นายกฯ ร่วมประชุมผู้นำ G20

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. และนางนราพร จันทร์โอชา ภริยานายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายดอน ปรมัตวินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เดินทางออกจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 เพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำ G20 ณ นครหางโจว มณฑลเจ้อเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 4-5 กันยายน 2559 ซึ่งนายกฯมีสีหน้าที่ยิ้มแย้ม และไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ตามกำหนดการนายกฯจะกล่าวแสดงวิสัยทัศน์ของไทยร่วมกับผู้นำ G20 ภายใต้หัวข้อหลักว่า การมุ่งสู่เศรษฐกิจโลกที่สร้างสรรค์ มีพลังเชื่อมโยง และเปิดให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม พร้อมทั้งมีกำหนดพบหารือทวิภาคีกับผู้นำประเทศอื่นๆ โดยนายกฯจะเน้นย้ำในที่ประชุมดังกล่าว ถึงสถานะประธาน G77 ของไทย และฐานะประเทศที่มีบทบาทสร้างสรรค์ที่ได้รับการยอมรับในเวทีโลก เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความสนใจและความเชื่อมั่นของประชาคมระหว่างประเทศที่มีต่อการเมืองเศรษฐกิจและวิสัยทัศน์ของไทย ตามหลักการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
สำหรับวาระสำคัญของการประชุม ประกอบด้วย 4 เรื่อง ได้แก่ 1.การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจแนวทางใหม่ 2.การมีระบอบเศรษฐกิจและการเงินโลกที่มีประสิทธิผลและประสิทธิภาพมากขึ้น 3.การค้าและการลงทุนระหว่างประเทศที่แข็งแกร่งและ4.การพัฒนาที่ครอบคลุมและเชื่อมโยง
นอกจากนี้ ภายหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจการประชุมผู้นำ G20 นายกฯและภริยา พร้อมด้วยคณะ เดินทางออกจากท่าอากาศยานนานาชาติ เซียวซาน นครหางโจว โดยเครื่องบินของกองทัพอากาศ แบบ ไปยังเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 28-29 ต่อไป
ด้าน พล.อ.วิลาส อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกรณีที่นายกรัฐมนตรีสั่งการห้ามนำผู้ต้องหาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า นายกรัฐมนตรีสั่งการว่า บางอย่างยังไม่ชัดเจนเราต้องดูความเหมาะสม ซึ่งต้องทำให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยพิจารณาจากคดีที่มีความชัดเจนแล้วหรือคดีที่ร้ายแรงซึ่งต้องมีแถลงข่าว แต่จะต้องพิจารณาว่าจะนำตัวผู้ต้องหามาร่วมแถลงข่าวด้วยหรือไม่ โดยนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นผู้พิจารณาความเหมาะสม โดยคำนึงถึงมาตรฐาน ความเป็นธรรม ไม่ใช่คดีไฮโซแล้วมาปิดหน้าปิดตา แต่คดีประชาชนธรรมดา กลับเปิดเผยหน้า

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีไม่ได้สั่งห้ามหรือตัดสินใจว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร แต่ให้ไปพิจารณาเท่านั้น และสิ่งสำคัญต้องคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน ยืนยันว่าจะต้องมีมาตรฐานเดียวกันทุกคดี แต่ในส่วนคดีก็ต้องมีการชี้แจงให้ประชาชนรับทราบอย่างชัดเจน

ขณะที่เหตุการณ์ระเบิดรถไฟสายสุไหงโก-ลก-หาดใหญ่ เมื่อวานนี้ ไม่ได้มีการสั่งการอะไรเป็นพิเศษเพราะเจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างเต็มที่อยู่แล้ว