"ดูเตร์เต" ทำงานครบ 100 วัน คะแนนนิยมพุ่ง

ประธานาธิบดีดูเตร์เตชนะเลือกตั้งในเดือน พ.ค.และเข้ารับตำแหน่งเมื่อ 30 มิ.ย.ด้วยนโยบายเด็ดขาดที่จะปราบปรามยาเสพติดให้ได้ภายใน 3-6 เดือน แต่เขายอมรับว่าด้วยปัญหาที่แพร่ระบาดกว้างขวางมาก จึงขอเวลาอีก 6 เดือน และจนถึงขณะนี้มีผู้ต้องสงสัยค้ายาเสพติดและใช้ยาเสพติดเสียชีวิตมากกว่า 3,000 คนแล้ว และอีกเกือบ 7 แสนคน ยอมมอบตัวต่อตำรวจ

การปราบปรามอย่างจริงจังของเขาได้รับความพึงพอใจจากชาวฟิลิปปินส์ และผลสำรวจความคิดเห็นของ Social Weather Stations ที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี พบว่า ผู้ตอบคำถาม 76% พอใจผลการทำงานของดูเตร์เต แต่อีก 11% ไม่พอใจ คะแนนนิยมเพิ่มขึ้นสูงมากจากคะแนนเสียงเลือกตั้งที่ได้รับ 37.6% แต่การสอบถามมองเรื่องการทำงานโดยรวม ไม่ได้ระบุเฉพาะเรื่องสงครามยาเสพติด

แต่ผู้นำต่างชาติ องค์กรระหว่างประเทศและองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนต่างวิจารณ์ปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติดของเขา เนื่องจากวิตกว่าเป็นการสังหารนอกกระบวนการยุติธรรม และเป็นการละเมิดสิทธมนุษยชน

ขณะที่ดูเตร์เตไม่สนใจเสียงวิจารณ์ และยังตอบโต้ด้วยถ้อยคำรุนแรงรวมถึงใช้คำหยาบด้วย โดยเฉพาะประธานาธิบดีบารัก โอบามาของสหรัฐถูกเรียกว่าลูกของโสเภณี และยังไล่ให้ไปลงนรกด้วย

ล่าสุดดูเตร์เต กล่าวอีกครั้งเมื่อวันพฤหัสบดี แนะให้นักสิทธิมนุษยชนทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นในประเทศหรือต่างประเทศ ไปลงนรกซะ เพราะมันไม่ใช่เรื่องผิดที่ประธานาธิบดี ตำรวจและทหารจะปกป้องพลเมืองในประเทศ ถ้อยแถลงนี้มีขึ้นในพิธีมอบเงินรางวัลแก่ตำรวจรายละ 5,100 ดอลลาร์ สำหรับผลงานดีเด่นในการปราบปรามอาชญากรรม

นอกจากนี้เขายืนยันด้วยว่า คำพูดของเขาที่ขู่จะฆ่าพวกค้ายาเสพติด ไม่ใช่อาชญากรรม และย้ำว่าตำรวจสังหารผู้ต้องสงสัยเพียงเพื่อป้องกันตัว ส่วนการตายที่อธิบายไม่ได้เป็นฝีมือของแก๊งอาชญากร ไม่ใช่หน่วยสังหารที่มีรัฐหนุนหลัง อย่างที่นักสิทธิมนุษยชนกล่าวหา