รายการ คม ชัด ลึก : "สมเด็จช่วง" ติดบ่วงรถหรู

หลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม กล่าวว่า ได้เข้าให้ดำเนินคดีต่อพระเมธีธรรมาจารย์ (ประสาร จนฺทสาโร) ในข้อหาอั้งยี่ หรือซ่องโจร และก่อความไม่สงบในราชอาณาจักร เนื่องจากพฤติกรรมเข้าข่ายตามกฎหมาย ที่มีการโพสต์ต่างๆ ลงในเฟซบุ๊ก ที่มีการเรียกร้อง 6 ข้อ ปลุกระดม และอื่นๆ ล้วนแล้วแต่เข้ากระบวนการที่ดำเนินคดีตามกฎหมายได้ เป็นการฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.

จริงๆ แล้วที่ไปพบเจ้าพนักงานนั้น ไม่ได้เป็นผู้เสียหาย เป็นเพียงไปร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อให้เจ้าพนักงานของรัฐทำการป้องปรามในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อความไม่สงบของบ้านเมือง ซึ่งมุ่งหวังว่าพระสงฆ์ไม่ตกเป็นเครื่องมือของบุคคลที่กระหายตำแหน่ง แสวงหาอำนาจ แล้วมาเป็นเครื่องมือเขาในการที่จะให้ใครคนใดคนหนึ่งที่กำลังต้องคดี แล้วไม่ยอมเข้ากระบวนของคดี ยังนิ่งเฉยไม่ยอมให้ความร่วมมือเจ้าพนักงานของรัฐ แล้วจะมาดันมาหนุนให้เป็นใหญ่เป็นโตปกครองศาสนจักร มองว่าเป็นการขัดขืนกฎหมาย และไม่ยอมกฎกติกาของสังคม อย่างนี้บ้านเมืองจะอยู่กันได้อย่างไร

การกระทำอย่างนั้นอาจจะทำให้พระสงฆ์ที่ดีที่ชอบอาจจะเข้าใจผิด ครั้งก่อนก็มีพระสงฆ์หลายรูปบอกว่าโดนหลอก เพราะแจ้งว่า ให้มาร่วมเจริญมนต์ แต่เมื่อมาแล้วกลับกลายเป็นการร่วมชุมนุม จะกลับก็ไม่ได้ เพราะเขาไม่ยอมให้รถออกจากสถานที่แห่งนั้น
ขณะนี้ทราบว่าส่วนใหญ่ไม่สนใจการชักชวนให้ออกมาในครั้งนี้ มีเพียงบางกลุ่มเท่านั้น ซึ่งล้วนแล้วแต่อยู่ในเครือข่ายของเขา

หากการป้องปรามไม่สำเร็จ แล้วเกิดการรวมตัวขึ้นมาจริงๆ เชื่อว่าจะมีผู้มาร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมาก และอาจจะมากกว่าเดิม ซึ่งไม่อยากเห็นภาพนี้ และเชื่อว่าจะมีการทุ่มเต็มที่มากกว่าเก่า ทั้งกำลังทรัพย์ กำลังคน กำลังพระ เพราะเป็นความอยู่รอดของเขา
การสวดมนต์ใหญ่ก็คือ พระสงฆ์มาร่วมกันเจริญพุทธมนต์ แล้วก็กลับ แต่ของเขาไม่ทราบว่าสวดมนต์กันแบบไหนถึงมีการเผาหุ่นผู้ที่มีเห็นต่างจากพวกเขา และยังมีการยื่นข้อเรียกร้องจากรัฐบาลอีก ดังนั้นจะเรียกว่าสวดมนต์ไม่ได้ ถือว่านำกิจกรรมของศาสนามาเป็นข้ออ้างในการชุมนุมต่างหาก ถือว่าเป็นการทำลายศาสนา

ที่บอกว่า ให้พระสงฆ์มารวมตัวกัน เนื่องจากศาสนากำลังมีภัยนั้น จริงๆ แล้วที่เดือดร้อนและมีภัยคืออลัชชีสงฆ์ ที่มีอยู่ไม่กี่คน ที่มีตำแหน่งระดับสูงในวงการศาสนา

หลวงปู่พุทธะอิสระกล่าวต่อว่า คดีรถหรูเจ้าหน้าที่ของรัฐมีการดำเนินการมาตลอด ตั้งแต่ปี 2556 ได้เข้าแจ้งให้ดำเนินคดีกับหลวงพี่น้ำฝน ส่วนคดีรถหรูของสมเด็จช่วงถือเป็นของแถมที่เพิ่งให้ข้อมูลไปเมื่อปี 2558 เนื่องจากเป็นคดีต่อเนื่องกับคดีของหลวงพี่น้ำฝน