สน.พระโขนง --- เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 12 กรกฎาคม พ.อ.นพสิทธิ์ สิทธิพงศ์โสภณ ผบ.ม.1 รอ. นำ กลุ่มวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง วินซอยสุขุมวิท 81 เข้าร้องทุขข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง เพื่อเอาผิดและดำเนินคดีกับ นายอนุพงศ์ หรือเบิร์ด วะรงค์ อายุ 40 ปี หลังมีพฤติกรมข่มขู่เรียกเก็บเงินค่าเช่าเสื้อวินในราคาสูง และมีการเรียกวินที่เช่าเสื้อไปข่มขู่ ซึ่งทางวินรถจักรยานยนต์รับจ้างเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยและไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงรวมตัวกันกว่า 40 ราย เข้าร้องทุกข์ดังกล่าว
นายสำราญ วันคำกูด คณะกรรมการวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง ซอยสุขุมวิท 81 เปิดเผยว่า วันที่ 12 ก.ค.พวกเรารวมตัวกันเข้ามาต่อสู้เพื่อความถูกต้องและความเป็นธรรม เนื่องจากถูกผู้มีอิทธิพลกดดันข่มขู่ทำให้พวกเราอยู่กันอย่างลำบาก เพราะวินซอยสุขุมวิท 81 ถือเป็นทำเลทอง จึงทำให้กลุ่มผู้มีอิทธิพลพยายามจะเข้ามาคุมวินในพื้นที่ซอยสุขุมวิท 81 ซึ่งมีคนขับวินอยู่จำนวน 151 คน โดยก่อนหน้าที่มีวินประมาณ 11 คน ตัดสินใจไม่วิ่งวินแล้ว จึงนำเสื้อวินไปขาย หรือบางคนติดหนี้ผู้มีอิทธิพลกลุ่มนี้ก็นำเสื้อวินไปให้เพื่อใช้ชำระหนี้ที่ค้างอยู่
จากนั้นผู้มีอิทธิพลอาคัยเสื้อวินที่ว่าง 11 ตัว มาปล่อยเช่าให้กับวินรถจักรยานยนต์หน้าใหม่ ในราคาตัวละ 7,000 บาท ต่อเดือน กระทั่งทางเจ้าหน้าที่ของภาครัฐจะจัดให้มีการจดทะเบียนวินรถจักรยานยนต์รับจ้างเพิ่ม ทำให้คณะกรรมการวินซอยสุขุมวิท 81 ลงความเห็นว่า จะให้วินที่เคยเช่าเสื้อจากคนกลุ่มนี้ไปจดทะเบียนเพิ่มอย่างถูกต้อง จะได้ไม่ต้องเสียเงินค่าเช้าเสื้อวินราคาแพง อาจทำให้ผู้มีอิทธิพลกลุ่มนี้เสียประโยชน์และเกิดความไม่พอใจจึงมาข่มขู่ให้เกรงกลัว เนื่องจากผู้มีอิทธิพลกลุ่มนี้มีการเปิดบ่อนพนัน ปล่อยเงินกู้และคิดดอกเบี้ยสูง มีลูกน้องและเส้นสายเยอะ บรรดาคนขับวินที่หาเช้ากินค่ำก็เกิดความหวาดกลัว
"การที่จะรับวินคนใหม่มาเพิ่มนั้นต้องหารือกับคณะกรรมการของวินนั้นๆด้วย มากหรือน้อยต้องจัดสรรให้พอเหมาะลูกค้า หากวินมีมากไปแต่ลูกค้าเท่าเดิมก็จะส่งผลกระทบกับรายได้ของสมาชิกในวิน ทำให้ผู้มีอิทธิพลอาศัยช่องว่าที่คณะกรรมการไม่เพิ่มจำนวนวิน เอาเสื้อวินของคนที่เคยลงทะเบียนอย่างถูกต้องมาปล่อยให้เช่า ซึ่งผู้มีอิทธิพลนี้เคยเรียกเก็บค่าวินมากว่า4-5ปีแล้ว ตั้งแต่ทางรัฐยังไม่มีการจดทะเบียนวินจยย.รับจ้าง ต่อมาหลังจากที่ภาครัฐจัดให้มีการจดทะเบียนวิน จึงทำให้เราหลุดพ้นในส่วนที่มีการเรียกเก็บเงินมาได้ พวกเราจึงอยากให้เพื่อนๆ ที่วิ่งวินตรงนี้หลุดพ้นเหมือนกัน" นายสำราญ กล่าว
ด้าน พ.อ.นพสิทธิ์ กล่าวว่า ผู้มีอิทธิพลกลุ่มนี้เคยถูกจับกุมมาแล้วเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งในการดำเนินการครั้งนั้นเป็นไปตามนโยบายการกวาดล้างผู้มีอิทธิพลปล่อยเงินกู้นอกระบบและมีอาวุธปืนในครอบครอง โดยได้เข้าค้นภายในอาคารพาณิชย์เลขที่ 350 และห้องพักเลขที่ 841/110 ชั้นที่ 4 แฟลตผ่องใส ซอยอ่อนนุช 10 แขวงและเขตสวนหลวง กทม. พบนายสมพงษ์ วะรงค์ 64 ปี ,นายอนุพงษ์ วะรงค์ อายุ 40 ปี และ นายอนุรักษ์ วะรงค์ 34 ปี ทั้งหมดเป็นพ่อลูกกัน พร้อมของกลางปืนหลายขนาดจำนวน 10 กระบอก พร้อมกระสุนจำนวนมาก ทองคำหนักกว่า 140 บาท และอุปกรณ์เล่นไฮโลจำนวนหนึ่ง ซึ่งจากการสอบสวนนายสมพงษ์ ในครั้งนั้นได้ให้การรับสารภาพว่า ได้กระทำความผิดจริงโดยมีอาชีพปล่อยเงินกู้นอกระบบ เป็นท้าวแชร์และให้เช่าเสื้อวินรถจักรยานยนต์รับจ้างเถื่อนในย่านอ่อนนุชอีกด้วย
"การกวาดล้างครั้งนั้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งความแก่นายสมพงษ์ ในข้อหา "มีความผิดตามพระราชบัญญัติเงินกู้" และแจ้งข้อหาแก่นายอนุพงศ์ "มียุทธภัณฑ์ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต" ซึ่งได้ทำการประกันตัวออกไปในชั้นพนักงานสอบสวน ซึ่งหลังจากนี้จะหารือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทำการยกเลิกการประกันตัว เนื่องจากทางผู้ต้องหาไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ส่วนในคดีที่โดนก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ติดต่อกับทาง ปปง. เพื่อตรวจสอบที่มาที่ไปของการเงินและทรัพย์สินต่อไป ซึ่งหากประชาชนท่านใดที่มีปัญหาถูกผู้มีอิทธิพลรังแก ก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ทหารได้ทันที" พ.อ.นพสิทธิ์ กล่าว
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง รับแจ้งความและจะดำเนินคดีข้อหากรรโชกทรัพย์แก่นายอนุพงษ์ ซึ่งหลังจากนี้ก็จะสอบพยานและเรียกตัวมาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
