นายกฯ สั่ง เพิ่มรถสาธารณะ อำนวยความสะดวก ปชช.เดินทางไปสนามหลวง

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการสถานการณ์ จะเปิดโอกาสให้ประชาชนได้โทรศัพท์เข้ามาสอบถามเพื่อความชัดเจนและถูกต้องในข้อมูลและสถานการณ์ปัจจุบัน ดังนั้นจะมีการสรุปเพื่อชี้แจงความคืบหน้าให้เจ้าหน้าที่และหน่วยงานต่างๆ รับทราบเพื่อจะได้ทำความเข้าใจและชี้แจงต่อประชาชนเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง รวมทั้งแนวปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในระดับและส่วนต่างๆ เช่น กำหนดพระราชพิธี การถวายความอาลัยแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ การประดับพระบรมฉายาลักษณ์การถวายความอาลัยและการไว้ทุกข์ต่างๆ ทั้งนี้ ประชาชนสามารถถวายความจงรักภักดีและถวายความอาลัยได้ตามจุดต่างๆ ทั่วทั้งประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ในส่วนของประชาชนและภาคเอกชนเองยังสามารถที่จะประดับพระบรมฉายาลักษณ์ ริ้วธงดำขาว ในสถานที่ที่เหมาะสมได้
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า ในส่วนของการอำนวยความสะดวก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เห็นเป็นเรื่องสำคัญ โดยสั่งการให้อำนวยความสะดวก การบริการรถสาธารณะฟรีที่จะผ่านสนามหลวง โดยเบื้องต้นระหว่างวันที่ 13-14 ต.ค.จะมีการเพิ่มรถเมล์ฟรี ประมาณ 30 สาย เพื่อประชาชนจะได้เดินทางมายังสนามหลวงได้สะดวกมากขึ้น รวมทั้งจุดเชื่อมต่อสำคัญ เช่น หัวลำโพง หรือสถานีรถไฟฟ้า อนุสาวรีย์ชัยฯ จะมีการจัดรถสาธารณะมากขึ้น เรือในคลองผดุงกรุงเกษม จากหัวลำโพงมายังเทเวศร์ก็จะมีการเพิ่มเที่ยวการบริการมากขึ้น รวมทั้งได้ประสานกับกทม.ให้นำรถรางมาให้บริการโดยเพิ่มรอบให้เร็วขึ้นเพื่อที่ประชาชนจะได้สามารถเดินทางได้อย่างสะดวก รวดเร็ว อย่างเมื่อคืนวันที่ 14 ต.ค. มีการแจ้งเข้ามาหลายจุดว่ามีมอเตอร์ไซด์รับจ้างเพิ่มราคาค่าโดยสาร ซึ่งทางตำรวจได้รับไปดำเนินการกวดขันจับกุม จึงขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายไม่อยากให้มีการทำอะไรที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อนและลำบาก ในส่วนของราคาสินค้าโดยเฉพาะเสื้อสีดำที่มีการเพิ่มราคาสูงขึ้นนั้น เช้าวันเดียวกันนี้ทางเลขาสภาพัฒน์ชี้แจงว่ากระทรวงพาณิชย์ได้มีการตรวจสอบราคาเสื้อผ้าชุดสีดำและขาว ซึ่งมีการขายดีมาก กระทรวงพาณิชย์ได้มีการตรวจสอบไม่ให้มีการขายสินค้าเกินราคาหรือสูงเกินที่ควรจะเป็น
