svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

นักศึกษาปี 4 ฆ่าฝังสาวรุ่นพี่

17 กรกฎาคม 2559
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

นครศรีธรรมราช - อึ้งสุดเหี้ยมพบนักศึกษาสถาบันดังผู้ต้องหาฆ่าแฟนสาวสถาบันเดียวกันหลังก่อเหตุฆ่าฝังดินแล้วไปบันทึกคลิปวีดีโอตัวเองดราม่าเรียกร้องให้แฟนสาวกลับมาและทำทีโพสท์ลง FB ให้ผู้พบเห็นแจ้งเบาะแส สังคมออนไลน์ถล่มยับ

วันนี้ (17 ก.ค.59) ภายหลังจากที่ตำรวจได้คุมตัว นายทัตพงศ์ พรหมชัยศรี อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110/2 ม.7 ต.กะแหระ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช นักศึกษาปี 4 สถาบันแห่งหนึ่งเข้าชี้จุดเกิดเหตุและจุดฝังศพ น.ส.พรธิดารัตน์ ศรีวิเชียร อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123 ม.3 ต.ขุนทะเล อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช นักศึกษารุ่นพี่ที่ชอบพอ และได้นำศพไปฝังไว้ในป่าท้องที่ ม.7 ต.กุแหระ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช และขุดศพขึ้นมาในสภาพจำเค้าเดิมไม่ได้ เนื่องจากถูกฝังไว้เป็นเวลากว่า 10 วัน หลังจากที่นายทัตพงศ์ ได้ก่อเหตุฆ่าและฝังอำพรางไว้ในจุดดังกล่าว



อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบใน FB . ของนายทัตพงศ์ ผู้ต้องหาซึ่งใช้ชื่อว่า "คุณชายเอ็ม แดนเทวดา" พบว่านายทัตพงศ์ ได้บันทึกคลิปตัวเองและโพสท์ เมื่อวันที่ 3 ก.ค.59 ซึ่งเป็นวันที่นายทัตพงศ์ก่อเหตุฆ่า น.ส.พรธิดารัตน์ หรือแพน หรือเพนกวิน แล้วฝังไว้ในหมู่ที่ 7 ต.กุแหระ อ.ทุ่งใหญ่ โดยนายทัตพงศ์ได้ระบุว่า "แพนไม่น่าทำแบบนี้เลย เรารักแพน ขอให้แพนกลับมานะ แพนทำให้เราทุกอย่าง เรารักแพน" ซึ่งเป็นคลิปที่ทำขึ้นกลังจากที่นายทัตพงศ์ ได้ก่อเหตุและนำสพของ น.ส.พรธิดารัตน์ฝังดินไปแล้ว



ขณะเดียวกันอีกหลายวันถัดมานายทัตพงศ์ ได้โพสท์อีกหลายข้อความทำนองประกาศหาเบาะแสของผู้ตายโดยโพสท์ภาพของผู้ตาย และ ทิ้งเบอร์โทรศัพท์หากใครพบเห็นให้แจ้งมาที่เบอร์โทรศัพท์ของนายทัตพงศ์



สำหรับ น.ส.พรธิดารัตน์ ผู้ตายนั้นได้หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.59 ที่ผ่านมา มีผู้พบเห็นครั้งสุดท้ายในเขต ต.กะปาง อ.ทุ่งสง ซึ่งนายสมพิศ ศรีวิเชียร อายุ 49 ปี และนางสภาณี ศรีวิเชียร อายุ 47 ปี พ่อกับแม่ได้ออกตามหาก่อนแจ้งความไว้ที่ สภ.กะปาง และ สภ.ทุ่งสง เพื่อช่วยตามหากว่า 10 วันขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย จนพบว่าสัญญาณโทรศัพท์ของผู้ตายได้หายไปในช่วงท้องที่หมู่ที่ 7 ตำบลกุแหระ อำเภอทุ่งใหญ่ 



ซึ่งพบว่าเป็นละแวกบ้านเดิมของนายทัตพงศ์ จึงเข้าไปเชิญตัวนายทัตพงศ์ และพบว่ากำลังเสพน้ำต้มกระท่อมจึงจับกุมในข้อหาผลิตน้ำต้มพืชกระท่อม มาดำเนินคดีและมีการสอบสวนเค้นอย่างหนักจนนายทัตพงศ์ยอมรับสารภาพและพาเจ้าหน้าที่ไปนำชี้ที่เกิดเหตุ และให้เจ้าหน้าที่ขุดศพของ น.ส.พรธิดารัตน์ขึ้นมา รวมทั้งทำแผนประกอบคำรับสารภาพไปพร้อมกัน



ส่วนศพของ น.ส.พรธิดารัตน์ นั้นเจ้าหน้าที่ได้ส่งไปชันสูตรอย่างละเอียดที่ศูนย์นิติเวช จ.สุราษฎร์ธานี โดยขณะนี้มีข้อสงสัยว่าในช่วงเวลาที่ถูกฝังนั้น น.ส.พรธิดารัตน์ ถูกฝังในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ หลังจากนั้นจะเปิดโอกาสให้ครอบครัวของ น.ส.พรธิดารัตน์ รับศพไปบำเพ็ญกุศล ส่วนนายทัตพงศ์ ผู้ต้องหาเจ้าหน้าที่ได้เร่งทำสำนวนรวมทั้งขออำนาจศาลฝากขัง และคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญมีอัตราโทษสูงเกรงว่าจะมีการหลบหนี


logoline