svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ป.ป.ช.ชี้ 3 อดีตส.ส.พท.ผิด!! ส่งอัยการฟ้องศาล

08 กันยายน 2559
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ป.ป.ช." ชี้มูลความผิด "นริศร" เสียบบัตรแทนกัน พร้อม ฟัน "อุดมเดช" ปม สลับร่างรธน. ที่มาส.ว. ชง "สนช.-อสส." ฟัน "ถอดถอน-อาญา" ด้าน "ขุนค้อน" โดนฟัน อาญา ด้วย เหตุ ไม่ดูความถูกต้อง ยกประโยชน์ "คมเดช-ยุทธพงศ์" หลักฐานไม่ถึง ให้ตีตกข้อกล่าวหา

เมื่อวันที่ 8 ก.ย.59 เวลา 15.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการป.ป.ช.แถลงผลการประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.กรณีกล่าวหาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และร้องขอให้ถอดถอนออกจากตำแหน่ง กรณีเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมที่มาส.ว.ประเด็นเกี่ยวกับการใช้บัตรลงคะแนนแทนกัน การนับเวลาแปรญัตติโดยมิชอบ และการสับเปลี่ยนร่างรัฐธรรมนูญว่า 
"ที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.มีมติเป็นเอกฉันท์ชี้มูลความผิดนายนริศร ทองธิราช อดีตส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย กรณีใช้บัตรลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ลงคะแนนแทนบุคคลอื่น ลงคะแนนในการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 9 และ 10 ซึ่งทำให้ผลการลงมติบิดเบือนไปจากความเป็นจริง จึงมีมูลความผิดทางอาญา ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามมาตรา 123 และมาตรา 123/1 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542(พ.ร.บ.ป.ป.ช.) และมีมูลส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550มาตรา 68 วรรคหนึ่ง มาตรา 122 มาตรา123 และมาตรา 126 วรรคสาม เห็นควรส่งรายงานและเอกสารที่มีอยู่พร้อมทั้งความเห็นไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินการฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป และส่งรายงานให้ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติถอดถอน ออกจากตำแหน่ง ตามพ.ร.บ.ป.ป.ช." น.ส.สุภา กล่าว  
น.ส.สุภา กล่าวว่า ส่วนนายอุดมเดช รัตนเสถียร อดีตส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย มีความผิดทางอาญาตามมาตรา 123/1 พ.ร.บ.ป.ป.ช. กรณีสลับร่างรัฐธรรมนูญโดยไม่มีสมาชิกรัฐสภาลงรายมือชื่อรับรอง เห็นควรส่งรายงานและเอกสาร พร้อมความเห็นไปยังอสส. เพื่อฟ้องคดีต่อศาลฎีกาฯ ต่อไป และส่งรายงานพร้อมความเห็นไปยังประธานสนช.เพื่อมีมติถอดถอนออกจากตำแหน่ง 

ป.ป.ช.ชี้ 3 อดีตส.ส.พท.ผิด!! ส่งอัยการฟ้องศาล


ขณะที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร มีความผิดทางอาญา ตามมาตรา 123/1 พ.ร.บ.ป.ป.ช. กรณีรู้เห็นให้มีการสลับสับเปลี่ยนร่างรัฐธรรมนูญ โดยไม่มีการตรวจสอบให้ถูกต้องตามหน้าที่ของประธานรัฐสภา ตามข้อ 90 ของข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ.2553 และไม่สั่งให้มีการนำไปเสนอให้สมาชิกรัฐสภาร่วมลงชื่อรับรองญัตติตามมาตรา 291 ของรัฐธรรมนูญ และกรณีจงใจนับระยะเวลาแปรญัตติย้อนหลังทำให้เหลือระยะเวลาให้สมาชิกรัฐสภาเสนอคำแปรญัตติเพียง 1 วัน 

ซึ่งกรณีดังกล่าวศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยแล้วว่าเป็นการกำหนดระยะเวลาที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากไม่ให้โอกาสสมาชิกรัฐสภามีเวลาในการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ป.ป.ช.จึงเห็นควรส่งรายงานและเอกสารที่มีอยู่ พร้อมทั้งความเห็นไปยังอสส.เพื่อฟ้องคดีต่อศาลฎีกาฯ ต่อไป ทั้งนี้ กรณีนายสมศักดิ์ ป.ป.ช.เคยมีมติชี้มูลความผิดฐานส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และได้ส่งรายงานไปยังประธานสนช.แล้ว โดยสนช.ได้พิจารณาและมีมติไม่ถอดถอน จึงเห็นควรไม่ส่งรายงานในความผิดถอดถอนไปยังประธานสนช.อีก  
น.ส.สุภา กล่าวอีกว่า ส่วนนายคมเดช ไชยศิวามงคล อดีตส.ส.กาฬสินธุ์ และนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร อดีตส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย คณะกรรมการป.ป.ช.ได้พิจารณาอย่างละเอียดแล้ว พบว่าพยานหลักฐานไม่เพียงพอเหมือนกรณีนายนริศร แม้ป.ป.ช.จะติดใจ แต่เมื่อพยานไม่เพียงพอ และทั้งสองคนได้ชี้แจงเหตุผลในการฝากบัตรไว้กับนายนริศร จึงยกประโยชน์ให้ โดยมีมติบุคคลทั้งสองไม่มีความผิด และเห็นควรให้ข้อกล่าวหาตกไป

logoline