ผู้สื่อข่าวถามว่าในส่วนการเดินหน้าของรัฐบาลจากนี้ไปจะยังคงเป็นไปตามปกติ ควบคู่กับการถวายความอาลัยอย่างไร พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า ทุกอย่างยังคงดำเนินการตามปกติ เรื่องดังกล่าวพล.อ.ประยุทธ์ได้สั่งการเช้าวันเดียวกันนี้ว่า นอกเหนือจากการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐบาลในการเดินหน้าประเทศควบคู่ไปกับงานพระราชพิธีที่จะต้องจัดเกี่ยวกับพระบรมศพ และจะต้องเร่งทำความเข้าใจกับประชาชนตลอดเวลา ซึ่งวันเดียวกันนี้เวลา 11.00 น. ตนได้เชิญสถานีโทรทัศน์ช่องหลักประชุม เพื่อขอความร่วมมือในการปรับผังรายการอีกรอบ ซึ่งไม่ใช่การบังคับแต่เป็นการขอความร่วมมือ เพื่อให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน
"นายกฯปรารภว่าไม่อยากให้ประชาชนขาดตกบกพร่องในเรื่องของข่าวสาร ดังนั้นรายการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเหตุบ้านการเมือง ข่าวสารที่เกี่ยวกับต่างประเทศ รายการที่เกี่ยวกับการส่งเสริม การพัฒนาประเทศ รายการที่เป็นสารคดีที่น่าสนใจก็อยากให้แต่ละช่องนำเสนอข่าวสารให้ครบถ้วน ช่วงแรกอาจมีรายการเกี่ยวกับสารคดีเฉลิมพระเกียรติ รายการที่เกี่ยวกับพระราชพิธี จากนี้ต่อไปจะมีสาระสำคัญหลากหลายเพิ่มมากขึ้น แต่ก็ยังต้องอยู่ในกรอบขอความเหมาะสม" พล.ท.สรรเสริญ กล่าวส่วนการถวายความอาลัยของประชาชนนั้นแต่ละจังหวัดจะมีจุดที่เรียกว่าบรมราชานุสรณ์ เพื่อให้ประชาชนมาถวายความอาลัยในทุกๆพื้นที่ทุกจังหวัด ในส่วนของกทม.จะมีที่ศาลาว่าการและทุกสำนักงานเขต
ผู้สื่อข่าวถามว่าในส่วนของสถานประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการบันเทิงจะต้องดำเนินการอย่างไร เพื่อไม่ให้ขัดกับการถวายความอาลัย พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมสถานบันเทิง สามารถเปิดประกอบกิจการได้ ไม่มีการห้าม แต่ขอให้เป็นสถานที่ปิดอยู่ในอาคาร ในสถานที่ของกิจการนั้นๆ ขอความกรุณาเพียงว่าอย่าออกมานอกสถานที่ นายกฯมีบัญชาแล้วว่าเมื่อเป็นธุรกิจก็ขอให้ดำเนินการต่อไป เพียงแต่อย่าออกมาในพื้นที่สาธารณะ อย่าออกมาจัดกิจกรรมนอกร้าน เช่น โรงภาพยนต์ ร้านอาหารยังสามารถดำเนินกิจการได้ตามปกติ เพราะถือเป็นธุรกิจชีวิตต้องดำเนินต่อไป ขอเพียงอย่าจัดกิจกรรมเอิกเกริกนอกร้าน ส่วนการจัดคอนเสิร์ตต่างๆนั้นได้ข้อสรุปว่าในช่วงเวลานี้ต้องขออนุญาตก่อนเบื้องต้นในช่วงเวลา 30 วัน หลังจากนี้ค่อยว่ากันใหม่ ซึ่งเท่าที่พูดคุยกับผู้จัดคอนเสิร์ตต่างก็เห็นด้วย งานแต่ง งานบวชยังสามารถดำเนินการได้ในรูปแบบที่เหมาะสม กาลโอกาส ยกตัวอย่างวันสถาปนาของหน่วยงานต่างๆก็เปลี่ยนเป็นการทำบุญ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองงานสถาปนาแทนกิจกรรมเอิกเกริก นอกจากนี้ในส่วนของการแข่งขันฟุตบอลไทยในโปรแกรมต่างๆที่มีวงรอบอยู่แล้วนั้น สามารถดำเนินการได้