svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

"วีเจสาว" แถลงชี้แจงข้อเท็จจริง

20 กรกฎาคม 2559
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

จากกรณีนายระพีพัฒน์ ศิรสิทธิ์ดำรงกิจ อายุ 28 ปีแอบโอนเงินจากบัญชีนางศิริกานต์ ผู้เป็นมารดาไปให้ "วีเจสาวไอโชว์"ซื้อของขวัญเป็นไอคอลหลายครั้งๆละ 1-6 หมื่บาทตั้งแต่ปลายปี 2558 จนปัจจุบันรวมเป็นเงิน 1.2 ล้านบาท

ล่าสุด วีเจสาวไอโชว์ ( น.ส.โฟว์) ที่ตกเป็นข่าวออกมาเปิดโปงข้อเท็จจริงผ่านรายการสดทาง 4 จีรายการต่างคนต่างคิด ช่องอัมรินทร์ทีวีว่า ได้รับเงินโอนเป็นค่าเล่นเกมส์และค่าเติมเงินจากนายระพีพัฒน์ตั้งแต่เดือน มี.ค.จนถึงเกิดเรื่องล่าสุดรวมแล้วประมาณ 3.8 แสนบาทเท่านั้น ไม่ใช่ 1.2 ล้านบาทตามที่เป็นข่าว ส่วนจะโอนไปให้คนอื่นอีกหรือไม่ ไม่ทราบและขอยืนยัน ไม่เคยบังคับขู่เข็ญใดๆเป็นการโอนมาให้บัญชีของตนเองเพื่อเล่นเกมส์และเติมเงินและให้เองโดยที่ไม่ได้ร้องขอ
"วันนี้ที่ออกมาชี้แจง อยากบอกว่า มันไม่ได้เป็นอย่างที่ข่าวออก หนูไม่ได้เอาเงิน 1.2 ล้านบาทของเขาไปมันเป็นเงินที่เขาโอนมาให้เติมเงินและซื้อของขวัญ และมีให้ใช้ส่วนตัวบ้าง ขอย้อนไปว่า ก่อนหน้านี้รู้จักกับพี่แนต (ฝ่ายชาย) ทางโปรแกรม จากนั้นก็ติดต่อกันทางเฟสบุ๊คและทางไลน์คุยกันตั้งแต่เดือน มี.ค.จนมา นัดเจอตัวกันครั้งแรกวันที่ 18 เม.ย.ตอนนั้นขับรถกลับจากบ้านทางเหนือ เลยซื้อของฝากให้พี่เขาแล้วแวะให้ที่ปั๊มน้ำมันถนนสายเอเซีย ตอนนั้นหนูก็มากับพี่สาว ส่วนพี่เขาก็มาพร้อมแม่และน้องสาว" น.ส.โฟว์ กล่าว

"วีเจสาว" แถลงชี้แจงข้อเท็จจริง


ต่อมาช่วงหลังมีการคุยกันส่วนตัวและได้เจอกัน แต่ก็ไม่บ่อยนักประมาณ 3-4 ครั้ง จะเรียกได้ว่าเป็นช่วงที่กำลังศึกษาดูใจก็ว่าได้ หรือจะเรียกว่าคบเป็นแฟนก็ใช่ ซึ่งการที่จะนัดเจอกันหรือจะมาคบข้างนอก ก็ไม่เกี่ยวกับแอพพริเคชั่น ไม่เกี่ยวกับบริษัท เป็นความพึงพอใจของทั้งสองฝ่าย เหตุผลที่ยอมเจอฝ่ายชาย เพราะเป็นช่วงที่คบกัน ถ้าคิดตั้งแต่เดือน มี.ค.ที่พี่เขาเล่นเกมส์ก็โอนมาเรื่อยๆ 5 หมื่นบาทบ้าง เติมเงิน 3 หมื่นบาทบ้าง แต่หนูจะบอกว่า คนที่ส่งของขวัญให้หนู ไม่ได้มีเขาคนเดียว มันไม่ได้เกี่ยวว่า เหตุยอมไปเจอเพราะเขารวย คนที่ส่งให้เยอะกว่า เขาก็มี โดยเฉพาะพวกเสี่ยๆหลายคน ให้มากกว่าเขาอีก
น.ส.โฟว์ กล่าวต่อว่า ระหว่างที่มีการคบหาและเจอกัน ตนเองไม่รู้เลยว่า เขาเอาเงินมาจากไหน แต่ที่คุยกันมาเขาบอกว่า เขาเป็นเสาหลักของบ้าน เป็นคนหาเงินเอง ช่วงที่เจอกันนอกจากครั้งแรกตอนนั้น ก็เจออีกทีวันที่ครั้งที่ 2 วันที่ 25 เม.ย. ตนเองอยากไปไหวพระที่อยุธยาฯ เลยโทรหาและไปพักโรงแรมคนเดียวไม่ได้นอนที่บ้านเขา ต่อมาครั้งที่ 3 วันที่ 9 พ.ค. เพราะเอาแหวนทองไปให้เขาที่บ้าน และนั่งคุยอยู่สักพักจึงกลับจากที่นั่นประมาณ 21.00 น. แต่จู่ๆช่วงขับออกมาสักพักรถก็ดับวูบไปเลยโทรตามให้เขามาช่วยลากรถ และหลังจากรถเสียคืนนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันเอีกเลย เพราะมีเหตุการณ์ที่ทำให้ห่างกันจนถึงวันที่ 27 มิ.ย.เขาโทรมาถามทางแต่ตนเองไม่ได้คุยอะไร

