไม่ควรที่จะสะพายไว้ด้านหลัง หรือสะพายข้าง เนื่องจากจะมีแก๊งมิจฉาชีพสวมรอยมากรีดกระเป๋าได้ ขณะที่เดินเข้ารับอาหาร หรือเดินผ่านในจุดที่มีประชาชนจำนวนมาก ขอแนะนำให้สะพายกระเป๋าไว้ด้านหน้าเท่านั้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็จะทำทุกวิถีทางที่จะกำจัดพวกกระทำความผิดออกไปโดยเร็วที่สุดนอกจากนี้ทางพล.ต.ท.ศานิตย์ ได้กล่าวถึงกรณีการนำสัมภาระมาบริเวณท้องสนามหลวงว่า การที่จะเดินทางมาร่วมถวายความอาลัย และกราบสักการะพ่อหลวงนั้น ขอให้ประชาชนที่เดินทางมากราบสักการะไม่ต้องพกทรัพย์สินของมีค่ามามากมาย เพราะบริเวณท้องสนามหลวงมีบริการรถสาธารณะ อาหารคาว หวาน ขนม ผลไม้ฟรีทุกอย่าง ขอให้มาแต่ตัวและหัวใจ มาเพื่อกราบสักการะถวายความอาลัยแด่พ่อหลวง เพราะที่ผ่านมาได้รับแจ้งเหตุกรีดกระเป๋า ได้ทรัพย์สินเป็นโทรศัพย์มือถือไอโฟน 1 เครื่อง ส่วนครั้งที่2 ได้กระเป๋าและบัตรประจำตัวไปเท่านั้น

พล.ต.ท.ศานิตย์ ได้กล่าวถึงการจราจรในช่วงระยะเวลาที่จะเปิดภาคเรียนในหลายๆ โรงเรียน ว่า ขณะนี้ทั้งโรงเรียนสวนกุหลาบ โรงเรียนสตรีวิทยา ได้เปิดการเรียนการสอนแล้ว ซึ่งก็ได้มีการประชุมร่วมกับผู้ปกครองแต่ละโรงเรียนก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยมีนักเรียนบางคนนั่งรถโดยสารมาเรียนด้วยตนเอง หรือบางคนที่เป็นเด็กเล็กผู้ปกครองก็จะมาส่งแล้วก็รีบกลับทันที โดยไม่จอดรถแช่ไว้ ซึ่งนี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมการไว้เบื้องต้น แต่ในโรงเรียนอื่นๆหรือโรงเรียนบริเวณใกล้เคียงก็ได้ขอความร่วมมือไว้ ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 88 สน.ไปประชุมทำความเข้าใจแล้ว ดังนั้นอยากจะขอประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชนที่ใช้รถใช้ถนน สามารถติดต่อหรือแจ้งเหตุได้ที่เฟสบุ๊กแฟนเพจ "ร่วมกับศานิตย์แก้วิกฤตจราจร" ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้สถิติการรับแจ้งเหตุลักทรัพย์ ทั้งการล้วงกระเป๋า พบว่าวันที่ 27 ต.ค. มีจำนวน 1 ครั้ง วันที่ 29 ต.ค. เกิดเหตุจำนวน 8 ครั้ง ส่วนการกรีดกระเป๋า ในวันที่ 27 ต.ค. ได้รับแจ้งจำนวน 1 ครั้ง วันที่ 28 ต.ค.59 จำนวน 1 ครั้ง นอกจากนี้ยังมีสถิติอื่นๆ ทั้งเหตุทรัพย์สินสูญหายรับแจ้งจำนวน 7 ครั้ง มีประชาชนเก็บส่งคืน จำนวน 6 ครั้ง มีเหตุคนหายและพลัดหลงรับแจ้งจำนวน 4 ครั้ง ซึ่งบุคคลที่พลัดหลงนั้นก็ได้พบกับครอบครัวเรียบร้อยแล้ว