รายการ คม ชัด ลึก : เปิดใจ! วีเจสาว รับเงินจริงหรือไม่?

วีเจสาว กล่าวว่า ขอให้ใช้วิจารณญาณ ยังไม่เคยมีใครได้ฟังตนพูดเลย ฟังความกันอยู่ข้างเดียว ต่างก็วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก อย่างรุนแรงทางสื่อต่างๆ ดังนั้นจึงต้องออกมาชี้แจงความจริง

ยอมรับว่า คบกับระพีพัชรในฐานะแฟน โดยคบหาศึกษาดูใจกันมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2559 หลังจากเขาเข้ามาเป็นสมาชิกทางรายการที่จัดผ่านแอพพลิเคชั่นไอโชว์ ซึ่งเวลาจัดรายการก็จะแจกแฟนเพจทางเฟซบุ๊ก แล้วก็คุยกันจนกระทั่งพัฒนามาเป็นแฟนกัน
ในการจัดรายการก็คุยกับทุกคน ผู้ที่เข้ามาถึงแม้จะไม่ซื้อไอคอนของขวัญให้ก็พูดคุยด้วย ที่ผ่านคนที่ส่งให้มากกว่าระพีพัชรที่ส่งให้ก็เคยมี แต่ไม่ได้พัฒนาไปจนถึงศึกษาดูใจกัน
ครั้งแรกที่ระพีพัชรโอนเงินมาให้วันที่ 7 มีนาคม หลังจากนั้นบางครั้งก็โอนเงินมาเข้าบัญชีให้อยู่เรื่อยๆ โดยระพีพัชรบอกว่า ให้ด้วยความเต็มใจ ขอยืนยันว่า ไม่ได้หลอกเอาเงินเลย และไม่ได้หลอกเอาเงิน 1.2 ล้านบาท อย่างที่เป็นปรากฏในข่าว
เงินที่ระพีพัชรใช้ซื้อไอคอนและโอนมาในบัญชีของตนในแต่ละเดือนรวมแล้วทั้งหมด 381,990 บาท ซึ่งเป็นเงินที่ใช้สำหรับเติมเงินซื้อไอคอน 261,500 บาท ซึ่งบางเดือนก็โอนเงินที่เหลือคืนให้ เป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้หลอกเขา

ตอนที่ไปดาวน์รถยนต์บอกเขาว่าเงินไม่พอ เขาก็โอนเงินมาให้ 1 แสนบาท เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม ก่อนที่จะมีข่าวออกมาทางสื่อ ได้โอนเงิน 1 แสนคืนให้เขาไปแล้ว เพราะแม่เขาโทรมาบอกว่า เงินดังกล่าวเป็นของแม่ ไม่เงินของระพีพัชร แต่คุยกับเขาก็บอกว่าเป็นเงินของเขา
ตลอดเวลาที่รู้จักคบหากัน รู้ฐานะของเขา โดยเขาบอกว่า ที่บ้านเขาเปิดร้าน แม่ขายของชำ ตัวเขาตัดสติกเกอร์ โดยเขาบอกว่า เงินที่นำมาใช้นั้นเป็นเงินของเขาเอง เขาเป็นเสาหลักของบ้าน

ที่ผ่านมาไม่เคยเอะใจเลยว่าเขาเอาเงินมาจากไหน เพราะเขาโอนเงินจำนวนมากจนเป็นปกติ ขณะคบหากันก็เคยร้องขอให้ซื้อของให้บ้างในฐานะที่คบหาเป็นแฟนกัน แต่ไม่ได้เป็นสิ่งของราคาแพง
จากที่มีข่าวว่าพาเขาไปปล่อยทิ้งที่ตลาดรังสิตนั้น เรื่องนี้ไม่จริง เพราะเขาต้องการลงที่ตลาดรังสิต เพื่อจะเดินทางกลับบ้านที่อยุธยา จึงไปส่ง ก่อนจากกันก็บอกเขาว่า ให้กลับไปคุยกับแม่ให้รู้เรื่องให้เข้าใจ
ด้านพี่สาววีเจสาวกล่าวว่า หลังจากตกเป็นข่าว ครั้งแรกก็คิดว่า นิ่งๆ ไว้ เดี๋ยวเรื่องก็คงจบ แต่กลับไม่จบ ยังมีข่าวออกมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งวันนี้ (20 ก.ค.) จึงตัดสินออกมาแถลงข่าวชี้แจงความจริง

พ่อดูรายการที่น้องสาวจัดรายการ เห็นการทำงานของน้อง และรายการที่จัดก็ไม่ใช่เป็นการเต้นเปลือยโชว์ หรือจัดการรายการที่ไม่เหมาะสม

ด้าน ระพีพัชร กล่าวว่า สภาพจิตใจของแม่ไม่ค่อยดีนัก ยังบ่นกันตามประสาแม่ลูก ส่วนคุณแม่จะไปแจ้งความเอาผิดกับวีเจในฐานะรับของโจรหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับคุณแม่เอง
สำหรับตนไม่ต้องการเอาเงินคืน เป็นคนให้เอง ผิดเอง เงินที่่กดมาแล้วโอนให้วีเจนั้น ไม่ได้กดเงินมาทีเดียว 1.2 ล้านบาท แต่กดมาทีละ 2 หมื่น ทยอยโอนให้ แล้วก็ไม่ได้ให้วีเจคนเดียว โอนให้วีเจคนอื่นด้วย ส่วนหนึ่งนำมาใช้ส่วนตัว

เรื่องเงินดาวน์รถ พอวีเจบอกว่าเงินไม่พอก็เสนอตัวแล้วก็โอนเงินให้ พอเกิดเรื่องเขาก็โอนเงินคืนมาให้แล้ว หลังจากนี้จะบวชให้แม่