ซึ่งตลอดคืนที่ผ่านมาได้มีสายฝนโปรยปรายลงมาตลอดทั้งคืน แต่ก็ยังมีประชาชนจำนวนมากยอมตากฝนเฝ้ารอเพื่อเข้าไปถวายความอาลัยต่อมาเวลาสำนักพระราชวังได้เปิดให้ประชาชนขึ้นสักการะพระบรมศพบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทชุดแรกเวลา 05.15 น.โดยบรรยากาศของการสักการะพระบรมศพเป็นไปด้วยความเศร้าโศก
นางนรินทร์ สัญจรโคกสูง อายุ 60 ปี ชาวจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า ตนเดินทางมาจากจังหวัดชัยภูมิ ตั้งใจจะมาถวายสักการะและเข้าเฝ้าถวายบังคมพระบรมศพตั้งแต่เมื่อวาน แต่เข้าไม่ได้เนื่องจากมีคนมาเป็นจำนวนมาก จึงอยู่รอเข้าคิวตั้งแต่เมื่อวานช่วงเย็น ไม่ยอมนอน ฝนตกเปียกไปหมด เพื่อที่วันนี้จะได้เข้าไปถวายสักการะพระบรมศพ กระทั่งช่วงเช้ามืดจึงได้เข้าไปโดยตนอยู่ชุดแรกๆที่ได้เข้าไปถวายสักการะพระบรมศพ ตอนที่เข้าไปถึงก็รู้สึกดีใจที่เราได้เข้ามาถวายสักการะพระบรมศพพระองค์ แต่อีกใจก็รู้สึกเสียใจ เนื้อตัวสั่น น้ำตาไหลออกมาเอง สงสารพระองค์ท่าน ท่านทรงงานเหนื่อย ขึ้นเขาลุยน้ำเพื่อดูแลทุกข์สุขของราษฎร ทำให้ประชาชนที่อยู่ห่างไกลมีกินมีใช้
ด้านนางบรรจบ ไชยชาติ อายุ 56 ปี อาชีพรับราชการครู เปิดเผยว่าเดินทางมาจากจังหวัดร้อยเอ็ดตั้งแต่เมื่อเย็นวันศุกร์ โดยมาพักที่บ้านเพื่อน ก่อนที่เมื่อวานช่วงเย็นจะเดินทางมาปักหลักนอนรอที่สนามหลวงเพื่อรอเข้าไปถวายสักการะและเข้าเฝ้าถวายบังคมพระบรมศพ จนกระทั่งช่วงประมาณ 06.00 น. จึงได้เข้าไป
"ฉันรู้สึกภูมิใจที่ได้เกิดมาในรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระองค์ทรงเป็นที่สุดเป็นศูนย์รวมทุกสิ่งทุกอย่างของปวงชนชาวไทย ตั้งใจว่าถ้าไม่ได้เข้าไปกราบพระองค์ท่านก็จะไม่กลับ ซึ่งก็อธิษฐานระหว่างที่มาว่าถ้ามีอุปสรรคก็ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดี ซึ่งทุกอย่างก็ราบรื่นผ่านไปได้ด้วยดี จากนี้จะนำแนวความคิดเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงไปสอนนักเรียนและก็ไปใช้ในชีวิตประจำวัน"นางบรรจบกล่าว