svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

จับแก็งหลอกเงินหญิงไทย

29 กรกฎาคม 2559
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

อุดรธานี - เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 29 กรกฎาคม ที่ สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.อ.ชวิศ ศรีจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี , พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชากามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี , พ.ต.ท.สิทธิพร ธารากุลทิพย์ รอง ผกก.สส. , พ.ต.ท.เอกลักษณ์ บุญแสงเจริญ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองอุดรธานี , พ.ต.ท.พุทธพงศ์ เมฆเอี่ยมนภา รอง ผกก.2 บก.ทท. , พ.ต.ท.อัมรินทร์ อยู่เย็น สว.ส.ทท.5 กก.3 บก.ทท. พร้อมตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ตำรวจ ส.ทท.5 กก.3 บก.ทท.ร่วมแถลงข่าวจับกุม นางสร้อยทิพย์วรรณ หรือ กิ๊ก โอริโมบิ อายุ 36 ปี อยู่ที่ 21/6 ม.7 ต.ปากน้ำ อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย

ตามหมายจับของศาล จ.อุดรธานี ที่ จ.278/2559 ในข้อกล่าวหา "ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์โดยแสดงตนเป็นคนอื่น และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน" พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง , เอกสารการโอนเงิน 1 ชุด และ หนังสือเดินทาง หรือ พาสปอร์ต ของนางสร้อยทิพย์วรรณ 1 เล่ม
พ.ต.อ.ชวิศ ศรีจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า การจับตัวผู้ต้องหาแก็ง Romance Scam ครั้งนี้ เป็นความร่วมมือระหว่างตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี และตำรวจท่องเที่ยว ที่ทำการสืบสวนสอบสวนคดีการหลอกลวงให้ผู้หญิงไทยในพื้นที่ จ.อุดรธานีหลายราย ถูกแก๊งชาวต่างชาติร่วมกับคนไทย หลอกลวงว่าจะมาแต่งงานอยู่กินเป็นครอบครัว โดยใช้เรื่องของความรักมาบังหน้าเรียกว่า Romance Scam ใช้อุบายหลอกให้ผู้หญิงไทย ส่งเงินไปช่วยเหลือด้วยเหตุผลต่าง ๆโดยใช้ความรักเข้ามาเป็นข้ออ้าง ซึ่งจะโอนเงินผ่านบัญชีเงินฝากของผู้ที่รับจ้างเปิดบัญชีที่อยู่ในประเทศไทย ที่มาร่วมขบวนการนี้ และมีผู้เสียหายที่เป็นชาว จ.อุดรธานี ด้วย
พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี อธิบายพฤติการณ์การหลอกลวงผู้เสียหายว่า เมื่อช่วงเดือนตุลาคม ปี 58 มีผู้เสียหายเป็นหญิงไทย ชาว จ.อุดรธานี ได้ถูกกลุ่มบุคคลที่รู้จักกันผ่านเฟซบุ๊ค ที่อ้างตัวเป็นชายต่างชาติ โดยมีการนำภาพถ่ายของชาวต่างชาติ จากเว็บไซด์หาคู่มา ใช้ชื่อว่า MR.Frank Nicholas ระบุเป็นนักธุรกิจที่ร่ำรวย จนมีผู้เสียหายที่หลงเชื่อเข้ามาสนทนาทางเฟซบุ๊คปลอมกับผู้ต้องหา ที่จะใช้โปรแกรมแปลภาษามาใช้พิมพ์ภาษาไทยออกมาเป็นภาษาอังกฤษ คุยกันจนเกิดความรักและมีการบอกว่าจะแต่งงานด้วย ทางผู้เสียหายก็เชื่อใจทั้งที่ไม่เคยได้พบเห็นหน้ากัน ได้แต่คุยกันทางตัวหนังสือ และเมื่อเกิดความไว้ใจแล้ว ทางกลุ่มผู้ต้องหาจึงวางแผน บอกว่าจะต้องไปทำธุรกิจที่ประเทศมาเลเซีย แต่ว่ากำลังประสบปัญหาเรื่องการเงิน
ทางผู้เสียหายที่เชื่อใจผู้ต้องหาที่ใช้เฟซบุ๊คปลอม จึงยอมโอนเงินให้ยืมครั้งแรกจำนวน 80,000 บาท ต่อมาทางกลุ่มผู้ต้องหาได้ออกอุบายยืมเงินผู้เสียหายอีกถึง 8 ครั้ง รวมเป็นเงินสูงถึง 980,000 บาท โดยการยืมเงินทุกครั้งจะอ้างคำพูดที่บอกว่า รักและจะมาแต่งงานด้วย และจะรีบนำเงินที่ยืมมาคืนทั้งหมด จนเวลาผ่านมาถึงเดือนเมษายน ปีนี้ ทางผู้เสียหายเอะใจ อีกทั้งมีข่าวแก๊ง Romance Scam ทำการหลอกเอาเงินหญิงไทยไปหลายราย อีกทั้งระยะหลังติดต่อทางเฟซบุ๊คไม่ได้ จึงเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี และทางตำรวจท่องเที่ยว เมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา
