ถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะสามารถเพิกถอนหมายจับ 2 ลูกจ้างสาวชาวลาว พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า การเพิกถอนหมายจับจะต้องมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง แต่เรื่องนี้เกิดตั้งแต่ปี 54 แต่ผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้อยู่ในประเทศทางเราเลยไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่มาภายหลังเราทราบพฤติกรรมของนางไก่ เราก็เลยประสานโดยตรงว่าจะให้ความเป็นธรรม เนื่องจากตัวผู้ถูกกล่าวหามีหมายจับ ถ้าปรากฎต่อหน้าก็ต้องจับ เมื่อจับแล้วก็ต้องควบคุมตัว เราพยายามจะให้เขาไม่ต้องถูกควบคุมโดยให้ประกันตัวเนื่องจากคดีนี้อัตราโทษเกิน 5 ปี ก็ต้องมีหลักประกัน ตนก็ประสานไปทางกองทุนยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม เพื่อช่วยเหลือซึ่งก็ให้ความร่วมมืออย่างดี จากนั้นเราก็มาช่วยในเรื่องของการแสวงหาข้อเท็จจริง ถ้าไม่ได้มีความผิดเราก็ต้องให้ความเป็นธรรม เมื่อส่งเรื่องไปแล้วพนักงานอัยการก็จะได้พิจารณา และตนก็ยังได้แนะนำไปว่าให้ร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด เพื่อให้อัยการสุงสุดสั่งพนักงานสอบสวนให้มาสอบเพิ่มเติม เพราะตอนนี้อำนาจการสอบสวนของตำรวจไม่มี เพื่อทำให้ทั้ง 2 คนได้รับความเป็นธรรมอย่างดี
ถามว่ากรณีนายตำรวจ 16 คน ที่มีความเกี่ยวข้องกับสำนวนการสอบสวน ขณะนี้ดำเนินการอย่างไรบ้าง พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่เห็นเนื้อสำนวน ซึ่งวันนี้ตนจะมาดูว่าคณะกรรมการได้สรุปความเห็นมาอย่างไร ตอนนี้มีตำรวจที่เกี่ยวข้องเพิ่มมาอีก 1-2 คน อยากให้พี่น้องประชาชนไม่ต้องกังวลว่าจะมีการช่วยเหลือปกปิด เรายึดหลักความถูกต้องเป็นหลัก ตำรวจที่ไม่ได้ทำผิดอย่างร้ายแรงก็ไม่ต้องกังวล เบื้องต้นทั้งหมดมีความผิด มีความผิดคือไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ตร.ที่ 419 และและคำสั่ง ตร. ที่ 960 ที่ไม่ปฏิบัติตามระเบียบ ในเมื่อคำสั่งระบุว่าให้ตรวจสำนวน ตรวจสอบเร่งรัดการดำเนินคดีอาญาของพนักงานสอบสวน ทั้งนี้หากมีข้อมูลว่ามีตำรวจท่านใด ไปรับใช้จนเกิดเหตุ มีความสนิทสนมจนก่อให้เกิดความไม่เป็นกลาง ก็ต้องรับผิด แต่หากไม่มีการทุจริตอะไร ก็เป็นเรื่องของความผิดวินัยไม่ร้ายแรง
ถามว่าหากผลการตรวจสอบออกมาแล้วจะมีการเรียก 16 ตำรวจมาพูดคุยหรือไม่ พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ได้เรียกมาคุย เพราะบางคนได้ย้ายออกจากนครบาลไปแล้ว โดยตามขั้นตอนหากผลสอบออกมาแล้ว ตนจะดำเนินการให้ พล.ต.ต.ธนพล สนเทศ รอง ผบช.น. รับผิดชอบงานจเรตำรวจ เป็นหัวหน้าคณะกรรมการสอบสวนท้อเท็จจริง ต่อไป