ขณะที่เมื่อวานนี้(10 ก.ค. 59) ทนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ เดินสายมอบข้อมูลบุคคลใกล้ชิด"หญิงไก่"ที่สูญหายไร้ร่องรอยอย่างน้อย2รายกับตำรวจหลายหน่วยงาน มีทั้งคนขับรถคนสนิทและเศรษฐินีเจ้าของที่ดินใน จ.อุดรธานี ที่"หญิงไก่"อ้างเป็นลูกบุญธรรมของสามีเก่าขอซื้อที่ดินทำคอนโดมิเนียม แล้วพาไปอยู่ด้วย ก่อนหายตัวไปอย่างลึกลับเมื่อญาติถามกลับบอกว่าเสียชีวิตแล้วอยู่ระหว่างตรวจสอบเป็นฆาตกรรมอำพรางหรือไม่ ขณะเดียวกันพบข้อมูลว่าหญิงไก่เคยจดทะเบียนสมรสแล้วหย่าร้างกว่า 6-7ครั้งในรอบ30ปี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อวันที่11กรกฎาคม มีรายงานว่าสำหรับคดีของหญิงไก่ ที่ถูกดำเนินคดีใน ม.112นั้น มีพยานปากสำคัญ เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน พร้อมมอบหลักฐานที่เชื่อมโยงกับพฤติกรรมของหญิงไก่ ว่าเข้าข่ายหมิ่นสถาบัน โดยมักแอบอ้างว่ามีความใกล้ชิดสนิทสนมกับเจ้านายในสถาบันเบื้องสูงรวมทั้งได้เปิดบริษัทธุรกิจเกี่ยวกับการทำหวย ชื่อบริษัทริชชัวร์111(RICHSURE 111) ตั้งอยู่เลขที่159/4ถ.เทศบาลนิมิตรเหนือ34แขวง ลาดยาว เขต จตุจักรซึ่งขณะนี้ได้ปิดให้ทำการแล้ว
ทั้งนี้ในระหว่างที่หญิงไก่ได้เปิดบริษัทดังกล่าว พยานปากสำคัญเล่าว่าหญิงไก่มักอวดอ้างว่ารู้จักและสนิทสนมกับสถาบัน และมักจะอวดอุตริว่ามีญาณวิเศษสามารถที่จะให้เลขเด็ดได้ แต่ต้องมีค่าใช้จ่าย รวมทั้งได้ประกาศผ่านเพจในเฟสบุ๊ก ชื่อเพจ "รวยแน่นอน" อวดอ้างสรรคุณการใบ้หวย โดยใช้ชื่อท่านแม่สุชาดา ซึ่งมีผู้หลงเชื่อเป็นจำนวนมากอีกทั้งหลังเกิดเรื่องก็ได้ปืดตัวลง และยังมีพฤติกรรมการจ่ายเช็คเด้งเป็นค่าเช่าบริษัทให้กับทางเจ้าของอาคารอีกด้วย
มีรายงานอีกว่า ภายหลังจากการนำเสนอข่าวการจับกุมตัวหญิงไก่ หรือนางมณตา หยกรัตนกาญ แพร่ออกไปนั้น มีผู้เสียหาย พยาน ได้เดินทางเข้าให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าทีตำรวจหลายราย
ขณะเดียวกันมีรายงานว่าในกรณีที่ปรากฏข่าวของเศรษฐีนี ใน อ.เมือง จ.อุดรธานี ที่นางไก่ไปอ้างว่าเป็นลูกสาวของอดีตสามีที่เลิกรากับเศรษฐีนี คนดังกล่าวไปแล้ว พร้อมระบุว่าต้องการซื้อที่ดินจำนวน8ไร่ มูลค่า8ล้าน เมื่อปี2546นั้น ทางญาติของเศรษฐีนีคนดังกล่าว ยืนยันว่าเมื่อเดือนธันวาคม2546ที่เศรษฐีนีได้หายตัวไปนั้น นางไก่เดินทางไปรับถึงบ้าน พร้อมทั้งยังมีรถตำรวจท่องเที่ยวนำขบวนไปด้วยนั้น
ทางพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.ทท.กล่าวว่า ตนได้ทำการโทรศัพท์ไปซักถามทางนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ถึงข้อมูลดังกล่าวแล้ว ปรากฏว่า ข้อมูลดังกล่าวนั้นเป็นข้อมูลที่ประชาชนเขียนร้องเรียนมา ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2546ซึ่งขณะนั้นตนยังไม่ได้มาดำรงตำแหน่ง ทั้งนี้ขอยืนยันในฐานะผบก.ทท. ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจในยุคของตนไม่มีพฤติกรรมดังกล่าวอย่างแน่นอนทั้งนี้หากทนายสงกานต์มีหลักฐานหรือข้อมูลใดๆมามอบให้ก็พร้อมจะตรวจสอบหาข้อเท็จจริงทันที อย่างไรก็ตามการนำเสนอข่าวดังกล่าวทำให้หน่วยงานมาความเสียหายอย่างมาก