สถานีโทรทัศน์ CBS รายงานว่า แต่ละวันมีผู้อพยพหลายร้อยคนทะลักเข้าไปตามถนนหลายสายในเมืองแม็คอัลเลน รัฐเท็กซัส และถูกนำตัวไปยังศูนย์รับผู้อพยพของโบสถ์คาทอลิค ซึ่งพวกเขาจะไม่ต้องถูกควบคุมตัวโดยหน่วยลาดตระเวณชายแดน แต่จะต้องสวมกำไลข้อเท้าอิเล็คทรอนิคส์ ในระหว่างที่ทำเรื่องขอลี้ภัย
เจ้าหน้าที่ระบุว่า จำนวนผู้อพยพข้ามแดนโดยผิดกฎหมายกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยหลายคน บอกว่า ถ้านางฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนจากพรรคเดโมแครตได้รับเลือกตั้ง พวกเขาก็จะมีโอกาสได้อยู่ในสหรัฐฯ แต่ถ้านายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับชัยชนะ ก็จะมีการสร้างกำแพงกั้น และจะไม่มีใครสามารถข้ามพรมแดนเข้ามายังสหรัฐฯได้อีกเลย ทำให้บางวันมีผู้อพยพเดินเลียบพรมแดนเมืองแม็คอัลเลนมากถึง 1,000 คน
นายทรัมป์ ประกาศไว้ว่า ถ้าได้เป็นประธานาธิบดี จะสร้างกำแพงตลอดแนวพรมแดนด้านที่ติดกับเม็กซิโก เพื่อป้องกันไม่ให้ชาวเม็กซิกันเข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย และยังบอกด้วยว่า รัฐบาลเร่งกระบวนการให้สัญชาติผู้อพยพให้เร็วขึ้น เพื่อให้พวกเขาสามารถใช้สิทธิ์เลือกตั้่งได้
นางฮิลลารีได้ให้สัญญาว่า จะเสนอร่างกฎหมายเข้าเมืองในช่วง 100 วันแรก นับตั้งแต่ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี ที่รวมถึงขั้นตอนการให้สัญชาติ ซึ่งข้อเสนอนี้เคยได้รับความเห็นชอบจากทั้งเดโมแครตและรีพับลีกันในวุฒิสภา เมื่อปี 2556 แต่ถูกคว่ำโดยสภาผู้แทนราษฎร
ขณะที่นายทรัมป์บอกว่า เขาต่อต้านการให้สัญชาติผู้อพยพที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พวกเขาต้องเดินทางกลับประเทศไปก่อน แล้วจึงขออนุญาตเข้าเมืองโดยถูกกฎหมาย และยังเรียกร้องให้ยกเลิกการให้สัมชาติแก่คนต่างชาติที่เกิดบนแผ่นดินสหรัฐฯด้วย