พร้อมด้วยของกลาง 1. เสื้อยืดสีดำ แขนสั้น จำนวน 1 ตัว ( เสื้อผ้าที่ผู้ต้องหาสวมใส่ขณะก่อเหตุ ) , 2. กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน จำนวน 1 ตัว ( เสื้อผ้าที่ผู้ต้องหาสวมใส่ขณะก่อเหตุ ) , 3. กระเป๋าเงินสีน้ำตาล จำนวน 1 ใบ , 4. มีดปลายแหลม ยาวประมาณ 12 นิ้ว โดยกล่าวหาว่า "ฆ่าผู้อื่น และพาอาวุธมีดไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร" ตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.1406/2559 ลงวันที่ 19 ก.ค.
พ.ต.ท.เขมรินทร์ กล่าวว่า สำหรับพฤติการณ์ของคนร้ายรายนี้ คือ เมื่อวันที่ (18 ก.ค.59) เวลาประมาณ 11.30 น. ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทง น.ส.ศิลาณี ระดมสุข ที่บริเวณหน้าอก,กกหู,คอ จำนวนหลายแผล จนถึงแก่ความตายแล้วหลบหนีไป เหตุเกิดบริเวณหน้าลิฟท์ชั้น 27 อาคารเอไอเอฯ ชั้น27 ถ.รัชดาภิเษก แขวง/เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานและพิสูจน์ทราบ จนเชื่อว่าผู้ต้องหาเป็นผู้กระทำความผิด จึงได้ออกสืบสวนติดตาม และขออนุมัติต่อศาลอาญา ออกหมายจับผู้ต้องหานี้ไว้ ต่อมาจากการสืบสวนพบว่า ผู้ต้องหาได้หลบซ่อนอยู่ที่บ้านเลขที่ 5 ม.6 ต.บ้านสร้าง อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงได้ไปจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
"ก่อนเข้าจับกุม ได้เชิญตัวญาติของนายทรงยศ มาทำการสอบถาม โดยพบว่าญาติรายนี้มีท่าทางพิรุธ พูดจาวกไปวนมา ซึ่งขณะสอบถามอยู่นั้น ได้มีโทรศัพท์ติดต่อเข้ามา โดยญาติของนายทรงยศ ได้พูดโทรศัพท์และมีพิรุธตลอดเวลา และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถาม จึงทราบว่า ญาติรายนี้ได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายทรงยศ และทราบว่า ผู้ต้องหาได้หนีไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่บ้านญาติที่ ต.บ้านสร้าง อ.บางปะอินทร์ จ.พระนครศรีอยุธยา" หลังทราบแหล่งกบดาน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน พร้อมด้วยกำลัง จึงได้เดินทางไปควบคุมตัวผู้ต้องหา ตามที่ญาติให้การ ทั้งนี้ ภายหลังจากการควบคุมตัวผู้ต้องหาได้แล้ว นายทรงยศ อ้างว่า สาเหตุที่ลงมือทำไปเพราะเกิดความโมโห และบันดานโทสะหึงหวง โดยไม่ทราบมาก่อนว่า ผู้หญิงคนนี้มีสามีมาก่อนแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาได้คบหาดูใจกันมาตลอดระยะเวลา 3 เดือน ก่อนที่จะมีปากเสียงกันและก่อเหตุใช้อาวุธมีดกระหน่ำแทงไม่ยั้งจนเสียชีวิตคาที่ ภายหลังเกิดเหตุจึงได้หลบหนีไปที่บ้านพักย่านคลองเตย พร้อมกับเปลี่ยนเสื้อผ้า และกางเกง โดยทิ้งลงในถังขยะ จากนั้นจึงได้หลบหนีไปบ้านญาติที่ จ.พระนครศรีอยุธยา