ค้นรังใหญ่เว็บไซต์ขายยา เสริมสมรรถภาพทางเพศ 8จุด พบสินค้าไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท

เมื่อเวลา12.00น. วันที่13ก.ค.59พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.ชลบุรี สืบทราบว่ามีผู้ลักลอบเปิดเว็บไซต์จำหน่ายยาเพิ่มสมรรถภาพทางเพศและสินค้านำเข้าจากต่างประเทศอย่างผิดกฎหมาย และมีสถานที่พักรวมถึงสถานที่ดำเนินธุรกิจอยู่ในพื้นที่เมืองพัทยา และพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.ปรีดา เปี่ยมวารี รอง ผบก. พร้อมด้วย พ.ต.ท.ชิตเดชา สองห้อง รอง ผกก.สส.สภ.นาจอมเทียน ช่วยราชการศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ภ.จว.ชลบุรี (ศปอช.ภ.จว.ชลบุรี) ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา และ สภ.หนองปรือ ท้องที่รับผิดชอบ วางแผนแบ่งกำลังออกเป็น8สาย ก่อนกระจายกันเข้าตรวจค้นสถานที่เป้าหมายรวม8จุด

จุดแรกและเป็นเป้าหมายหลัก ตำรวจเข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่16/23ในซอยมาบยายเลีย31(ซอยลับแล) หมู่5ต.หนองปรือ อ.บางละมุง ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียวมีรั้วรอบขอบชิด ตรวจสอบพบ นางณภัทร วาซิเลนโก เจ้าของบ้านซึ่งเป็นภรรยาชาวรัสเซีย นั่งอยู่ด้านใน เจ้าหน้าที่จึงแสดงหมายศาลก่อนเข้าทำการตรวจค้นพบยาเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชายชนิดเจล ยี่ห้อ"TiTan Gel"จำนวน2,000กล่อง และเอกสารต่างๆ ที่น่าจะเกี่ยวข้อง จึงยึดไว้ตรวจสอบ

จุดที่2เข้าตรวจค้นตึกแถวสูง3ชั้น เลขที่202/174ในโครงการรัตนากร วิลเลจ25ซอยเพนียดช้าง ย่านพัทยากลาง ซึ่งด้านหน้าเปิดเป็นโรงเรียนสอนภาษาชื่อ"พลัสพัทยา"แต่ภายในเป็นสถานที่บรรจุสินค้าหลากหลายชนิดลงหีบห่อ และแพ็คสินค้าจัดส่งไปให้ผู้สั่งซื้อทางไปรษณีย์ พบพนักงานบรรจุหีบห่อชาย-หญิงรวม6คน กำลังทำงานอยู่ด้านใน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้ ตรวจค้นในอาคารทั้ง3ชั้น พบสินค้าที่บรรจุหีบห่อแล้วและที่ยังไม่บรรจุ อาทิ ยาเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชายชนิดเจล ยี่ห้อ"TiTan Gel", อุปกรณ์ประหยัดพลังงาน ทั้งไฟบ้าน น้ำมันรถ และแก๊ส , ที่ล็อคนิ้ว , อุปกรณ์กระชับสัดส่วน และน้ำยาขัด-เคลือบฟันขาว อีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งบางส่วนได้บรรจุใส่ซองเตรียมส่งไปรษณีย์ไปให้กับลูกค้าแล้ว

