ทนายดังตั้งคำถาม ตร.เปิดประเด็นโรคจิต ชี้ทางสู้คดีให้"หญิงไก่"หรือไม่

จากกรณีพล.ต.ท. ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ออกมาให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ (8 ก.ค.59) ระบุถึงจากหลักฐานและพยานที่ทำให้เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า นางมณตา หยกรัตนกาญ หรือ "หญิงไก่" ผู้ต้องหาในคดีแจ้งความเท็จ ,พยายามค้ามนุษย์ และหมิ่นสถาบันเบื้องสูง อาจมีสภาพจิตใจไม่ปกติ จนทำให้มีพฤติกรรมบางอย่างที่ไม่สามารถควบคุมได้ ควรได้รับการรักษา ไม่ควรปล่อยเอาไว้กระทำสิ่งผิดกฎหมายและสร้างผลเสียให้ผู้อื่นอีก ซึ่งคำให้สัมภาษณ์นี้  ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมโซเชียลมีเดียไทยว่า ประเด็นการตั้งข้อสังเกตุดังกล่าว อาจทำให้ทนายความหญิงไก่ นำเรื่องสภาพจิตที่ไม่ปกติไปต่อสู้ในชั้นศาล จนทำให้รอดพ้นจากคดีความหรือไม่

ในเรื่องนี้ ทนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความชื่อดัง โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัว เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 8 ก.ค. 59 เฟสบุ๊ค แสดงความคิดเห็นในเรื่องการดำเนินคดีหญิงไก่ ว่า กรณีนายตำรวจผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง วิเคราะห์ว่า มีผู้ต้องหาสำคัญรายหนึ่ง น่าจะมีอาการทางจิต เพราะมีการจดทะเบียนสมรส และหย่าถึง 6-7ครั้ง
"การหย่า 6-7 มันบ่งบอกว่าเป็นโรคจิตตรงไหน มีหลายเหตุผลมากมาย ที่คนจดทะเบียนหย่าหลายๆ ครั้ง ท่านเป็นจิตแพทย์หรือครับ ประวัติการรักษาท่านก็ตรวจสอบไม่ได้ จู่ๆออกมาบอกว่า ผู้ต้องหาป่วยทางจิต เป็นเพราะเหตุใดครับ ชี้ช่องให้ผู้ต้องหาสู้แนวทางนี้ หรือไม่ครับ คนป่วยไม่ป่วย ต้องให้หมอวินิจฉัยก่อน ไม่ใช่ คิดเอง พูดเอง เขาฟ้องหมิ่นประมาท ออกจากราชการได้นะครับ แต่เขาคงไม่ฟ้องท่านหรอก เขาควรจะขอบคุณท่านมากกว่า ที่อุตส่าห์ชี้ทางสว่างให้" ทนายชื่อดัง กล่าว
ทนายเกิดผล ยังระบุว่า คดีหมูแฮม อ้างแบบนี้ แต่เขามีประวัติการรักษา ผู้ต้องหารายนี้ ไม่เคยมีประวัติการรักษา

ทั้งนี้ ในการให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ตำรวจสั้งข้อสันนิษฐานว่าหญิงไก่อาจมีอาการผิดปกติทางจิตจะส่งผลกระทบต่อรูปคดีหรือไม่นั้น พล.ต.ท. ฐิติราช ตอบว่า หากมีประวัติการรักษาก็มีส่วนช่วยได้บ้าง แต่หากไม่มีรายละเอียดการรักษาก็คงต้องไปต่อสู้ในกระบวนการในชั้นศาล
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ในวันนี้ (9 ก.ค.) พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รองผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่า กรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า หญิงไก่ อาจมีอาการทางจิต ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น ก็ยังต้องรับโทษตามกฎหมายเพราะยังรู้ผิดชอบชั่วดี แต่หากไม่อยากรับโทษ ก็เป็นหน้าที่ของผู้ต้องหาที่จะนำหลักฐานมาแสดงให้เจ้าหน้าที่ทราบ