โดยก่อนเริ่มพิธี มีการบรรเลงบทเพลงพระราชนิพนธ์ ของวงดนตรี ที่เป็นการรวมนักดนตรีของวงดนตรีจาก มทบ.24 ,ตชด.24 ,มรภ.อุดรธานี,สถาบันคีตชาติ และวงออเคสตร้าจีนศาลเจ้าปู่-ย่า ขณะที่ทางมูลนิธิกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ได้นำ น้องไอซ์ หรือ ด.ช.นัทธกรณ์ ศรีพะลาน เป็นจิตกรน้อย อายุ 6 ขวบ นักเรียนชั้น ป.1 โรงเรียนบ้านโนนเดื่อ มาวาดภาพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ให้ผู้ที่มาร่วมงานได้ชม ซึ่งทาง จ.อุดรธานี ได้นำภาพวาดของน้องไอซ์ที่วาดถวายอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาใส่กรอบติดไว้ โดยมีผู้สนใจมาดูการวาดภาพของน้องไอซ์จำนวนมาก
ต่อมาทาง เทศบาลนครอุดรธานี เริ่มจัดแปรอักษรมนุษย์ โดยให้นักเรียน-นักศึกษาจาก มรภ.อุดรธานี,วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี,วิทยาลัยเทคนิคอุดรธานี และ รร.อุดรพิทยานุกูล รวม5,500คน ในเครื่องแบบเสื้อสีขาว ทำการแปรอักษรเป็นหมายเลข ๙ ไทย หนา8ม. กว้าง40ม และ ยาว48ม. มีรูปหัวใจ2ดวง,อักษรคำว่าอุดรธานี และกรอบภาพ โดยหัวใจดวงที่3เป็น จนท.ในเครื่องแบบ หลังบันทึกภาพให้ประชาชนแต่งชุดดำ เข้าไปอยู่ภายในกรอบ
จนกระทั่งเวลา17.30น. นายชยาวุธ จันทร ผวจ.อุดรธานี เป็นประธานประกอบพิธีสงฆ์ นำคณะผู้พิพากษา,อัยการ,ทหาร,ตำรวจ,รองผู้ว่าฯ,นายก อบจ.,นายก ทน.อุดรฯ และประชาชนที่ทยอยมาร่วมพิธีตลอดเวลา จนล้อมลานแปรอักษร และยาวไปจนถึงลานจอดรถด้านตะวันตก จากนั้นประกอบพิธีกราบถวายสักการะ ต่อพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นำจุดเทียนถวายอาลัย จุดเทียนมงคลต่อให้ประชาชน และร่วมขับร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี3รอบ เมื่อเพลงจบแต่ละรอบจะชูเทียนขึ้นเหนือศีรษะ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า"สนามทุ่งศรีเมืองอุดรธานี"ตั้งอยู่หน้าศาลากลาง จ.อุดรธานี เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เคยใช้เป็นสถานที่รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช2ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่8พฤศจิกายน2498ในช่วงการเสด็จภาคอีสานครั้งแรก และวันที่11มีนาคม2514เสด็จเปิดอนุสาวรีย์พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม พระเจ้าน้องยาเธอในรัชกาลที่5ผู้ก่อตั้งเมืองอุดรธานี