จุดที่3ตรวจค้นบริษัท เอ็น.เอ.เซอร์วิส (ไทยแลนด์) จำกัด ตั้งอยู่เลขที่202/132ในโครงการเดียวกันกับจุดที่2ซึ่งเปิดเป็นบริษัทรับทำวีซ่า , ใบอนุญาตทำงาน และรับจดจัดตั้งบริษัท พบ น.ส.จันทิรา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ48ปี เจ้าของบริษัท กับ น.ส.กัลยา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ35ปี หุ้นส่วน และพนักงานหญิงอีก2คน นั่งทำงานอยู่ด้านใน สอบถามทั้งคู่ยอมรับว่านอกจากรับทำวีซ่าแล้ว ยังรับบรรจุหีบห่อสินค้าให้กับบริษัทผู้แทนจำหน่าย แต่ไม่ขอเผยชื่อว่าเป็นบริษัทอะไร เบื้องต้นจึงทำการยึดเอกสารต่างๆ ที่คาดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับคดีไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนอีก5จุดที่เหลือพบว่าทั้งหมดเป็นอาคารพาณิชย์สูง3ชั้น กระจายอยู่ในซอยพรประภานิมิตร16ไล่ตั้งแต่บริเวณด้านข้างตลาดรัตนากรวนาสินธุ์ ไปจนถึงปากซอยมาบยายเลีย31(ซอยลับแล) ต.หนองปรือ อ.บางละมุง ซึ่งเป็นสถานที่ที่ให้พนักงานไว้คอยรับออเดอร์การสั่งสินค้าผ่านทางอินเตอร์เน็ตและทางโทรศัพท์ออนไลน์ ซึ่งแต่ละแห่งจะมีพนักงานตำแหน่งซีเนียคอยควบคุม และพนักงานนั่งทำงานคีย์ข้อมูลหน้าจอคอมพิวเตอร์ประมาณ30-40คน รวมพนักงานทั้งหมดแล้วกว่า200คน ซึ่งแต่ละคนจะได้รับค่าจ้างไม่ต่ำกว่า12,000บาทต่อเดือน

พ.ต.ท.ชิตเดชา สองห้อง หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปอช.ภ.จว.ชลบุรี เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำ นางณภัทร วาซิเลนโก เจ้าของบ้านจุดแรกที่เข้าค้น ให้การยอมรับว่าเป็นคนคอยควบคุมพนักงานทั้งหมดที่ทำหน้าที่รับออเดอร์สินค้าที่เข้ามา ก่อนส่งต่อไปให้ บริษัท เฮนเดลส์โปร จำกัด ตั้งอยู่เลขที่300/18หมู่5ต.นาเกลือ อ.บางละมุง และ บริษัท ลีดพาร์ทเนอร์ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่202/132ในโครงการรัตนากร วิลเลจ25ซอยเพนียดช้าง พัทยากลาง สถานที่เดียวกันกับบริษัทเอ็น.เอ.เซอร์วิส (ไทยแลนด์) จำกัด ที่ตำรวจเข้าตรวจค้นจุดที่3ซึ่งทั้ง2บริษัทจะทำหน้าที่แพ็คของจัดส่งให้ลูกค้าทางไปรษณีย์ โดยมีกลุ่มชาวรัสเซียเป็นนายทุนใหญ่อยู่เบื้องหลัง คอยทำหน้าที่ชักใย และเปิดเว็บไซต์โฆษณาจำหน่ายยาเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชายชนิดเจล ยี่ห้อ"TiTan Gel" และสินค้านำเข้าจากประเทศรัสเซีย ส่วนสินค้าที่ยึดได้ในครั้งนี้มีทั้งยาและอุปกรณ์การไฟฟ้าจำนวนมหาศาล รวมแล้วมูลค่าไม่ต่ำกว่า50ล้านบาท และน่าจะมีเงินหมุนเวียนเดือนละไม่ต่ำกว่า100ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตำรวจยังไม่ได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหาหรือจับกุมตัวผู้ใด แต่ก็ได้ทำการยึดสินค้า อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา และ สภ.หนองปรือ เก็บรักษาไว้ เพื่อรอเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี , สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค , เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาร่วมกันตรวจสอบอีกครั้งว่าเข้าข่ายความผิดใด ก่อนแจ้งข้อหากับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป

ส่วนความผิดที่พบในเบื้องต้นคือ สินค้าไม่ติดฉลากภาษาไทย , เลี่ยงภาษีอากร , ไม่ได้มาตรฐาน และโฆษณาเกินจริง หากพบว่าผู้ใดมีความผิด ก็จะดำเนินการจับกุมดำเนินคดีในทันที