"วีเจสาว" แถลงชี้แจงข้อเท็จจริง


"ยอมรับว่า บางครั้งที่เจอกันเขาก็ให้เงินบ้าง แต่ก็ไม่ได้ขอ เขาให้เอง ให้ครั้งละเป็นหมื่น บางทีก็โอนเงินมามากที่สุดประมาณ 1 แสนบาท และเคยโอนเข้ามา 4 -5 หมื่นบ้าง ก็ยอมรับว่า ็ตอนนั้นเป็นช่วงศึกษากัน คงไม่ผิดที่คนเป็นแฟนจะให้เงินเป็นเรื่องปกติ หากถามว่าเป็นแฟนไหม คือเป็นแฟนค่ะ จนเป็นข่าวรู้ว่าเองเงินจากแม่มาก็ตกใจ ส่วนเรื่องซื้อรถให้ ไม่จริง ตอนแรกจะช่วยออกเงินดาน์ว 1 แสน แต่พอมีเรื่องได้โอนคืนแม่เขาไปแล้ว ก่อนหน้าจะมีข่าว เราก็อยู่ด้วยกันและติดต่อกับแม่ตลอด เคยเจอแม่เขามาก่อนหน้านี้แล้ว และแม่ก็รู้ว่า ลูกชายเขาคบหากับโฟว์ในฐานะเป็นแฟนกัน " น.ส.โฟว์กล่าวและว่า
เรื่องที่แม่ไปแจ้งความและตำรวจจะเอาผิดตนเองข้อหารับของโจร ตอนนี้ยังคิดอะไรไม่ออกว่าจะทำอย่างไร ขอปรึกษาพี่สาวและผู้ใหญ่ก่อน ข่าวที่ออกมาเป็น 1.2 ล้านนั้นไม่ใช่ความจริง เขาให้มาแค่ 3.8 แสนบาทและไม่เคยหลอกให้รักแล้วตีจากอย่างที่เขาให้ข่าว และไม่ได้ทิ้งไว้ข้างทาง หรือเอาเขาไปปล่อยที่ไหน หากถามว่าถ้าเขาไม่มีเงินจะยอมคบเป็นแฟนไหม ขอตอบเลยว่า ไม่ได้คบคนที่เงิน เรื่องคดียังตอบไม่ได้เหตุการณ์ยังไม่เกิด จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้บอกเลิกกัน เพียงแค่ไม่รับโทรศัพท์เท่านั้น เพราะไม่อยากให้เขาเดือดร้อน เงินที่เขาโอนเข้ามาก็เอาไปเติมเงินให้ มีบางส่วนเอาไปใช้ด้วยเพราะเขาให้เอง ส่วนจะกลับปทำงานตรงนั้นอีกไหม คงยากแล้วเพราะตอนนี้สังคมก็ประนามตนเองและิมีคอมเม้นท์ค่อนข้างแรง คงไม่กล้ากลับไปจัดรายการอีก

"วีเจสาว" แถลงชี้แจงข้อเท็จจริง

logoline