(17 ต.ค.59) นายตี นะเรศรัมย์ อายุ 67 ปี ชาวบ้านบ้านโคกขมิ้น ม.4 ต.หนองเต็ง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นบุคคลในภาพที่เคยเฝ้ารับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทรสยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งที่ทั้งสองพระองค์ทรงเสด็จพระราชกรณียกิจเยี่ยมทุกข์สุขราษฎรในพื้นที่ อ.กระสัง เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2522 หรือเมื่อ 37 ปีที่ผ่านมา ทั้งที่ขณะนั้นตนเองนุ่งผ้าขาวม้าเพียงผืนเดียวเพราะกำลังหว่านแหหาปลาอยู่ในอ่างเก็บน้ำหนองกุดใหญ่ ซึ่งเหตุการณ์ในวันนั้นก็สร้างความปลื้มปิติเป็นอย่างมาก เพราะไม่คิดไม่ฝันว่าครั้งหนึ่งในชีวิตสามัญชนคนธรรมดา จะมีโอกาสได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช แบบใกล้ชิดขนาดนี้ ทั้งนี้พระองค์ยังได้ตรัสถามทุกข์สุขและเรื่องอ่างเก็บน้ำหนองกุดใหญ่ด้วยความสนพระทัย ซึ่งตนก็ได้เล่าถึงปัญหาของสภาพแหล่งน้ำดังกล่าวให้พระองค์ฟัง หลังจากพระองค์ทรงเสด็จกลับ ไม่กี่ปีต่อมาก็ได้มีทางหน่วยงานภาครัฐเข้ามาดำเนินการพัฒนาอ่างเก็บน้ำหนองกุดใหญ่ดังกล่าว สามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้งและระบายน้ำป้องกันปัญหาน้ำท่วมในช่วงน้ำหลาก ทำให้ปัจจุบันชาวบ้านเกษตรกรในพื้นที่ก็มีน้ำกินน้ำใช้และทำการเกษตรได้ โดยไม่ประสบปัญหาฝนแล้งหรือน้ำท่วม ชาวบ้านมีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณของราษฎร อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เป็นล้นพ้น
ปัจจุบันบริเวณที่นายตี นะเรศรัมย์ เคยเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ก็ได้มีการขึ้นป้ายขนาดใหญ่พร้อมทำสัญญาลักษณ์ไว้ เพื่อเป็นอนุสรณ์และที่ระลึกว่าครั้งหนึ่งพระองค์เคยเสด็จมาเยี่ยมทุกข์สุขและพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราษฎร
นายตี นะเรศรัมย์ กล่าวว่า รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์อย่างหาที่สุดมิได้ ถือเป็นบุญของชีวิตเหมือนสวรรค์มาโปรดที่ได้เข้าเฝ้าพระองค์แบบใกล้ชิดขนาดนี้ และดีใจที่ได้เกิดเป็นคนไทยอยู่ใต้ร่มพระบารมีของพระองค์ หลังจากทราบข่าวการสวรรคตก็เสียใจเป็นอย่างมากจนพูดอะไรไม่ออก ในฐานะพสกนิกรใต้ร่มพระโพธิสมภารก็จะขอทำความดี และอยู่แบบพอเพียงตามคำสอนของพระองค์ และตอบแทนคุณแผ่นดินจนกว่าชีวิตจะหาไม่