พญ.ใจทิพย์ รุจนเวชช์ รอง ผอ.รพ.หนองคาย กล่าวว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยชายคนดังกล่าวเป็นญาติผู้ป่วยที่มาเยี่ยมภรรยาที่เข้ารักษาตัวใน รพ.หนองคาย แล้วเกิดอาการเอะอะโวยวาย เจ้าหน้าที่จึงพาไปตรวจคลื่นสมองแล้วนำตัวมาพักดูอาการที่ห้องฉุกเฉิน โดยใช้ผ้ามัดที่มือทั้ง 2 ข้าง ซึ่งระหว่างนั้น แพทย์เวรห้องฉุกเฉินกำลังสั่งจ่ายยาให้คนไข้รายอื่นอยู่ ไม่นานชายคนดังกล่าวสามารถแก้ผ้าที่มัดข้อมือที่ยึดติดกับเตียงออกได้ แล้วลุกขึ้นตรงไปใช้ผ้าที่รัดข้อมือตัวเองไปรัดคอแพทย์เวรคนดังกล่าว เจ้าหน้าที่และญาติคนไข้ได้เข้าช่วยกันจับตัวชายคนดังกล่าวออกมาได้
จากการสอบประวัติชายที่ก่อเหตุทราบว่า เป็นชาว อ.เฝ้าไร่ มีประวัติป่วยด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง ขั้นตับแข็ง และไม่ได้ดื่มสุรามา 4 วัน จึงเกิดอาการหูแว่ว เห็นภาพหลอน และคลุ้มคลั่ง เกรงว่าจะมีใครมาทำร้าย ลักษณะเหมือนการขาดยาเสพติดทั่วไป แพทย์จึงได้ทำการรักษาจนอาการดีขึ้น ซึ่งขณะนี้กลับบ้านได้แล้ว และในช่วงที่เกิดเหตุตัวเองก็ไม่ทราบว่าทำอะไรลงไปบ้าง พร้อมได้ประสานกับ รพ.เฝ้าไร่ ให้ติดตามอาการของผู้ป่วยรายนี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งคนที่ป่วยด้วยโรคนี้จะต้องได้รับการดูแลจากจิตแพทย์ เพราะการทำงานของสมองจะไม่เหมือนคนปกติ จะต้องได้รับการควบคุมด้วยยา และการบำบัดคู่กันไป แต่คนนี้ไม่ทราบประวัติ เพราะไม่ใช่คนไข้ในเขตของเรา จึงต้องย้อนกลับไปดูประวัติของผู้ป่วยว่า รักษาตัวด้วยการกินยาอย่างต่อเนื่อง ส่วนแพทย์เวรนั้น ขณะเกิดเหตุมีอาการตกใจ และมีรอยแดงจากการถูกผ้ารัดที่คอ ทาง รพ.ได้เข้าเยี่ยมและให้กำลังใจ และก็สามารถทำงานได้ตามปกติ
ด้าน นายแพทย์ฉัตรชัย บุญประชารัตน์ ประสาทศัลยแพทย์ หัวหน้าแผนกเวชศาสตร์ฉุกเฉิน กล่าวว่า การดูแลความปลอดภัยทั้งผู้ป่วย ผู้มาใช้บริการ และบุคลากรนั้น มีแนวทางป้องกันดูแลอยู่แล้ว หลังเกิดเหตุการณ์ทางโรงพยาบาลได้มีการทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น เพื่อวางมาตรการดูแลป้องกันความปลอดภัย เช่น มีระบบแจ้งเตือนภัยเรียก รปภ. เนื่องจากบุคลากรของเรามีไม่เพียงพอในทุกจุด จึงต้องมีการวางมาตรการป้องกันเพิ่มขึ้น มีจุดเรียกกรณีมีเหตุฉุกเฉิน และจะมีการซ้อมแผนทบทวนในกรณีที่มีผู้ป่วยภาวะทางจิต ซึ่งจะมีการดำเนินการต่อไป เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก
พญ.ใจทิพย์ รุจนเวชช์ รอง ผอ.รพ.หนองคาย กล่าวเสริมว่า อยากฝากเตือนคนที่อยากจะงดเหล้า โดยเฉพาะช่วงเข้าพรรษา ต้องรู้จักอาการ และการปฐมพยาบาลเบื้องต้น กรณีคนไข้คลุ้มคลั่ง ต้องพยายามทำให้คนไข้สงบ และรู้สึกผ่อนคลาย ให้คนรู้จักพูดคุยอย่างเป็นกันเอง จากนั้นค่อยพามาพบแพทย์เข้ารับการรักษาที่ถูกวิธี ผู้ป่วยโรคพิษสุราเรื้อรังต้องได้รับการรักษาควบคู่กับอาการทางจิต โดยใช้การบำบัดและกินยาคู่กัน รวมทั้งเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิด เหตุการณ์ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยกับทางโรงพยาบาล แต่ก็มีการรักษาความปลอดภัยกรณีฉุกเฉิน ทั้งกับคนไข้ ญาติคนไข้ และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอยู่แล้ว