หลังจากนั้นทางตำรวจทั้ง 2 หน่วยงาน ได้ร่วมทำการสืบสวนกลุ่มแก็ง Romance Scam ที่ร่วมกันก่อเหตุ โดยสืบจากบัญชีที่โอนเงินเข้าไป จนสามารถจับตัวกุมผู้ต้องหาที่เป็นเจ้าของชื่อบัญชีให้รวม 8 คน ซึ่งผู้ที่มาเปิดบัญชีให้จะได้ค่าจ้างคนละ 3,000-10,000 บาท โดยจะให้สมุดบัญชีและบัตรเอทีเอ็มกับนางสร้อยทิพย์วรรณฯ ไป จากนั้นเงินที่โอนเข้ามาจะถูกกดออกจากบัญชีที่รับโอนในพื้นที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งกลุ่มของผู้ต้องหาทั้ง 8 คน ได้ซัดทอดบุคคลที่เกี่ยวข้อง คือ นางสร้อยทิพย์วรรณฯ และทางศาล จ.อุดรธานี จึงออกหมายจับนางสร้อยทิพย์วรรณฯ ที่มีสามีเป็นชาวไนจีเรีย ที่ใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศมาเลเซียประมาณ 3 ปี และจากตรวจสอบทราบว่า นางสร้อยทิพย์วรรณฯ ได้เดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านที่ อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย จึงเข้าทำการจับกุมตัว
โดยนางสร้อยทิพย์วรรณฯ ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ตนเป็นคนหาผู้เปิดบัญชีเพื่อใช้ในการโอนเงิน ซึ่งผู้ที่รับจ้างเปิดบัญชีให้มีความเดือดร้อนเรื่องเงิน และเฟซบุ๊กส์ที่ใช้หลอกลวงผู้เสียหาย และยังมีอีกหลายเฟซบุ๊คที่ตำรวจตรวจสอบได้ ตนเป็นผู้เปิดบัญชีเฟซบุ๊คเอง และยอมรับว่ารูปที่ตนแอบนำไปให้หลอกเหยื่อไปนำจากเวบไซด์หญิงไทยที่หาคู่ชาวต่างชาติ เพื่อให้เกิดความเชื่อถือ ส่วนข้อความต่าง ๆ ที่คุยเป็นภาษาอังกฤษ ก็ใช้โปรแกรมแปลภาษาที่จะพิมพ์เป็นภาษาไทย เมื่อแปลแล้วก็ยกข้อความไปใส่ในฟซบุ๊คส่งไปนางสร้อยทิพย์วรรณฯ รับอีกว่า ตนเดินทางเข้า-ออก ประเทศมาเลเซีย เป็นประจำ เพราะสามีที่เป็นชาวไนจีเรีย มีธุรกิจทำสปาอยู่ที่นั่น ส่วนตนมีอาชีพขายเสื้อผ้าเด็กอยู่ที่มาเลเซีย ซึ่งตนไม่ได้เป็นผู้บงการวางแผน แต่มีบุคคลที่เป็นผู้วางแผนอยู่ในประเทศมาเลเซีย
ด้าน พ.ต.ท.ยุทธพงษ์ เมฆเยมนภา รอง ผกก.2 บก.ทท. เปิดเผยว่า แก๊ง Romance Scam ที่หลอกลวงหญิงไทยมีอยู่หลายแก๊ง ที่มีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ส่วนมากจะเป็นชาวแอฟริกา ทั้งที่อยู่ในไทย และมีภรรยาเป็นคนไทย เช่น ผู้ต้องหารายนี้มีสามีเป็นชาวไนจีเรีย และที่ออกไปตั้งฐานการดำเนินการอยู่ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งจากการตรวจสอบการถอนเงินออกจากบัญชีจะเป็นการถอนเงินอยู่ที่ดังกล่าว ใช้เวลาเพียง 20 นาที หลังจากผู้เสียหายโอนเงินไป โดยความเสียหายจากการหลอกลวงด้วยวิธี Romance Scam มีความเสียหายหลายร้อยล้านบาท ซึ่งมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความว่าถูกหลอกเอาเงินไปถึง 23 ล้านบาท
"ผมขอฝากเตือนถึงประชาชนว่า หากว่าผู้มาจ้างให้เปิดบัญชีธนาคาร อย่าได้ไปดำเนินการให้ หรือหากรับจ้างไปแล้วขอให้รีบเปลี่ยนหมายเลขบัตรเอทีเอ็ม หรือปิดบัญชีทันที เพราะหากมีการเปิดบัญชีให้ผู้จ้างวาน เท่ากับตัวเองได้ทำผิดกฎหมายแล้ว ในฐานะของผู้ร่วมขบวนการ มีโทษทางกฎหมายหนักมาก ซึ่งหากว่าสามารถหยุดไม่มีการรับจ้างเปิดบัญชีได้ ก็สามารถที่จะตัดตอนการดำเนินการของแก๊งหลอกลวง Romance Scam ที่อ้างเป็นชาวต่างชาติได้ด้วย"

logoline